หน้าแรกแกลเลอรี่

วิเคราะห์บอล FA Cup "แมนยูฯ" VS "ลิเวอร์พูล" คาด 11 ตัวจริง ฟันธงผลแข่ง

ไทยรัฐออนไลน์

17 มี.ค. 2567 06:00 น.

วิเคราะห์บอล FA Cup รอบ 8 ทีมสุดท้าย "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" VS "ลิเวอร์พูล" คาด 11 ตัวจริง สถิติ 5 นัดหลังสุด ฟันธงผลแข่ง ช่องทางชมสด

วิเคราะห์บอล FA Cup รอบ 8 ทีมสุดท้าย "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำทีม เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวเนเธอร์แลนด์ ที่มีคิวจะเปิดสนาม โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต้อนรับการมาเยือน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่มี เยอร์เกน คลอปป์ เทรนเนอร์ชาวเยอรมนี กุมบังเหียน คู่นี้ฟาดแข้งวันที่ 17 มีนาคม 2567 ฟาดแข้งเวลา 22.30 น. ช่อง บีอิน สปอร์ต 3 ถ่ายทอดสด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ชาวดัตช์ยังปราศจาก ลุค ชอว์, แอนโธนีย์ มาร์กเซียล, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, จอห์น อีแวนส์ ที่เจ็บ แต่จะได้ ราสมุส ฮอยลุนด์ กับ แฮร์รี แม็คไกวร์ ฟิตกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง โดยเกมนี้จะลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม แนวรับวาง ดิเอโก ดาโลต์ รับหน้าที่แบ็กขวา แฮร์รี แมคไกวร์, ราฟาแอล วาราน ยืนคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ดูแลฝั่งซ้าย คาเซมิโร, ค็อบบี ไมนู คุมเกมกลางสนาม มาร์คัส แรชฟอร์ด ผนึกกำลัง บรูโน แฟร์นันเดส, อเลฮานโดร การ์นาโช ปั้นเกมรุก แดนหน้าวาง ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าทีมชาติเดนมาร์กลงยืนหน้าเป้าคอยล่าตาข่าย

ลิเวอร์พูล

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังไม่มี โจแอล มาติป, อลิสสัน เบคเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, ดิโอโก โชตา และ เคอร์ติส โจนส์ ที่เจ็บ ขณะที่ อิบราฮิมา โกนาเต ยังไม่ฟิตพอ ส่วน ไรอัน กราเฟนเบิร์ช ฟิตพร้อมกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง โดยเกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือชาวเยอรมันจะเรียกตัวหลักๆ กลับมาสู่ทีมอีกครั้งหลังได้พักในเกมยุโรป แนวรับวาง คอเนอร์ แบรดลีย์, โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดก์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ขับเคลื่อนเกมกลางสนามร่วมกับ วาตารุ เอ็นโด, โดมินิค โซโบซไล แดนหน้าส่ง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ออกสตาร์ตัวจริงผนึกกำลัง ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยส์ ดิอาซ ยืนเป็น 3 ประสานแดนหน้า

รายชื่อ 11 ตัวจริงคาดว่าจะลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อ็องเดร โอนานา (GK), ดิเอโก ดาโลต์, แฮร์รี แมคไกวร์, ราฟาแอล วาราน, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, คาเซมิโร, ค็อบบี ไมนู, อเลฮานโดร การ์นาโช, บรูโน แฟร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, ราสมุส ฮอยลุนด์

นิวคาสเซิลฯ : ควีวิน เคลเลเฮอร์ (GK), คอเนอร์ แบรดลีย์, โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดก์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, วาตารุ เอ็นโด, โดมินิค โซโบซไล, อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ

ผลงาน 5 นัดล่าสุด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

09/03/24 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เหย้า/พรีเมียร์ลีก)

03/03/24 แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-3 (เยือน/พรีเมียร์ลีก)

28/02/24 ชนะ นอตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-0 (เยือน/เอฟเอ คัพ)

24/02/24 แพ้ ฟูแลม 1-2 (เหย้า/พรีเมียร์ลีก)

18/02/24 ชนะ ลูตัน ทาวน์ 2-1 (เยือน/พรีเมียร์ลีก)

ลิเวอร์พูล

14/03/24 ชนะ สปาร์ตา ปราก 6-1 (เหย้า/ยูโรปา ลีก)

10/03/24 เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-1 (เหย้า/พรีเมียร์ลีก)

08/03/24 ชนะ สปาร์ตา ปราก 5-1 (เยือน/ยูโรปา ลีก)

02/03/24 ชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-0 (เยือน/พรีเมียร์ลีก)

28/02/24 ชนะ เซาแธมป์ตัน 3-0 (เหย้า/เอฟเอ คัพ)

ผลงานที่พบกัน 5 ครั้งล่าสุด

17/12/23 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 (พรีเมียร์ลีก)

05/03/23 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 7-0 (พรีเมียร์ลีก)

23/08/22 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 (พรีเมียร์ลีก)

12/07/22 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 4-0 (กระชับมิตร)

20/04/22 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-0 (พรีเมียร์ลีก)

ทรรศนะ : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเล่นในถิ่นก็จริง แต่ช่วงหลังฟอร์มยังลุ่มๆ ดอนๆ เอาแน่นอนไม่ได้ แต่เกมนี้มีข่าวดีเมื่อ ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าตัวเก่งฟิตกลับมาสู่ทีมอีกครั้งทำให้เกมรุกน่ากลัวเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ ลิเวอร์พูล ฟอร์มยังฮอตต่อเนื่องแม้ว่าโปรแกรมจะเตะถี่ยิบ แต่ก็โรเตชันนักเตะให้ได้พักบางทำให้ไม่มีความสดของร่างกาย แถมตอนนี้ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ฟิตกลับมาออกสตาร์ตตัวจริงแล้วทำให้จงหวะเข้าทำของ "หงส์แดง" ที่อันตรายอยู่แล้วน่ากลัวมากไปอีก รูปเกมทั้งสองทีมจะเปิดเกมแลกกันตลอดทั้งเกมแน่นอนตามสไตล์เกมแดงเดือด แนวรุกทั้งคู่ค่อนข้างอันตรายต้องมาวัดกันที่แนวรับว่าใครจะพลาดพลั้งมากกว่า ดูแล้วสุดท้ายจะเป็น "หงส์แดง" ที่แนวรุกมีความเด็ดขาดและวูบวาบมากกว่าน่าจะทะลวงแนวรับเจ้าถิ่นเก็บชัยชนะไปได้ในที่สุด

ฟันธง : ลิเวอร์พูล บุกเชือด แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1

ผู้เขียน : มะระหวาน

โปรแกรมฟุตบอลประจำวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 67

เวลา        คู่แข่งขัน         สกอร์

เอฟเอ คัพ

19.45 น. เชลซี - เลสเตอร์ ซิตี้    1-1

22.30 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล    1-2

พรีเมียร์ลีก

21.00 น. เวสต์แฮม - แอสตัน วิลลา 1-2