หน้าแรกแกลเลอรี่

"เชฟเชนโก" ขึ้นจอ มิลาน-อินเตอร์ หลัง 2 แข้งยูเครนถูกรัสเซียโจมตีเสียชีวิต (คลิป)

ไทยรัฐออนไลน์

2 มี.ค. 2565 10:30 น.

ในเกมบอลถ้วยอิตาลี ยอดตำนานดาวยิงยูเครน ออกมาขอร้องให้ร่วมกันหยุดสงคราม หลังมีนักเตะเพื่อนร่วมชาติสังเวยชีวิตให้กับ รัสเซีย

วันที่ 2 มี.ค. 65 อังเดร เชฟเชนโก อดีตดาวยิงทีมชาติยูเครน ที่เคยเล่นให้กับสโมสร ดินาโม เคียฟ, เอซี มิลาน และ เชลซี ปรากฏตัวบนจอยักษ์ที่สนามซาน ซิโร ผ่านคลิปวิดีโอ ก่อนเกมที่อดีตต้นสังกัดเล่นเป็นทีมเหย้า เสมอกับ อินเตอร์ มิลาน ทีมร่วมเมือง 0-0 ในศึกฟุตบอลถ้วยของอิตาลี โคปปา อิตาเลีย รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนที่ผ่านมา

ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น วงการฟุตบอลได้รับข่าวเศร้า เมื่อ สหพันธ์นักฟุตบอลอาชีพนานาชาติ (ฟิฟโปร) รายงานว่า วิตาลี ซาปีโล วัย 21 ปี นักเตะเยาวชนของ คาร์ปาตี ลวิฟ ทีมระดับดิวิชั่น 2 ของยูเครน และ ดิมิโทร มาร์ตีเนนโก วัย 25 ปี จาก เอฟซี กอสโตเมล ทีมในลีกสมัครเล่น เสียชีวิตจากเหตุการณ์กองทัพรัสเซียบุกถล่มยูเครน ถือเป็นผู้เล่น 2 รายแรกในวงการฟุตบอลที่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตจากสงครามระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน

ทำให้ อังเดร เชฟเชนโก ไม่นิ่งนอนใจ พร้อมกับอัดคลิปวิดีโอส่งมาให้ เอซี มิลาน อดีตต้นสังกัดที่เขาเคยสร้างชื่อในสมัยค้าแข้ง เพื่อฝากข้อความถึงแฟนบอลทั่วโลกก่อนเกมพบกับ อินเตอร์ มิลาน ว่า "เพื่อนๆ ชาวอิตาลีที่รัก ผมขอให้พวกคุณทุกคนจาก ซาน ซิโร ร่วมกันสนับสนุนสันติภาพในยูเครน"

"ชาวยูเครนต้องการสันติภาพ เพราะสันติภาพไม่มีพรมแดน เพราะสิ่งที่รวมพวกเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน จะต้องแข็งแกร่งกว่าสิ่งที่แบ่งแยกเรา เรามาหยุดสงครามด้วยกัน ผมขอมอบความปรารถนาดีมาให้พวกคุณทุกคน"

อังเดร เชฟเชนโก ถือเป็นศูนย์หน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลของยูเครน เคยพา ดินาโม เคียฟ เข้ารอบรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 1998-1999, คว้าแชมป์ 5 รายการร่วมกับ เอซี มิลาน โดยได้แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, โคปปา อิตาเลีย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก, อิตาเลียน ซูเปอร์คัพ และ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ อย่างละ 1 สมัย พร้อมกับคว้ารางวัลบัลลงดอร์ ปี 2004 ในฐานะนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี, คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และ ลีกคัพ กับ เชลซี อย่างละ 1 สมัย

ส่วนทีมชาติยูเครน เชฟเชนโก ก็เป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาล ทำไป 48 ประตูจาก 111 นัด และเป็นกัปตันทีมนำทัพในศึกฟุตบอลโลก 2006 และยูโร 2012 รอบสุดท้าย ที่ยูเครนเป็นเจ้าภาพร่วมกับโปแลนด์ อีกด้วย

*ขอบคุณภาพจาก Facebook : AC Milan