มะระหวาน
ร้อนแรงไม่มีหยุดสำหรับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาเอาชนะ “เจ้าสัว” ฟูแลม ที่เหลือ 9 คนไปได้ 3–1 ก่อนจะตบเท้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของศึกเอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ
โดย “ปิศาจแดง” จะผ่านเข้าไปเจอกับไบรท์ตัน เพื่อนร่วมลีก ส่วนอีกคู่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจองานเบาหวิวเมื่อต้องเจอกับ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมจากเดอะ แชมเปียนชิป โดยทั้งสองคู่จะไปเตะกันที่เวมบลีย์ สเตเดียม ระหว่างวันที่ 22-23 เม.ย.นี้
ถ้าพูดถึงฟอร์มการเล่นของ “ปิศาจแดง” ในช่วงหลังๆ แม้ว่าสุดท้ายจะได้ชัยชนะอยู่ตลอด แต่ช่วงต้นเกมมักจะโดนคู่ต่อสู้เล่นงานอย่างหนักหน่วง จนบางครั้งก็โดนยิงขึ้นนำไปก่อน แต่สุดท้ายเกือบทุกครั้ง “ปิศาจแดง” จะตั้งตัวได้และก็ค่อยไล่ยิงจนพาทีมเก็บชัยชนะไปได้
ซึ่งหนึ่งในฮีโร่ผู้พิทักษ์ของยูไนเต็ด ที่คอยประคองให้เพื่อนร่วมทีมค่อยๆตั้งตัวได้จนเร่งเครื่องไปสู่ชัยชนะไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือ ดาวิด เด เคอา นายด่านวัย 32 ปี ชาวกระทิงดุ ที่เซฟอุตลุดจนพา “ผี” ผ่านวิกฤติมานักต่อนัก
ยกตัวอย่างในเกมพบฟูแลมนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด จะเสียประตูเน้นๆ 3-4 ครั้ง แต่ “หลวงพี่เด” ก็ท่องยันต์มหาอุดปัดออกไปได้ทั้งหมด โดยเฉพาะ 2 ลูกเน้นๆ ที่สาวก “เจ้าสัว” จะได้เฮแล้วแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกปั่นโค้งๆของวิลเลียนที่ใช้ปลายนิ้วปัดออก หรือลูกโหม่งของอเล็กซานเดร มิโตรวิช ที่ใครเห็นว่าเข้า แต่พี่เดก็พุ่งไปควักออกมาได้
และยังมีอีกหลายลูกมากมายที่เด เคอา เซฟช่วยชีวิต “ปิศาจแดง” ไว้มากมาย หลายต่อหลายลูกใครเห็นก็บอกว่าเข้า ไม่ว่าจะลูกไกล ลูกหน้ากรอบเขตโทษ หลุดเดี่ยว หรือโหม่งเหน่งๆ แต่เด เคอา ปัดป้องเอาไว้ได้
จนหลายคนต้องอุทานว่า “เซฟได้ไง”
โดยในซีซันนี้ เด เคอา ลงเล่นในลีกไป 26 นัด เก็บคลีนชีตได้ถึง 11 นัด เสียไป 33 ประตูด้วยกัน แต่ถ้าหากนับรวมทุกรายการลงเล่นไป 44 นัด เก็บคลีนชีตได้ 18 เกมด้วยกันและคว้าแชมป์คาราบาว คัพ มาแล้ว 1 ใบ
ไม่ใช่แค่ซีซันนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เด เคอา ก็เซฟอุตลุดเช่นกันจนสามารถช่วยทีมได้เยอะไม่เช่นนั้นคงไม่ได้เห็น “ปิศาจแดง” ไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้หรอก
แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่า เด เคอา ทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยถูกใจโค้ชทีมชาติสเปนเลยไม่ว่าจะเป็นคนเก่าอย่างหลุยส์ เอ็นริเก หรือคนใหม่อย่างหลุยส์ เด ลา ฟวนเต เพราะล่าสุดก็ไม่มีชื่อติดทัพ “กระทิงดุ” เพื่อลงคัดยูโร 2024
โดยเฉพาะในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่กาตาร์ ตอนนั้นเอ็นริเกยืนยันว่าไม่เลือก เด เคอา ไปติดทีมเนื่องจากเป็นผู้รักษาประตูที่เล่นด้วยเท้าไม่ค่อยดี แต่กลับเลือกอูไน ซิมอน (แอธ.บิลเบา), โรเบิร์ต ซานเชซ (ไบรท์ตัน), ดาบิด รายา (เบรนท์ฟอร์ด)
ซึ่งบรรดากูรูหรือแฟนบอลสเปนก็สงสัยว่าทั้ง 3 ไม่มีใครเทียบ เด เคอาได้เลยทั้งประสบการณ์ฝีมือและฟอร์มการเล่นล่าสุด ถ้าเอ็นริเกไม่มีอีโก้มากเกินไปหนีบนายด่านแมนฯ ยูไนเต็ด ไปด้วย เพราะอย่างน้อยประสบการณ์ของเจ้าตัวน่าจะช่วยประคองน้องๆได้เยอะ
พอมาเป็นยุคของลา ฟวนเต ที่ก่อนหน้านี้ออกมาประกาศว่าพร้อมเรียกทุกคนติดทีมชาติสเปนหากโชว์ฟอร์มได้ดี แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ไม่เรียกตัวของเด เคอา มาติดทีมอยู่ดีทั้งๆที่ฟอร์มดีทั้งส่วนตัวและสโมสร แต่ไปเลือกซานเชซ, รายา และ เกปา อาร์ริซาบาลากา ของเชลซี มาติดทีมแทน
ทั้งๆที่ฟอร์มของทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นส่วนตัวและฟอร์มของสโมสรไม่ได้ดีกว่าเด เคอา เลย
สงสัยเด เคอา คงจะต้องเก็บคลีนชีตทุกนัดที่ลงแข่งเพื่อให้บรรดาเหล่ากุนซือ (ใจแคบ) ทั้งหลายถึงจะเรียกตัวเขากลับไปรับใช้ชาติอีกครั้ง
สุดท้ายทุกคนก็เรียกผู้เล่นเอาที่ตัวเองชอบทั้งนั้นทีหลังก็อย่ามาพูดว่าดูจากผลงาน เพราะมันทำให้เสียความรู้สึก!!
มะระหวาน