ไทยรัฐออนไลน์
กุนซืออาร์เซนอล ไม่โทษลูกทีมที่โดนไล่ออกหลังเพิ่งกลับจากทีมชาติ ชี้บทเรียนสำคัญจากใบแดงที่ 14 นับตั้งแต่คุมทีม อดลุ้นแชมป์อีกใบ
วันที่ 21 ม.ค. 65 ควันหลงฟุตบอลคาราบาวคัพ (ลีกคัพ อังกฤษ) รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ซึ่ง อาร์เซนอล เปิดบ้านแพ้ ลิเวอร์พูล ทีมร่วมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 0-2 ก่อนพ่ายไปด้วยสกอร์นี้เมื่อรวมผล 2 นัด อดลุ้นแชมป์ไปอีกรายการ หลังจากเพิ่งแพ้ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 0-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันที่ 9 มกราคม
เกมนี้ โธมัส ปาร์เตย์ ที่เพิ่งกลับมาช่วย อาร์เซนอล ได้ไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังจากทีมชาติกานาตกรอบแรกในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ 2021 ที่ประเทศแคเมอรูน ลงมาเป็นตัวสำรองแทน เอมิล สมิธ โรว์ ในนาทีที่ 74 แต่กลับได้อยู่ในสนามเพียง 16 นาที หลังจากทำฟาวล์ ฟาบินโญ รับใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ซึ่ง ปาร์เตย์ เพิ่งโดนใบเหลืองแรกในช่วง 3 นาทีก่อนหน้านั้น
การถูกไล่ออกของ ปาร์เตย์ ถือเป็นใบแดงใบที่ 14 ของ อาร์เซนอล นับตั้งแต่ มิเกล อาร์เตตา เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ปี 2019 หรือภายในเวลาเพียง 2 ปีเศษ และยังเป็นใบแดงใบที่ 3 ใน 4 เกมหลังสุดของ "ปืนใหญ่" หลังจากเข้าสู่ปี 2022 ด้วย
อย่างไรก็ตาม อาร์เตตา ไม่ได้โยนความผิดให้ ปาร์เตย์ พร้อมพูดถึงบทเรียนจากใบแดงครั้งนี้ว่า "มันเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่และเราต้องเรียนรู้จากสิ่งนั้น เราต้องเล่น 10 คนถึง 3 เกมใน 4 นัดหลังสุด และ 3 เกมนั้นต้องเจอกับทีมชั้นนำด้วย ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่คุณไม่อยากเจอ การสู้ด้วยตัวผู้เล่นครบ 11 คนก็ยากอยู่แล้ว ยิ่งต้องเหลือ 10 คนก็ยิ่งเป็นงานที่ยากขึ้น"
"นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากเจอ เมื่อดูจำนวนผู้เล่นที่เราเหลืออยู่ มันไม่เกี่ยวหรอกว่าจะมีเขา (โธมัส ปาร์เตย์) ให้ใช้งานหรือไม่ แต่ตอนนี้เราต้องเสียเขาไปอีก 3 นัด ส่วนการโดนใบแดงบ่อยนั้น มันเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน ซึ่งเราต้องกำจัดต้นเหตุเหล่านั้นให้หมดไป เราอยากลงสนามและคว้าชัยชนะ รวมถึงมีผลการแข่งขันที่ดีอีกครั้ง แต่เราต้องรักษาผู้เล่นให้มีครบทั้ง 11 คนให้ได้ เราต้องเรียนรู้จากบทเรียนและเราไม่สามารถยอมรับข้อแก้ตัวได้"