ไทยรัฐออนไลน์
ประธานสโมสรบาร์เซโลนาชี้แจงครั้งแรก หลังไม่สามารถรั้ง ลิโอเนล เมสซี ไว้ได้ โดยบอกว่าหากต่อสัญญาขวัญใจแฟนบอลอาจกระทบสโมสรไปอีก 50 ปี
วันที่ 6 ส.ค. 64 โจน ลาปอร์ตา ประธานสโมสรบาร์เซโลนา ออกมาแถลงข่าวเป็นครั้งแรกที่ คัมป์ นู สนามเหย้าของสโมสร ภายหลังการอำลาของ ลิโอเนล เมสซี ยอดนักเตะขวัญใจแฟนบอล "เจ้าบุญทุ่ม" ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ทีมเยาวชนในปี 2000 หลังจากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการต่อสัญญาฉบับใหม่กันได้ ซึ่งเจ้าตัวหมดสัญญามาตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน
การแยกทางของกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาทำให้สาวกบาร์ซาผิดหวังและไม่พอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งก็มีการรวมตัวประท้วงบอร์ดบริหารด้านหน้าที่ทำการสโมสร แต่ "เจ้าบุญทุ่ม" ที่ประสบปัญหาสูญเสียรายได้ในช่วงโควิด-19 ไปอีกกว่า 400 ล้านยูโร (15,600 ล้านบาท) ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของแฟนบอลได้ เนื่องจาก ลา ลีกา สเปน ได้กำหนดเพดานค่าจ้างเอาไว้ตามกฎใหม่
ลาปอร์ตา แถลงถึงสาเหตุสำคัญที่ไม่สามารถต่อสัญญากับ เมสซี ได้ว่า "ผมไม่สามารถตัดสินใจในสิ่งที่จะกระทบสโมสรเป็นเวลา 50 ปีได้ สโมสรได้ก่อตั้งมานานกว่า 100 ปี และมันก็อยู่เหนือทุกคนและทุกสิ่ง ไม่เว้นแม้แต่ผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก เราจะขอบคุณเขาเสมอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำเพื่อเรา"
"ตามกฎควบคุมทางการเงิน เราจำเป็นต้องทำแบบนี้หรือหาทางที่จะทำให้สโมสรไม่ตกอยู่ในความเสี่ยง เราไม่สามารถยื้อต่อไปได้และจำเป็นต้องตัดสินใจซึ่งเราก็ได้ทำไปแล้ว แม้ เลโอ จะอยากอยู่กับเราต่อไป นั่นทำให้เขาไม่พอใจกับสถานการณ์นี้ เราทุกคนก็อยากให้เขาอยู่ต่อ แต่สำหรับเขาแล้วถึงเวลาที่ต้องเผชิญกับความเป็นจริง ความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ และเขาก็รู้ว่าผมจะอวยพรให้เขาโชคดีไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม"
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เมสซี ตกลงที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่กับ บาร์ซา เป็นเวลา 5 ปีแล้ว โดยยอมรับเงื่อนไขในการลดค่าจ้างลงเกินกว่าครึ่ง แต่สโมสรก็ยังต้องหาทางลดภาระค่าใช้จ่ายอีกจำนวนมากอยู่ดีเพื่อให้การต่อสัญญาบรรลุได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สำเร็จ ลงเอยด้วยการแยกทางกัน ซึ่ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมเงินหนาแห่ง ลีกเอิง ฝรั่งเศส กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกยกให้เป็นตัวเต็งที่จะคว้าตัวไปร่วมงาน