ไทยรัฐออนไลน์
อดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูล ขอระบาย 3 สาเหตุยอมลดค่าจ้าง 75 เปอร์เซ็นต์กลับยุโรป ยันไม่ได้ซมซานจากลีกซาอุฯ
วันที่ 20 มกราคม 2567 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางทีมชาติอังกฤษ วัย 33 ปี ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังเปิดตัวย้ายจาก อัล อิตติฟาค ทีมในลีกซาอุดีอาระเบีย กลับมาค้าแข้งในยุโรปกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ยักษ์ใหญ่ศึกเอเรดิวิซีลีก เนเธอร์แลนด์ ทั้งที่เพิ่งย้ายจาก ลิเวอร์พูล ทีมชั้นนำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปขุดทองในตะวันออกกลางได้ไม่ถึง 6 เดือน
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตัดสินใจยกเลิกสัญญา 3 ปีกับ อัล อิตติฟาค ซึ่งเขารับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 700,000 ปอนด์ (31.5 ล้านบาท) แต่เพิ่งลงเล่นไปแค่ 19 นัดทุกรายการ ทำ 5 แอสซิสต์ โดยที่ยังยิงประตูไม่ได้เลย ก่อนย้ายมา อาแจ็กซ์ ด้วยสัญญา 2 ปีครึ่ง รับค่าจ้างลดลงเหลือเพียงสัปดาห์ละ 85,000 ปอนด์ (3.82 ล้านบาท) และจะเพิ่มเป็น 110,000 ปอนด์ (4.95 ล้านบาท) เมื่อรวมโบนัสต่างๆ แล้ว
อดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูล เผย 3 สาเหตุที่ยอมยกเลิกสัญญากับ อัล อิตติฟาค มารับค่าเหนื่อยน้อยลงกว่าเดิมถึง 75 เปอร์เซ็นต์กับ อาแจ็กซ์ เป็นเพราะเรื่องฟุตบอล, การใช้ชีวิต และการติดทีมชาติอังกฤษ "ผมคิดว่าหลายๆ คนอยากให้ผมนั่งอยู่ตรงนี้และวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของซาอุดีอาระเบียและทุกๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะพูดอย่างแน่นอน และไม่ใช่สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่"
"ผมให้ความเคารพลีกซาอุฯ, สโมสรอัล อิตติฟาค และผู้คนที่นั่นอย่างเต็มที่ พวกเขาทำให้ผมรู้สึกเป็นที่ต้อนรับจริงๆ โชคไม่ดีที่บางครั้งสิ่งเหล่านี้ในชีวิตก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คิด ทั้งในแง่ของฟุตบอลและชีวิตโดยทั่วไป"
"ถ้าคุณดูผู้เล่นชื่อดังหลายคนที่อยู่ที่นั่นและรักทุกวินาที และอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน คุณอาจเจอผู้เล่นอีกหลายคนที่ปรับตัวไม่ได้และไม่อยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน หรืออะไรก็ตาม สิ่งต่างๆ สามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว แต่ผมจะไม่มานั่งที่นี่แล้วพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับลีก สโมสร หรืออะไรแบบนั้นอย่างแน่นอน"
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า เฮนเดอร์สัน ปฏิเสธการย้ายกลับพรีเมียร์ลีกเนื่องจากปัญหาด้านภาษี เจ้าตัวกล่าวว่า "อย่าเชื่อสิ่งที่คุณอ่านในสื่อ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องอื่นเลยนอกจากเรื่องฟุตบอล"
นอกจากนี้ อดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูล ยังย้ำว่าการกลับมาเล่นในยุโรปก็เพื่อโอกาสติดทีมชาติอังกฤษ ไปลุยศึกยูโร 2024 รอบสุดท้าย ที่เยอรมนี ในเดือนมิถุนายนนี้ "ผมเคารพความคิดเห็นต่างๆ (รวมถึงเสียงวิจารณ์) และวิธีที่ผู้คนเหล่านั้นมองผมในฐานะคนคนหนึ่ง ผมต้องยอมรับมันและผมก็จะทำอย่างนั้นต่อไป"
"ผมติดต่อกับ แกเร็ธ เซาธ์เกต เป็นประจำ เหมือนที่ผมทำมาหลายปีไม่เปลี่ยนแปลง เขาเป็นแบบนั้นกับนักเตะทุกคน คุณรู้ไหมว่าเขาใกล้ชิดกับลูกทีมแค่ไหน ผมนึกถึงศึกยูโรและทีมชาติอังกฤษมาโดยตลอด มันเป็นเรื่องใหญ่ในการเล่นให้กับประเทศของผม นั่นเป็นเหตุผลเสมอไม่ว่าผมจะเล่นที่ไหนก็ตาม"
"ท้ายที่สุดแล้ว ผมต้องทำงานในสนามให้กับ อาแจ็กซ์ และหวังว่าผมจะถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษ"