มะระหวาน
เป็นอีกเกมที่สกอร์ไม่น่าเชื่อ เมื่อคืนวันอังคารหรือช่วงเช้ามืดวันพุธที่ผ่านมา “กระทิงดุ” สเปน เปิดบ้านไล่ถล่ม “อินทรีเหล็ก” เยอรมนีไปขาดลอย 6-0 ในเกมยูฟ่า เนชันส์ ลีก
เรียกได้ว่าสกอร์ที่ออกมานั้นแทบไม่น่าเชื่อขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีกกับสกอร์ที่ออกมาไม่น่าจะเกิดขึ้นกับทีมแกร่งอย่างทีมชาติเยอรมนี
แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา “อินทรีเหล็ก” จะฟอร์มไม่สู้ดีนัก แต่ขุมกำลังก็ยังถือว่าโอเค เอาจริงๆสเปน ชุดนี้ก็ไม่ได้แกร่งเหมือนก่อน เพราะไม่ค่อยมีซุปเปอร์สตาร์มากนัก จึงไม่น่าเชื่อว่าสกอร์จะออกมายับเยินขนาดนี้
แต่จะว่าไปในเกมนัดนี้ “อินทรีเหล็ก”โชคไม่เข้าข้างด้วยเล่นอะไรก็ผิดพลาดไปหมด ผิดกับ สเปนที่อะไรก็ดูเข้าทางไปหมด ขนาดส่งบอลพลาดลูกบอลยังเด้งกลับมาเข้าเท้าให้เล่นต่อ
ก่อนหน้านี้ประวัติศาสตร์ฟุตบอลของทีมชาติเยอรมนีแพ้เกมอย่างเป็นทางการมากสุดจำนวน 5 ลูก ในเกมฟุตบอลโลก 1954 ตอนยังเป็นเยอรมนีตะวันตก โดยแพ้ฮังการีไป 3-8 ในรอบแบ่งกลุ่ม
แต่ถ้าหากนับเกมกระชับมิตรเยอรมนีก็แพ้ออสเตรีย 0-6 เมื่อปี 1931 และอีก 89 ปีต่อมา “อินทรีเหล็ก” ก็พ่ายแพ้สเปน 0-6
ช่วงหลังๆเยอรมนีแม้ว่าจะเก็บชัยชนะ แต่ฟอร์มการเล่นไม่ค่อยจะโดดเด่นเหมือนเก่า
อาการเริ่มออกมาตั้งแต่ช่วงฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซีย ซึ่ง “อินทรีเหล็ก”ตกรอบไปอย่างพลิกล็อก ทั้งๆที่เป็นตัวเต็งของกลุ่ม
หลังจากนั้นมาอย่างที่บอกฟอร์มไม่ค่อยดีเท่าไรยิ่งเมื่อเจอทีมระดับท็อปเหมือนกันแทบจะไม่ชนะเลยด้วยซ้ำไป ไม่ว่าจะเป็นการเจอฝรั่งเศส ในเนชันส์ ลีก ปี 2018 เสมอ 1 ครั้ง แพ้ 1 เจอ ฮอลแลนด์ ก็เสมอ 1 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง
อุ่นเครื่องก็เสมออาร์เจนตินา 1-1 หรือแม้กระทั่งเจอสเปนในเนชันส์ ลีก ปี 2020 ก็ทำได้แค่เสมอสเปน 1-1 ก่อนจะพ่ายยับ 0-6 ในเกมล่าสุด
ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากมนต์ขลังของโยอาคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมนี ไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนเก่า แท็กติกต่างๆที่ก่อนหน้านี้เป็นของใหม่จนพา “อินทรีเหล็ก” คว้าแชมป์โลกในปี 2014
พอหลายๆ ปีเข้าก็เริ่มหมดความเสื่อมลงเรื่อยๆ จนเห็นได้ในเกมฟุตบอลโลก ปี 2018 และก็เห็นได้ชัดมาจนถึงปัจจุบัน
แม้ว่าโอลิเวอร์ เบียร์โฮฟ ผู้จัดการทีมชาติเยอรมนี จะออกมายืนยันว่าจะไม่มีทางปลดเลิฟ ออกจากตำแหน่ง เพราะต้องการให้คุมทีมลุยศึก ยูโร 2020 รอบสุดท้าย กลางปีหน้าก่อน
อีกส่วนหนึ่งที่เป็นแบบนี้ก็คงเป็นเพราะทีมชุดนี้ไม่มีบรรดานักเตะตัวเก๋าคอยประคองบรรดาแข้งวัยรุ่น พอโดนกดดันมากๆก็มีอาการเป๋ให้เห็น
เลิฟตัดสินใจตัดชื่อของโทมัส มุลเลอร์, เจอโรม บัวเต็ง และมัตส์ ฮุมเมิลส์ ออกจากทีมทั้งๆที่ทั้ง 3 ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก จนคว้าทริปเปิลแชมป์เมื่อซีซันที่ผ่านมา
ซึ่งดูแล้วโอกาสที่ปลดเลิฟออกจากตำแหน่งแทบจะเป็นไปไม่ได้
เพราะชั่วโมงนี้นอกจากเจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่คนเก่งของลิเวอร์พูล ไม่มีใครที่เหมาะเข้ามาเป็นนายใหญ่ “อินทรีเหล็ก” คนใหม่ซักคน
เชื่อว่าถ้า “เลิฟ” ยอมกลืนน้ำลายตัวเองเรียกบรรดาแข้งเก๋ามาติดทีมอีกครั้ง
อย่างน้อยๆก็น่าจะช่วยประคองทีม “อินทรีเหล็ก” ลุยศึกยูโร 2020 ไปให้ไกลได้มากขึ้น.
มะระหวาน