ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วงการลูกหนังโลกเศร้า “ไข่มุกดำ” เปเล่ ตำนานหมายเลข 10 กองหน้าทีมชาติบราซิลเจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลก 3 สมัย เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 82 ปี หลังต่อสู้กับอาการป่วยจากมะเร็งลำไส้ใหญ่มาเป็นเวลานาน รัฐบาลบราซิลประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ 3 วัน ก่อนนำร่างวีรบุรุษลูกหนังไปฝังที่เมืองซานโตส บ้านเกิด ด้านบรรดาแข้งซุปเปอร์สตาร์ก้องโลกอย่าง “ลิโอเนล เมสซี-คริสเตียโน โรนัลโด-เนย์มาร์” โพสต์เศร้าไว้อาลัย ไม่มีใครลืม “คิง เปเล่”
สิ้นแล้ว ราชาลูกหนังโลก เปเล่ ตำนานหมายเลข 10 กองหน้าทีมชาติบราซิล หลังเสียชีวิตอย่างสงบ จากการต่อสู้กับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มาอย่างยาวนาน ที่โรงพยาบาลอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.65 ตามเวลาท้องถิ่นหรือช่วงเช้ามืดวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย
ทั้งนี้ อดีตกองหน้าชาวแซมบ้า วัย 82 ปี เข้ารักษาตัวตั้งแต่เดือน ก.ย. 65 กระทั่งช่วง พ.ย.ที่ผ่านมา มีอาการทรุดหนักจากโรคมะเร็ง ต้องนำเข้ารักษาตัวโดยด่วน จนสัปดาห์ที่ผ่านมา เคลี นาสซิเมนโต ลูกสาวเปเล่ ได้เข้ามาดูแลพร้อมอัปเดตอาการป่วยเป็นประจำทุกวัน พร้อมขอให้แฟนบอลช่วยกันภาวนาให้คุณพ่อพ้นจากอาการโคม่า ล่าสุดมีการเปิดเผยจากครอบครัวของ เปเล่ ว่าอดีตตำนานทีมชาติบราซิลได้เสียชีวิตแล้ว โรงพยาบาลระบุว่าการทำงานของตับ และหัวใจของเขาล้มเหลว เสียชีวิตลงด้วยวัย 82 ปี
ทันทีที่เปเล่ เสียชีวิต รัฐบาลบราซิล ประกาศไว้อาลัยเป็นเวลา 3 วัน ขณะที่สื่อต่างประเทศรายงานว่า พิธีไว้อาลัยนักเตะผิวสีผู้นี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.-เช้าวันที่ 3 ม.ค. จะมีทางเข้าออกสำหรับประชาชนทั่วไป และทางเข้าแยกต่างหากสำหรับเจ้าหน้าที่การเมืองและบุคคลสำคัญอื่นๆรวมถึงสื่อมวลชน ส่วนงานพิธีศพส่วนตัวของครอบครัว จะมีขึ้นหลังจากขบวนพาเหรดผ่านถนนในเมืองซานโตส วันที่ 3 ม.ค. จากนั้นร่างของเปเล่จะถูกฝังอย่างเป็นส่วนตัวร่วมกับสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆที่อนุสรณ์สถาน เนโครโปล อีซูเมนิกา
ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล เผยว่า “ผมเห็นเปเล่เล่นที่ปาเคมบูและโมรุมบี แต่เขาไม่ได้เล่น มันเป็นโชว์ เพราะเมื่อเขาได้บอล เขามักทำอะไรที่พิเศษ และมักจะจบลงด้วยการทำประตู ขอบคุณเปเล่”
ขณะที่บรรดานักเตะดาวดังของโลกต่างโพสต์ไว้อาลัยตำนานลูกหนังทีมชาติบราซิล เริ่มจากลิโอเนล เมสซี กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2022 โพสต์ผ่านไอจีส่วนตัวว่า “หลับให้สบายเปเล่”
ส่วน คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้ากัปตันทีมชาติโปรตุเกส วัย 37 ปี โพสต์ผ่านอินสตาแกรมว่า “ขอแสดงความเสียใจต่อชาวบราซิลทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัวนาสซิเมนโต ลาก่อน ราชาแห่งโลกลูกหนัง แด่ เปเล่ ชั่วนิรันดร์ เขาเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนนับล้าน ไม่ว่าจะเมื่อวานนี้, วันนี้ หรือตลอดไป”
“เขาแสดงให้ผมเห็นถึงความเสน่หา ถือเป็นสิ่งที่เราตอบแทนกันในทุกๆช่วงเวลาที่เรามีร่วมกัน แม้เราจะอยู่ห่างไกลกันก็ตาม พวกเราจะไม่มีวันลืมเขา ความทรงจำของเขาจะอยู่ในใจของพวกเราผู้ที่รักฟุตบอลตลอดไป หลับให้สบาย คิง เปเล่” ซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติ โปรตุเกส ทิ้งท้าย
ด้าน เนย์มาร์ ซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติบราซิลได้โพสต์เฟซบุ๊กร่ายยาวอาลัยถึงการจากไปของเปเล่ “ก่อนที่หมายเลข 10 ของเปเล่ จะกลายเป็นเพียงตัวเลข มันเป็นประโยคที่สวยงามแต่ไม่สมบูรณ์ เปเล่เข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างของกีฬาฟุตบอล เขาทำมันให้เป็นศิลปะ เป็นความบันเทิง”
“เขาส่งเสียงให้คนจน ให้คนผิวดำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิสัยทัศน์ของชาวบราซิล ที่ยกสถานะของกีฬาฟุตบอลเอาไว้เหนือหัว ขอบคุณราชา, ตอนนี้ถึงแม้เขาจากไปแล้ว แต่ความมหัศจรรย์ของเขายังคงอยู่, เปเล่ คือความเป็นนิรันดร์” ซุปเปอร์สตาร์บราซิเลียนโพสต์ข้อความสุดซึ้งทิ้งท้าย
ด้านสหพันธ์ฟุตบอลบราซิล (ซีบีเอฟ) โพสต์ว่า “เปเล่ เป็นมากกว่านักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ราชาแห่งฟุตบอลคือตัวแทนสูงสุดของบราซิลที่ได้รับชัยชนะ เขาไม่เคยกลัวต่อความยากลำบากใดๆ เด็กชายผิวสีผู้น่าสงสารที่เกิดในเตรส โคราโคเอส เปเล่แสดงให้เราเห็นว่ามีเส้นทางใหม่เสมอ เขาสัญญากับพ่อของเขาว่าเขาจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และเขาคว้าแชมป์ไป 3 ครั้ง ราชันมอบบราซิลโฉมใหม่ให้กับเรา และเราก็ได้แต่ขอบคุณเขาสำหรับมรดกของเขา”
ส่วนคีเลียน เอ็มบัปเป ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสของปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้ลงรูปคู่กับเปเล่ พร้อมโพสต์ข้อความไว้อาลัยว่า “ราชาแห่งวงการฟุตบอลได้จากเราไปแล้ว แต่ตำนานของเขาจะไม่มีวันจางหายไป หลับให้สบาย เดอะ คิง”
สำหรับเปเล่ มีชื่อเต็มว่า เอ็ดสัน อารันเตส โด นาสซิเมนโต ได้รับนิกเนม “เปเล่” มาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเรียนก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นกองหน้าที่โด่งดังสุดขีดแห่งยุค คว้าแชมป์โลก 3 สมัยกับทีมชาติบราซิลในปี 1958, 1962 และ 1970 และยังครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทัพ “แซมบ้า” 77 ประตูมาอย่างยาวนาน ก่อนจะโดนเนย์มาร์ หัวหอกทีมชาติบราซิลรุ่นหลานมายิงเทียบสถิติตลอดการในศึกฟุตบอลโลก 2022 เมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ตลอดการค้าแข้ง 20 ปี เปเล่ลงเล่นเพียงแค่ 2 สโมสร ได้แก่ ซานโตส ทีมในบ้านเกิดระหว่างปี 1956-1974 ก่อนย้ายไปเล่นให้กับนิวยอร์กคอสมอสในสหรัฐอเมริการะหว่างปี 1975-1977 แต่ดาวยิงเจ้าของแชมป์โลก 3 สมัย สร้างผลงานมีชื่อติดทำเนียบกินเนสส์บุ๊ก ในฐานะดาวซัลโวสูงสุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังจากการสอยตาข่ายได้ 1,279 ประตู จาก 1,363 นัด รวมถึงเกมอุ่นเครื่องด้วย
นอกจากนี้ ในปี 2000 เปเล่ได้รับการประกาศให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษของฟีฟ่า ร่วมกับดีเอโก มาราโดนา อีกทั้งเขาเคยได้รางวัลอื่นๆอีกมากมายทั้ง พีซ อวอร์ด, ฟีฟ่า ออร์เดอร์ ออฟ เมริต และนักกีฬาแห่งศตวรรษจากการประกาศของคณะกรรมการโอลิมปิกสากลในปี 1999
สำหรับเมืองไทย เปเล่เดินทางมา 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปี 2515 มากับสโมสรซานโตส เพื่ออุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ในทวีปเอเชียและยุโรป ครั้งที่สองในเดือนธันวาคมปี 2517 เพื่อเปิดแคมป์ฝึกสอนฟุตบอล ณ สนามศุภชลาศัย ครั้งนั้นมีนักเตะทีมชาติบราซิลหลายคนมาร่วมฝึกสอนให้กับเยาวชนไทยด้วย