ซีอีโอสื่อดังเขมร ไขข้อข้องใจ ทำไม “ฟุตบอลชายกัมพูชา” ต้องมาเก็บตัวไทย ก่อนบู๊ซีเกมส์

ซีอีโอสื่อกีฬาชื่อดังเขมร ไขข้อข้องใจ ทำไม “ฟุตบอลชายกัมพูชา” ต้องลัดฟ้ามาเก็บตัวที่ “ไทย” ทั้งที่เป็นเจ้าภาพ “ซีเกมส์ 2023”

วันที่ 27 ก.พ. 66 ความเคลื่อนไหวหลังจากสหพันธ์ฟุตบอลกัมพูชา ประกาศรายชื่อผู้เล่น U-22 ทีมชาติ จำนวน 30 คนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าแคมป์ฝึกซ้อม ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะแข่งขันระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม นี้ แต่ฟุตบอลจะเป็นกีฬาแรกที่เริ่มแข่งขันก่อนในวันที่ 29 เมษายน 

ทั้งนี้นักเตะทั้ง 30 คน จะเข้าร่วมเก็บตัว ภายใต้การนำทีมของ เคสุเกะ ฮอนดะ กุนซือของทีมที่จะคุมทัพ "อังกอร์" เป็นรายการสุดท้าย โดยนักเตะหลายรายเคยผ่านการลุย ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เมื่อปีที่แล้ว (2022) ที่ประเทศเวียดนามมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ลิม อรุณ, เนียง โซซิดัน, จู ซินติ, มิน รัตนัค และ ซิน โสวัณน์ มาการะ

แผนงานดังกล่าว ทำให้ชาวเขมรในโลกออนไลน์หลายราย ออกมาแสดงความคิดเห็นตำหนิการตัดสินใจเดินทางมาเก็บตัวที่ประเทศไทย บ้างก็ทวงถามไปยังสมาคมว่าเพราะเหตุใดถึงต้องเดินทางไปฝึกซ้อมที่ประเทศไทย ประเทศที่กำลังมีดราม่าเรื่อง มวยไทย และ กุน ขแมร์ ใครก๊อปใครอยู่ในขณะนี้

ล่าสุด ยง มงฮัก ซีอีโอของ AMS SPORTS สื่อกีฬาชื่อดังของกัมพูชา ได้ออกมาเปิดเผย 4 ปัจจัยที่ทำให้สหพันธ์ฟุตบอลกัมพูชา เลือกส่งนักกีฬามาเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศไทย โดยมีดังนี้

1. เวลาและสภาพอากาศ : ประเทศไทย มีเวลาและสภาพอากาศที่ร้อนชื้นเหมือนกัมพูชา จึงช่วยให้ผู้เล่นของเราไม่ต้องปรับตัวกับสภาพอากาศ การฝึกซ้อมในประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นก็ไม่เหมาะสำหรับเก็บตัวเพื่อซีเกมส์ เนื่องจากกัมพูชาเป็นประเทศร้อน

2. สภาพแวดล้อมใหม่ : แม้ว่าจะไม่ไกลจากกัมพูชานัก แต่ในประเทศไทย จะทำให้เรามีสมาธิที่ดีขึ้น พวกเขาจะจดจ่อกับเรื่องส่วนตัวน้อยลง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มักจะลงสื่อสังคมออนไลน์ของกัมพูชาในปัจจุบัน ซึ่งในบางกรณีก็ส่งผลกระทบต่อสมาธิของพวกเขาด้วย

3. คู่แข่งรายใหม่ : การฝึกซ้อมในประเทศไทยไม่ใช่แค่การฝึกซ้อมเท่านั้น แต่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศฟุตบอลที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค และประเทศไทยมีทีมฟุตบอลจำนวนมาก เราจึงมีโอกาสที่จะแข่งขันกับทีมต่างๆ มากมายเพื่อเสริมสร้างคุณภาพของทีม ถ้ากัมพูชาเล่นแต่ผู้เล่นชุดเดิมก็ยากที่จะวัดระดับความสามารถที่แท้จริง

4. รักษามิตรภาพ : ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน เราไม่ควรอยู่แบบสันโดษ ในแง่ของพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่ ถ้าบ้านด้านซ้ายและเราไม่ถูกกัน มันก็ทำให้เราอยู่ลำบาก