มะระหวาน
ในฐานะองค์กรลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ก็ยังผุดไอเดียโปรเจกต์ใหม่หรือกฎใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อพัฒนาเกมลูกหนังให้เล่นกันอย่างสนุกมากขึ้นไปกว่าเดิม
ซึ่งหลายคนก็ทราบว่าหนึ่งในปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานในวงการลูกหนังนั่นก็คือกฎล้ำหน้า ที่เป็นการถกเถียงมาเนิ่นนานตั้งแต่ต้องใช้ตาของไลน์แมนเป็นคนตัดสิน จนมีเทคโนโลยี “วีเออาร์” ก็ยังมีปัญหาไม่เลิก
และปัญหาสำคัญก็คือการล้ำหรือไม่ล้ำหน้า ต้องยืนห่างกันแค่ไหนถึงจะล้ำหน้า แม้ว่าจะใช้ “วีเออาร์” ช่วยซึ่งสามารถวัดได้เป็นหลักมิลลิเมตรเลยว่านักเตะคนไหนล้ำหน้าหรือไม่ แต่สิ่งที่แย่ก็คือต้องหยุดเกมลูกหนังตลอดเวลาเพื่อที่จะต้องเช็ก “วีเออาร์”
จนล่าสุดทาง “ฟีฟ่า” นำโดยอาร์แซน เวงเกอร์ อดีตกุนซือของอาร์เซนอล ที่ปัจจุบันรั้งตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาฟุตบอลระดับโลกของฟีฟ่า ที่เสนอไอเดียว่านักฟุตบอลจะถูกจับล้ำหน้าก็ต่อเมื่อร่างกายทุกส่วนอยู่เกินกว่าแนวรับตัวสุดท้ายของฝั่งตรงข้าม
โดยในกฎล้ำหน้าในปัจจุบันนั้น หากส่วนใดของร่างกาย รวมทั้งศีรษะ มือ หรือเท้า ของฝ่ายรุกที่สามารถเล่นบอลได้ นำหน้าผู้เล่นคนสุดท้ายฝ่ายรับ เมื่ออยู่ในแดนของฝ่ายรับในจังหวะส่งบอล และมีเจตนาที่จะเล่นบอล จะถือว่าล้ำหน้าทันที
แต่ในกฎใหม่ที่ออกมานั้นคือ “ทุกส่วนของร่างกาย” ของผู้เล่นฝ่ายรุก จะต้องเหลื่อมผู้เล่นฝ่ายรับ ในจังหวะส่งบอล ถึงจะถือว่าเข้าข่ายการล้ำหน้า หากมีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่เท่ากันอยู่ จะไม่ถือว่าเป็นการล้ำหน้า
ซึ่งกฎดังกล่าวที่ออกมานั้นถือว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แนวรุก เพราะจะทำให้ได้เปรียบในการออกตัววิ่งไปหาลูกฟุตบอลมากกว่าผู้เล่นฝ่ายรับ
ยกตัวอย่างเช่นหากแฮร์รี แมคไกวร์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช็กล้ำหน้า โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าของลิเวอร์พูล แต่จังหวะดังกล่าวนั้น แม้ว่าตัวของซาลาห์จะพุ่งไปข้างหน้า แต่ขาของเจ้าตัวยังอยู่ในระนาบเดียวกันกับแมคไกวร์ ก็จะกลายเป็นไม่ล้ำหน้า
แต่ในจังหวะเดียวกันขาของกองหน้าทีมชาติอียิปต์วิ่งพ้นไปแล้วโดยไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายอยู่ในระนาบเดียวกันของปราการหลังร่างยักษ์ ก็จะกลายเป็นลูกล้ำหน้าทันที
บอกได้เลยว่าถ้าออกกฎแบบนี้รับรองจะมีการยิงประตูกันมากมายเรียกได้ว่าถล่มทลายอย่างแน่นอน เพราะปกติแค่มีส่วนไหนที่เล่นบอลได้ยื่นไปเพียงแค่มิลลิเมตรเดียวก็ล้ำหน้าแล้ว
จากกฎดังกล่าวจะทำให้เกมเข้มข้นมากขึ้น มีโอกาสพังประตูมากขึ้น และทำให้ไม่ต้องใช้วีเออาร์หยุดเกมให้เสียอรรถรส เพราะมันทำให้ไลน์แมนมองเห็นและตัดสินได้ง่ายขึ้น
ซึ่งสำหรับกองหน้าหรือแนวรุกเล่นได้ง่ายมากขึ้นเพราะมีเพียงส่วนไหนก็ได้อยู่ระนาบเดียวกับแนวรับก็ไม่ล้ำหน้าแล้ว แต่ข้อเสียมาตกอยู่ที่แนวรับเพราะถ้าจะเช็กล้ำหน้าต้องยืนให้ห่างคู่ต่อสู้ ยิ่งถ้าแนวรับสปีดต้นไม่จัดอีกหากผิดพลาดปุ๊บก็ไล่บรรดากองหน้า ที่ปราดเปรียวความเร็วสูงไม่ทันแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ยังเป็นการทดลองอยู่โดยในปีนี้ถูกใช้ในลีกเยาวชนของสวีเดน ในแข้งชายรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี และลีกหญิงอายุต่ำกว่า 19 ปี, ลีกรองเนเธอร์แลนด์ และลีกรองของอิตาลี เพื่อวิเคราะห์ผลดี ผลเสีย และนำมาปรับใช้กับฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่ต่อไปในอนาคต
ถามว่ากฎใหม่ดีมั้ยก็บอกได้เลยว่าดี เพราะมันจะทำให้มีการยิงประตูกันมากขึ้นแน่นอน แต่ถ้าใช้จริงบรรดากองหลังคงต้องปรับเปลี่ยนสไตล์ใหม่จะช้าเป็นเรือเกลือไม่ได้เลย
เพราะถ้าผิดพลาดเพียงแค่นิดเดียวรับรองวิ่งหางจุกตูดแน่นอน!!
มะระหวาน