แอบไม่น่ารัก

กลายเป็นอดีตกุนซือลิเวอร์พูลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับเจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ที่ประกาศวางมือจากตำแหน่งกุนซือ “หงส์แดง” ไปก่อนหน้านี้ แม้ว่าตามสัญญาจะมีผลหลังจากสิ้นสุดเดือนมิถุนายนก็จริง

แต่ในหลักการปฏิบัติแล้วทางคลอปป์ก็กลายเป็นอดีตกุนซือทันทีหลังจากจบฤดูกาล 2023-2024 ซึ่งในซีซันสุดท้ายกุนซือวัย 56 ปี สามารถพาทีมคว้าแชมป์มาได้ 1 รายการก็คือศึก คาราบาว คัพ ทำให้ตลอด 9 ปี

ที่ผ่านมา กุนซือเลือดเบียร์สามารถพาทีมเถลิงแชมป์รายการหลักๆ ได้ครบทุกรายการไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก (1 สมัย), เอฟเอ คัพ (1 สมัย), คาราบาว คัพ (1 สมัย), ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (1 สมัย) และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (1 สมัย)

เรียกได้ว่า คลอปป์ เป็นอีกหนึ่งกุนซือที่พา “หงส์แดง” ประสบความสำเร็จได้อย่างมากมาย เชื่อว่าบรรดา “เดอะ ค็อป” ก็เสียอกเสียใจกับการลาจากของอดีตกุนซือดอร์ทมุนด์มากพอสมควรเลยทีเดียว เพราะกว่าจะหาโค้ชที่เก่งอย่างอดีตกุนซือดอร์ทมุนด์แบบนี้ไม่รู้จะมีอีกมั้ย

ย้อนกลับไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้มีการจัดงานอำลา เจอร์เกน คลอปป์ อดีตกุนซือ “หงส์แดง” ภายใต้ชื่องาน “แอน อีฟนิ่ง วิธเจอร์เกน คลอปป์” ซึ่งเก็บเงินผู้เข้าร่วมงานคนละ 37 ปอนด์ (ประมาณ 1,702 บาท) โดยบัตรจำนวนกว่า 11,000 ใบได้ถูกขายหมดเกลี้ยง

นั่นแสดงให้เห็นถึงความรักใคร่ของบรรดา “เดอะ ค็อป” ที่มีให้กับกุนซือวัย 56 ปีรายนี้ โดยภายในงานบรรยากาศก็เป็นไปอย่างสนุกสนานก่อนจะปิดท้ายด้วยการหลั่งน้ำตาเมื่อแฟนบอล ลิเวอร์พูลร้องเพลงให้กับเขา

แต่อย่างไรก็ตาม คลอปป์ก็ยังเป็นคลอปป์ ที่เป็นหนึ่งยอดกุนซือที่มีฝีปากอันคมกริบ สามารถต่อปากต่อคำหรือพูดทิ่มแทงคู่อริได้เจ็บแสบสุดๆ ตลอด 9 ปีในการอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์

ซึ่งในงานนี้คลอปป์ก็จัดหนักส่งท้ายตามเหน็บ 3 คู่อริสำคัญอย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้, “สิงห์บลู” เชลซี รวมถึงคู่รักคู่แค้นอย่าง “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบจัดเต็ม

เริ่มจากแมนฯ ซิตี้ ที่พูดถึงเรื่องคดีโดยเผยว่าพร้อมจะมารับแชมป์พรีเมียร์ลีกย้อนหลังหาก “เรือใบสีฟ้า” ถูกตัดสินว่าละเมิดกฎการเงิน 115 ข้อหาจริง จนโดนริบแชมป์ ซึ่งจะทำให้ลิเวอร์พูลได้แชมป์ย้อนหลัง 2 ซีซันด้วยกัน

แต่คลอปป์ก็ทิ้งท้ายว่า “นานแค่ไหนก็จะรอ” หมายความว่าคดีนี้คงโดนดึงการตัดสินไปอีกนาน

ต่อมาก็ได้ออกมาเผยว่าตัวเองโชคดีที่ได้ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) เข้ามาเป็นเจ้าของทีมที่เข้าใจการทำงานของตัวเขาไม่เหมือน

กับบางทีมในกรุงลอนดอน (หมายถึง ท็อดด์ โบลีห์ เจ้าของสโมสร “สิงห์บลู” เชลซี) ที่พอกุนซือไม่ได้ดั่งใจก็ปลดพ้นตำแหน่งโดยไม่สนใจอย่างอื่น แม้กระทั่งคนที่คุมทีมได้ดีสุดท้ายก็ยังปลด (หมายถึง เมาริซิโอ โปเชตติโน)

ก่อนปิดท้ายที่เหน็บเอริค เทน ฮาก ทำนองว่าไม่ยอมสนับสนุนนักเตะ (ทั้งๆที่ซื้อมาแพง 80 ล้านปอนด์) แต่กลับเลือกโจมตีนักเตะและผลักไสไปให้ไกลๆ (คดีของจาดอน ซานโซ ที่โดนตัดหาง ปล่อยวัดให้ไปเล่นกับดอร์ทมุนด์ หลังจากปีนเกลียวโค้ช)

แม้ว่าบรรดา “เดอะ ค็อป” จะสนุกสนานกับคำพูดของคลอปป์ กุนซือที่รัก แต่ในความรู้สึกของทีมอื่นๆ โดยเฉพาะทีมที่โดนเหน็บแนมโดยตรงคงไม่ค่อยชอบ ทั้งๆที่สามารถจะไปก็ไปอย่างสวยงามได้ แต่กลับมาสร้างวิวาทะให้เป็นปัญหาก่อนไป

บอกตรงๆ ไม่น่ารักเลยจริงๆ.

มะระหวาน

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่