ปืนท้าชิงแชมป์

ถือว่าสร้างเซอร์ไพรส์มากๆในฤดูกาลที่แล้วสำหรับ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ทีมดังจากกรุงลอนดอน ที่สามารถก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเต็มตัว แม้ว่าสุดท้ายจะจบลงด้วยการคว้าแชมป์ของ “เรือใบสีฟ้า” ก็ตาม

แต่การที่มิเกล อาร์เตตา กุนซือชาวกระทิงดุได้นำพา “เดอะ กันเนอร์ส” ที่เป็นม้านอกสายตาในการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลที่แล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่บรรดากูรูทั้งหลายคาดไม่ถึง โดย “ต้า” ได้พา “ปืนใหญ่” ขึ้นนำบนตารางตั้งแต่นัดที่ 3 ของซีซัน และครองยาวจนมาถึงเกมนัดที่ 34 ที่เสียบัลลังก์จ่าฝูงไปให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนสุดท้ายก็เป็นทาง “เรือใบ” ที่ปาดหน้าคว้าแชมป์ไปอย่างน่าเจ็บใจ

แม้ว่าจะเจ็บช้ำแค่ไหนแต่ชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อทำให้ในฤดูกาลนี้ “เดอะ กันเนอร์ส” มุ่งมั่นกับตลาดซื้อขายนักเตะอย่างมาก เล็งที่จะเสริมทัพให้ทีมแกร่งมากขึ้นและไม่มียุบไม่มียวบในช่วงโค้งสุดท้ายซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง

โดยในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา อาร์เซนอล เรียกเสียงฮือฮามากที่สุดในบรรดาอีก 19 ทีมที่เหลือในพรีเมียร์ลีก เพราะไม่คาดคิดว่าทีมขี้เหนียวและมีงบจำกัดจำเขี่ยอย่างอาร์เซนอลในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมาจะรับบทเจ้าบุญทุ่มในซีซันนี้

เริ่มจากรายแรก ไค ฮาเวิร์ตซ์ แนวรุกทีมชาติเยอรมนีที่ดึงตัวมาจากเพื่อนร่วมกรุงลอนดอนอย่าง “สิงห์บลู” เชลซี โดยควักเงินจ่ายไปถึง 65 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,945 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็นค่าตัว 60 ล้านปอนด์ และโบนัสตามเงื่อนไขต่างๆอีก 5 ล้านปอนด์

ส่วนรายที่สองเพิ่งได้มาหมาดๆเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่เพิ่งปิดดีลคว้าตัวอย่างเป็นทางการมาจากอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมแกร่งจากลีกดัตช์ ด้วยค่าตัว 38 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,722 ล้านบาท) แยกเป็นค่าตัว 34 ล้านปอนด์ และโบนัสตามเงื่อนไขต่างๆอีก 4 ล้านปอนด์

ขณะที่รายที่ 3 คือฮือฮาที่สุดได้แก่ เดแคลน ไรซ์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ ที่ “ปืนใหญ่” ทุ่มจ่ายค่าฉีกสัญญาให้กับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม เพื่อนร่วมกรุงลอนดอนสูงถึง 105 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,758 ล้านบาท) แบ่งเป็นค่าตัว 100 ล้านปอนด์ และโบนัสตามเงื่อนไขต่างๆ อีก 5 ล้านปอนด์ ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักเตะที่มีสถิติค่าตัวแพงที่สุดของสโมสรทำลายสถิติเดิมของนิโกลาส์ เปเป้ ปีกทีมชาติไอวอรีโคสต์ ที่มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,240 ล้านบาท) เมื่อปี 2019 อีกด้วย

เรียกได้ว่าทั้ง 3 แข้งที่มิเกล อาร์เตตา เสริมทัพ มานั้น ถือว่าตอบโจทย์ให้กับ “เดอะ กันเนอร์ส” เป็น อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทางทิมเบอร์ที่เล่นได้ทั้งตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟและแบ็กขวา แถมบางจังหวะยังสามารถดันขึ้นไปเล่นมิดฟิลด์ตัวรับได้อีกด้วย

เช่นเดียวกับทางฮาเวิร์ตที่จะเข้ามาช่วยแนวรุกของ “เดอะ กันเนอร์ส” ได้หลากหลายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นกองหน้าตัวเป้า หน้าต่ำหรือเดินเกมรุกทางขวาและซ้าย แข้งทีมชาติเยอรมนีลงเล่นได้ ทั้งหมด แถมยังสามารถเล่นได้ดีทั้งเท้าซ้ายและขวา

ส่วนไรซ์เข้ามาเติมเต็มแดนกลางให้ “เดอะ กันเนอร์ส” หลังจากที่กรานิต ชากา อดีตกัปตันทีมหมดสัญญาและลาทีมออกไป แต่มิดฟิลด์วัย 24 ปี มีมิติในการเล่นมากกว่าน่าจะช่วยแดนกลางของ อาร์เซนอลให้เนียนมากขึ้น

พอทั้ง 3 แข้งใหม่มารวมกับบรรดานักเตะที่มีอยู่อย่างวิลเลียม ซาลิบา, เบน ไวท์, โธมัส ปาร์เตย์, บูกาโย ซากา, มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, เลอันโดร ทรอสซาร์ด, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก ถือว่าแกร่งเลยทีเดียว

เชื่อว่าในซีซันนี้ “เดอะ กันเนอร์ส” จะก้าวสู่สนามด้วยตำแหน่งผู้ท้าชิงแชมป์แบบเต็มตัวไม่ใช่ม้ามืดแบบฤดูกาลที่แล้ว!!

มะระหวาน