มะระหวาน
หากมองดูขุมกำลังของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ในซีซันนี้ถือว่าค่อนข้างครบเครื่อง ลงตัวเลยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวรุก แดนกลาง และแนวรับ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงยืนอยู่จุดสูงสุดของตารางอยู่ในตอนนี้
แต่จุดเด่นของ “หงส์แดง” เลยจริงๆในซีซันนี้ ไม่ใช่แนวรุก แม้ว่าทั้งโมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ หรือแม้กระทั่งโคดี กักโป ตัวสำรอง และดิโอโก โชตา จะช่วยกันสอยตาข่ายกัน เป็นกอบเป็นกำก็ตาม
ซึ่งจุดแข็งที่สุดของลิเวอร์พูลต้องยกให้แผงมิดฟิลด์ ที่ทำผลงานได้ดีอย่างน่าเซอร์ไพรส์ไม่ว่าจะเป็นอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซโบซไล และวาตารุ เอ็นโด ที่เพิ่งเข้ามาร่วมทีมปีแรก
ทั้งๆที่ก่อนเปิดฤดูกาล “หงส์แดง” เจอปัญหา อย่างหนักเรื่องแผงมิดฟิลด์ เมื่อตัวหลักโดนปล่อยออก จากทีมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นจอร์แดน เฮนเดอร์สัน อดีต กัปตันทีม, ฟาบินโญ มิดฟิลด์ตัวรับ และเจมส์ มิลเนอร์ กองกลางสารพัดประโยชน์ ขณะที่ติอาโก อัลคันทารา ก็มีอาการเจ็บบ่อยจนแทบไม่ได้ลงสัมผัสบอลเลย
ทำให้สถานการณ์ที่ดูว่าจะค่อนข้างวิกฤติ แต่เจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ก็ได้ใช้ มันสมองอันชาญฉลาดของตัวเองในการเสาะแสวงหา ตัวตายตัวแทนเข้ามาแทนที่ได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซโบซไล และ วาตารุ เอ็นโด ที่ย้ายมาในช่วงวันท้ายๆของตลาดซื้อขายนักเตะ
ซึ่งทั้ง 3 กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและ โดดเด่นไปพร้อมกันทั้ง 3 คนเลย แม้ว่าช่วงแรกต่างฝ่าย ต่างประสบปัญหาเรื่องการปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ แต่คลอปป์ก็สามารถจัดการและสร้างให้ทั้ง 3 คุ้นชิน กับทีม เช่นเดียวกับทำให้โซโบซไล และเอ็นโด ปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกได้อย่างรวดเร็ว
แต่คนที่จะมีปัญหามากที่สุดก็คือ แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่ปรับตัวได้ช้าที่สุดในการเข้ากับทีม แต่นั่นก็ไม่ใช่อะไร
เพราะเจ้าตัวได้เล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัดนั่นเอง
ก่อนหน้านี้อัลลิสเตอร์ถูกถอยลงไปเล่นตำแหน่ง กองกลางเบอร์ 6 หรือมิดฟิลด์ตัวตัดเกม ทั้งๆที่ตัวเอง ถนัดในการเล่นตำแหน่งกองกลางเบอร์ 8 นั่นก็เพื่อรอ ให้เอ็นโดปรับตัวให้เข้ากับลีกอังกฤษให้ได้เสียก่อน
เมื่อไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ถนัด แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็เหมือนถูกจำกัดความสามารถไปโดยปริยาย ไม่ว่า จะเป็นการจ่ายบอล การขับเคลื่อนเกม และการจบ สกอร์ที่เด็ดขาด เนื่องจากต้องมาพะวงคอยตัดบอลและเล่นเกมรับ เพราะหากเขาละทิ้งตำแหน่งไปเมื่อไร โอกาสที่จะโดนยิงมีสูง
จนหลายฝ่ายเริ่มค่อนขอดในฝีเท้าของกองกลาง ทีมชาติอาร์เจนตินาว่าเล่นไม่สมกับดีกรีแชมป์โลก 2022
และตั้งข้อสงสัยว่าคลอปป์ตัดสินใจผิดหรือไม่?
แต่เมื่อเอ็นโดปรับตัวเข้ากับความเร็วของพรีเมียร์ลีก และรู้เรื่องบอลลีกผู้ดีมากขึ้นแล้ว แม็ค อัลลิสเตอร์ ได้กลับมาเล่นในตำแหน่งที่ถนัด นั่นก็ทำให้ “ร่างทอง” ของกองกลางทีมชาติอาร์เจนตินาได้ส่องแสงแวววาวกันทีเดียว
เมื่อได้กลับมาสู่ตำแหน่งที่ถนัดก็ทำให้แม็ค อัลลิสเตอร์ สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งยิงและจ่าย โดยเฉพาะในเกมชนะไบรท์ตัน 2-1 ที่เจ้าตัวสามารถคุมเกมเอาไว้ได้หมดจดจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดเกมว่าควรจะบุกตอนไหน ตอนไหนควรโจมตีเร็ว หรือตอนไหนควรดึงสเต็ปเล็กน้อย
แถมยังสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม “หงส์แดง” ได้มากมายเลยทีเดียว เท่านั้นไม่พอ เจ้าตัวก็ยังใช้ประสบการณ์ในการเล่นใน ตำแหน่งกองกลางเบอร์ 6 มาคอยตัดบอลและคอยลงมาคุมตำแหน่งแทนเพื่อนร่วมทีมที่หลุดตำแหน่งอีก
โดย 10 เกมล่าสุดในทุกรายการ แม็ค อัลลิสเตอร์ มีส่วนร่วมกับประตูถึง 8 ครั้ง นอกจากนั้น 10 เกมที่ผ่านมากองกลางชาวอาร์เจนไตน์ยิงไป 5 ประตูและทำอีก 5 แอสซิสต์ จนทำให้ “หงส์” กำลังลุ้นแชมป์ลีกอยู่ในตอนนี้
เรียกได้ว่าพอกลับเข้าตำแหน่งที่ถนัดก็สามารถเค้นศักยภาพคืน “ร่างทอง” ได้ทันที ซึ่งสมกับเป็นแข้งดีกรีแชมป์โลกจริงๆ.
มะระหวาน
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่