หน้าแรกแกลเลอรี่

ได้เวลาศึก "ยูโร 2024" สิงโต-ตราไก่ ตัวเต็ง "อินทรีเหล็ก" ขอกู้ศรัทธา

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

9 มิ.ย. 2567 04:15 น.

อีกไม่ถึงสัปดาห์การแข่งขันลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป หรือ “ยูโร 2024” รอบสุดท้าย ในปีนี้ประเทศเยอรมนีรับหน้าเสื่อ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยจะเปิดฉากขึ้นใน ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน–14 กรกฎาคม 2567

สำหรับ “ยูโร 2024” ครั้งนี้บรรดาทีมดังๆ อยู่กันพร้อมหน้าไม่ว่าจะเป็น “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี เจ้าภาพจัดการแข่งขัน, “อัซซูรี” อิตาลี แชมป์เก่า, “สิงโตคำราม” อังกฤษ, “ตราไก่” ฝรั่งเศส, “กระทิงดุ” สเปน, “กังหันลมสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ รวมถึง “ฝอยทอง” โปรตุเกส เรียกว่าในปีนี้ทีมชั้นนำอยู่กันครบ ไม่มีใครหลุดโผออกไปในรอบคัดเลือก

ซึ่งการจับสลากแบ่งสายมีดังนี้ กลุ่มเอ : เยอรมนี, สกอตแลนด์, ฮังการี, สวิตเซอร์แลนด์, กลุ่มบี : สเปน, โครเอเชีย, อิตาลี, แอลเบเนีย, กลุ่มซี : สโลวีเนีย, เดนมาร์ก, เซอร์เบีย, อังกฤษ, กลุ่มดี : โปแลนด์, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรีย, ฝรั่งเศส, กลุ่มอี : เบลเยียม, สโลวะเกีย, โรมาเนีย, ยูเครน, กลุ่มเอฟ : ตุรกี, จอร์เจีย, โปรตุเกส, เช็ก

เรียกได้ว่าเกมลูกหนังยูโรนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง ทัวร์นาเมนต์ที่คอบอลชาวไทยที่ให้ความสนใจไม่แพ้ ศึกฟุตบอลโลก เพราะบรรดาชาติต่างๆในยุโรป อุดมไปด้วยบรรดาซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังมากมาย และคุ้นหูแฟนบอลชาวไทย จึงไม่น่าแปลกใจว่าคอบอลไทย จะให้การสนใจอย่างมาก

และเมื่อพูดถึงการแข่งขันแล้วก็ต้องมีบรรดาตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์มาครอง ซึ่งในปีนี้เต็งหนึ่งที่ถูกยกให้จะคว้าแชมป์มาครองมี 2 ทีมด้วยกัน ก็คือ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ที่เป็นรองแชมป์เก่าในปี 2020 และ “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์โลก ปี 2022

ซึ่งเรียกได้ว่าชั่วโมงนี้ก็ต้องยกให้ทั้งสองทีมนี้ จริงๆ “สิงโตคำราม” อังกฤษ เป็นยุคที่มีนักเตะโชว์ฟอร์มได้ดีมากมายและชุดนี้เต็มไปด้วยบรรดาซุปเปอร์ สตาร์ ไม่ว่าจะเป็นจู๊ด เบลลิงแฮม ที่เพิ่งคว้าแชมป์ ลา ลีกา และยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กับ เรอัล มาดริด มาหมาดๆ หรือแฮร์รี เคน กองหน้ากัปตันทีม ที่ยิงไป 44 ประตู จาก 45 นัด ให้กับบาเยิร์น มิวนิก รวมถึง บรรดาดาวดังที่กำลังท็อปฟอร์มอย่างโคล พาลเมอร์ (เชลซี), บูคาโญ ซากา (อาร์เซนอล), เดแคลน ไรซ์ (อาร์เซนอล), เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล), จอห์น สโตนส์ (แมนฯ ซิตี้)

เมื่อดูจากขุมกำลังของทีมชาติอังกฤษ โดยรวม ถือว่าแข็งแกร่งใช้ได้ และ 1 ใน 3 ก็เคยมีประสบการณ์จากการเคยผ่านรอบชิงชนะเลิศเมื่อ 3 ปีที่แล้ว (ยูโร 2020 เลื่อนมาแข่งในปี 2021) จึงไม่น่าแปลกใจที่จะถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์

เช่นเดียวกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ที่ขุมกำลังชุดนี้แทบจะไม่แตกต่างจากชุดที่คว้ารองแชมป์โลกเมื่อปี 2022 ที่กาตาร์เลย ดาวดังอยู่กันพร้อมหน้าไม่ว่าจะเป็นคีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้ากัปตันทีมที่สร้างความสั่นสะเทือนในแดนอาหรับมาก่อนหน้านี้ หรือแม้กระทั้ง ร็องเดล โคโล มูอานี, อองตวน กรีซมันน์, มาร์กุส ตูราม, อุสมาน เดมเบเล, เอ็นโกโล ก็องเต, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ก็อยู่กันพร้อมหน้า แถมยังมีกุนซือสมองเพชรอย่าง ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ คุมทัพอีกด้วย

เชื่อว่าทัพ “เลอ เบลอส์” บุกมาเยือนเมืองเบียร์ ครั้งนี้จะเน้นเป็นพิเศษเพื่อหวังที่จะลบความผิดหวังจาก 2 ปีที่แล้วในศึกฟุตบอลโลก 2022 ให้ได้

ส่วนอีกหนึ่งทีมที่จะประมาทไม่ได้ก็คือ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี เจ้าภาพจัดการแข่งขัน แม้ว่าตลอดในช่วง 2 ทัวร์นาเมนต์หลัง (ยูโร 2020 และฟุตบอลโลก 2022) จะโชว์ฟอร์มได้อย่างย่ำแย่มากๆ เรียกได้ว่า แฟนบอลเมืองเบียร์แทบจะหมดศรัทธากันเลยทีเดียวกับฟอร์มของทีมชาติบ้านเกิด ทำให้ครั้งนี้แข้งแดนไส้กรอกจะเน้นเป็นพิเศษ และยังมีกองเชียร์หนุนหลังทั้งประเทศเชื่อว่ามีโอกาสเช่นกันที่ “อินทรีเหล็ก” ตัวนี้จะกลับมาผงาดอีกครั้ง

นอกจากทั้ง 3 ชาติ ที่เอ่ยไปแล้ว ก็ยังมีอีกหลายทีมที่ยังประมาทไม่ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น “อัซซูรี” อิตาลี แชมป์เก่าที่แม้ว่าขุมกำลังดูไม่โดดเด่น ไม่ได้มีซุปเปอร์สตาร์ในทีมมากมาย แต่ขึ้นชื่อว่าเป็น “อิตาลี” ก็มีโอกาสป้องกันแชมป์ได้เช่นกัน

หรือจะเป็นทั้ง “กระทิงดุ” สเปน, “กังหันลมสีส้ม” เนเธอร์แลนด์, รวมถึง “ฝอยทอง” โปรตุเกส ที่แต่ละทีมก็เคยเป็นถึงดีกรีแชมป์ยูโรมาก่อนทั้งนั้นก็ยังประมาทไม่ได้ ส่วนทีมม้ามืดในยูโร 2024 เชื่อว่า ไม่น่าจะมีใครที่สอดแทรกเหนือขึ้นมาจากบรรดาทีมดังๆได้อย่างแน่นอน

นอกจากลุ้นแชมป์ยูโร 2024 ว่าชาติไหนจะได้ไปครองแล้วก็ยังมีอีกหนึ่งอย่างให้ลุ้นก็คือตำแหน่งดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ เพราะในปีนี้มีบรรดาซุปเปอร์ สตาร์ที่ยิงกระจุยกระจายในลีกมาร่วมแข่งขันด้วยไม่ว่าจะเป็นแฮร์รี เคน (อังกฤษ), คีเลียน เอ็มบัปเป (ฝรั่งเศส), คริสเตียโน โรนัลโด (ฝรั่งเศส) และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี (โปแลนด์) เชื่อว่าปีนี้จะยิงกันแหลกแน่นอน

ขณะเดียวกันแฟนบอลไทยก็ยังได้รับข่าวดีเมื่อได้ดูศึกฟุตบอลยูโร 2024 แบบสดๆ และฟรีในทุกนัดที่ฟาดแข้ง แถมยังเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดึกมาก เตะกันในเวลา 20.00 น., 23.00 น. และ 02.00 น. เป็นคู่สุดท้าย หรือถ้าอย่างดูแบบคมชัดและเอกซ์คลูซีฟก็ติดตามได้ที่ทรูวิชั่นส์ที่ถ่ายทอดสดทุกนัดเช่นกันและยังมีคอนเทนต์ต่างๆให้ชมอีกด้วย แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยแต่รับรองว่าคุ้มไม่แพ้กัน

นอกจากได้ดูฟุตบอลกันสดๆ แล้วก็ยังสามารถร่วมลุ้นโชคได้กับทาง “ไทยรัฐกรุ๊ป” ที่ชวนแฟนลูกหนังร่วมลุ้นแชมป์ ลุ้นรับทองคำ ในศึกฟุตบอลยูโร 2024 จับมือ “ไปรษณีย์ไทย” เปิดตัวแคมเปญใหญ่แห่งปี “เชียร์บอลให้มัน เฮลั่นรับโชค ทุกที่ทุกเวลา” จัดทายผลแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2024 ร่วมสนุกด้วยการส่งไปรษณียบัตรและโปสต์การ์ดออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Prompt Post และแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ทายว่าทีมนักเตะลูกหนังทีมใดจะได้ครองถ้วยแชมป์ฟุตบอลยูโร 2024 พร้อมลุ้นรับทองคำรวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

เรียกได้ว่าแฟนบอลชาวไทยคุ้มค่ากันแบบสุดๆ ได้ดูบอลกันแบบฟรีๆ และยังมีลุ้นโชคอีกมากมาย เรียกได้ว่าจะเป็นบอลทัวร์นาเมนต์อีกรายการที่ดูกันสนุกแน่นอน!!

ชานนท์ กล่ำดิษฐ์...เรื่อง

คลิกอ่านคอลัมน์ “Hotsport” เพิ่มเติม