หน้าแรกแกลเลอรี่

เจ็บปวดใจ "เอเรดิวิซีลีก"

RC-Oppa

27 เม.ย. 2563 06:00 น.

การตัดจบของศึกเอเรดิวิซีลีก ฮอลแลนด์ ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับวงการฟุตบอลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แล้วทำไมถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้?

เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ฟุตบอลลีกอาชีพเบลเยียม หรือชื่อที่คุ้นหูคนไทยเป็นอย่างดี "จูปิแลร์ลีก" ได้ประเดิมยกเลิกโปรแกรมทั้งหมดที่เหลือในฤดูกาลนี้ พร้อมกับมอบแชมป์ให้ คลับ บรูช ไปครองเป็นสมัยที่ 17 ของสโมสร แม้จะยังไม่มีการมอบแชมป์กันอย่างเป็นทางการก็ตาม 

การตัดจบครั้งนั้นได้ส่งแรงสั่นสะเทือน 6 ริกเตอร์ ไปถึงลีกลูกหนังทั่วยุโรปที่เริ่มเห็นหนทางในการยุติซีซั่นนี้แล้วไปเริ่มต้นกันใหม่ฤดูกาลหน้า ซึ่งได้มีอดีตนักเตะหลายคนเห็นด้วยกับวิธีการนี้ แต่ก็แน่นอนว่ามีอีกหลายคนที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากมันเป็นการทำร้ายจิตใจของทีมที่มีโอกาสแซงขึ้นมาเป็นแชมป์ในช่วงท้าย กับทีมที่กำลังจะขึ้นชั้นในฤดูกาลหน้า 

ฟุตบอลมันก็แบบนี้ ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเก่งเพียงอย่างเดียว แต่ต้องลุ้นให้โชคชะตาเข้ามาช่วยด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งทีมที่ดูแล้วโชคไม่เข้าข้างเลยในซีซั่นนี้คือ สโมสรเอฟซี อูเทร็คท์ ทีมดังในศึกเอเรดิวิซีลีก ฮอลแลนด์ ที่เคยปั้นนักเตะชื่อดังอย่าง เดิร์ก เคาท์ ขึ้นมาเป็นตำนานให้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ รวมถึงลิเวอร์พูล หลังโดนสมาคมฟุตบอลฮอลแลนด์ประกาศยุติศึกเอเรดิวิซีลีกในฤดูกาลนี้ โดยจะไม่มีทีมแชมป์ ตกชั้น-เลื่อนชั้น ส่วนอันดับไปเตะรายการยุโรปให้ยึดจากคะแนนในตารางล่าสุด

นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ อูเทร็คท์ เกิดอาการกำหมัดขึ้นมา เพราะทีมของพวกเขากำลังมีลุ้นไปเล่นในศึกยูโรปาลีก ฤดูกาลหน้า จากผลงานก่อนตัดจบคืออันดับ 6 ตามหลังทีมที่ได้ไปเตะรอบคัดเลือกคือทีมในอันดับ 5 อย่าง วิลเลม ทเวล เพียง 3 คะแนน แถมแข่งน้อยกว่า 1 นัด ซึ่งหากพวกเขาชนะเกมตกค้างก็จะขึ้นไปเป็นที่ 5 แทน เนื่องจากประตูได้เสียดีกว่า จึงเป็นเรื่องที่ตรงกับสำนวนไทย "บุญมีแต่กรรมบัง" แต่นี่ยิ่งกว่านั้นคือ บุญไม่มีแถมกรรมยังบังอีก 

อาการหัวร้อนของ อูเทร็คท์ ไม่ใช่แค่โควตาไปเล่นโปรแกรมยุโรปเพียงเรื่องเดียว เพราะว่าพวกเขายังมีรายการที่ได้ลุ้นแชมป์ครั้งแรกของสโมสรนับตั้งแต่ถ้วยสุดท้ายที่เคยคว้าได้ในศึก โยฮัน ครัฟฟ์ ชิลด์ เมื่อปี 2004

ปีนี้ อูเทร็คท์ มีลุ้นเข้าใกล้ชูถ้วยโทรฟี่ครั้งแรกในรอบ 16 ปี กับรายการฟุตบอลถ้วยของประเทศ เคเอ็นวีบี คัพ (KNVB Cup) ที่พวกเขาตั้งหน้าตั้งตาเล่นด้วยฟอร์มโหดชนิดที่เรียกได้ว่า "ระเบิดภูเขา เผากระท่อม" จัดการกะซวก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ยอดทีมดินแดนกังหัน ซึ่งเคยเป็นแชมป์รายการนี้มาแล้ว 19 สมัย ในรอบรองชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม ซึ่งทีมที่ชนะจะได้ได้สิทธิ์ลงเล่น ยูโรปา รอบแบ่งกลุ่มทันที

อย่างไรก็ตาม จากโปรแกรมเดิมต้องเตะกันไปแล้วตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา แต่การมาของโควิด-19 ส่งผลให้การแข่งดังกล่าวต้องถูกยกเลิกไป กลายเป็นความเจ็บปวดซ้ำสองของอูเทร็คท์ ที่กำลังมีความรู้สึกเหมือนโดนไล่ออกจากโรงเรียน ตามด้วยพ่อมาถูกรถชนตาย เหมือนในซีรีส์เกาหลีชื่อดัง "Itaewon Class" อย่างไงอย่างงั้น

แน่นอนว่าความเจ็บปวดเหล่านี้คงไม่มีใครทนไหว และถึงเวลาที่ต้องเรียกร้องความยุติธรรมต่อท่านเปา ในชั้นศาลกีฬาโลก เมื่อ เอฟซี อูเทร็คท์ ออกมาแถลงยืนยันแล้วว่าพวกเขาจะเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อจะนำเอาความเป็นธรรมกลับมาให้กับเหล่าแฟนบอลของสโมสร

"เอฟซี อูเทร็คท์ ไม่ยอมรับคำตัดสินดังกล่าว เราจะยื่นหนังสือถึงศาลกีฬาโลกและทางยูฟ่า เรายอมรับไม่ได้จริงๆ กับการแข่งขันในรายการฟุตบอลถ้วย ที่ต้องมายกเลิกนัดชิงชนะเลิศ มันถูกมองข้าม ส่วนในตารางคะแนนเรายังมีลุ้นอยู่ ตอนนี้เรารั้งอันดับ 6 ก่อนจะมีการตัดจบ แต่เรามีโปรแกรมในมือเหลืออีก 1 เกม ซึ่งโปรแกรมแข่งเราไม่เท่ากับ วิลเลม ทเวล" แถลงการณ์ของสโมสร เอฟซี อูเทร็คท์

ขณะที่ทีมในลีก 2 อย่างคัมบูร์ จ่าฝูงของตารางเอร์สเตอดิวิซี ฮอลแลนด์ ซึ่งมีโอกาสมากแล้วกับการเลื่อนสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาลหน้า แต่กลับต้องมาเจอชะตากรรมเช่นเดียวกัน ถึงขนาดที่ว่า เฮงค์ เดอ ยอง กุนซือของทีมออกมาวิจารณ์การยกเลิกในครั้งนี้ว่า เป็นความอับอายตลอดกาลของวงการฟุตบอลดัตช์เลยทีเดียว 

"มันคือความรู้สึกที่น่าอับอายที่สุดของวงการกีฬาประเทศเนเธอร์แลนด์ สิ่งที่ได้เกิดขึ้นไปแล้ว มันไม่ควรเกิดขึ้นกับวงการกีฬา จะต้องมีคนรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ และมันจะอยู่ในใจของคุณไปตลอดชีวิต" เฮดโค้ชวัย 55 ปี กล่าว 

ทั้งนี้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลาลีกา สเปน, บุนเดสลีกา เยอรมนี และกัลโช เซเรียอา อิตาลี ยังไม่มีบทสรุปที่แน่ชัดออกมาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป มีเพียงแต่บอกว่าจะกลับมาแน่ เมื่อสถานการณ์มาเป็นปกติแล้ว ซึ่งมันอาจต้องใช้เวลาอีกนานเลยทีเดียว แต่หากตัดจบคงจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สั่นสะเทือนวงการฟุตบอลมากกว่า 6 ริกเตอร์แน่นอน. 

Pic : vi.nl, tellerreport