ไทยรัฐออนไลน์
"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก เฉือนเอาชนะ ติเกรส ไปหวุดหวิด 1-0 คว้าแชมป์สโมสรมาครองเป็นสมัยที่ 2
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก “ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2020” รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.พ. 64 ที่สนามเอดูเคชัน ซิตี้ สเตเดียม (สนามกลาง) “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก สโมสรแกร่งจากเยอรมนี พบกับ ติเกรส ทีมดังจากเม็กซิโก
เกมนี้ ฮันซี ฟลิก เทรนเนอร์ของบาเยิร์นฯ ไม่มี เยโรม บัวเต็ง กองหลังคนสำคัญที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับเยอรมนี เนื่องจากอดีตแฟนสาวเสียชีวิต และ โธมัส มุลเลอร์ ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ตัวหลักคนอื่นๆ ยังอยู่ครบ นำมาโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ยอดดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ ขณะที่ ริคาร์โด เฟร์รัตติ กุนซือของติเกรส มี อองเดร ปิแอร์ ฌีญัก เป็นทีเด็ดในแนวรุก
เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 18 บาเยิร์น เกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ โจชัว คิมมิช ตะบันด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลพุ่งเสียบมุมเข้าไป แต่ VAR เช็กว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ที่มีส่วนยืนบังการเซฟของผู้รักษาประตู
จากนั้นนาทีที่ 23 บาเยิร์น ได้ลุ้นอีกครั้ง คิงสลีย์ โกมาน ได้ซัดจากนอกกรอบ แต่ นาอูเอล กุซมัน ผู้รักษาประตูติเกรส ทุบบอลออกไปได้
ถึงนาทีที่ 34 บาเยิร์น มาอีกแล้ว คราวนี้เป็น เลรอย ซาเน ได้ยิงในเขตโทษฝั่งซ้าย บอลพุ่งชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิก ยังเสมอ ติเกรส อยู่ 0-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง รูปเกมของ บาเยิร์น เหนือกว่าอย่างชัดเจน กระทั่งนาทีที่ 59 บาเยิร์น ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อ โจชัว คิมมิช ตักบอลเข้ากรอบเขตโทษ นาอูเอล กุซมัน ปัดบอลมาเข้าทาง แบงฌาแมง ปาวาร์ วอลเลย์ด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม บาเยิร์น มิวนิก ชนะ ติเกรส 1-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก เป็นสมัยที่ 2 หลังเคยทำได้มาแล้ว เมื่อปี 2013
ผลนัดชิงอันดับที่ 3
อัล อาห์ลี (อียิปต์) ชนะจุดโทษ พัลเมรัส (บราซิล) 3-2 หลังเสมอใน 90 นาที 0-0