หน้าแรกแกลเลอรี่

ตอบแทนความไว้ใจ

มะระหวาน

1 มี.ค. 2565 05:06 น.

นับตั้งแต่เริ่มดูบอลอังกฤษมาตั้งแต่ปี 1996 นั่งดูรอบชิงฟุตบอลลีกคัพเดิม หรือชื่อใหม่ “คาราบาว คัพ” ในฤดูกาลนี้ ไม่เห็นว่าจะมีคู่ชิงชนะเลิศคู่ไหนที่เตะกันแล้วจะมันส์เท่านี้มาก่อนเลย

บอกได้เลยว่าคู่ชิงระหว่างลิเวอร์พูลเจอกับ เชลซี ในฤดูกาลนี้จบลงด้วยชัยชนะของ “หงส์แดง” ที่ดวลจุดโทษมาราธอนถึง 11 คน ก่อนเป็นฝ่ายเอาชนะ “สิงห์บลู” ไปได้ 11-10 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 0-0 ผงาดคว้าแชมป์ลีก คัพ สมัยที่ 9 ไปครอง

หลังจากลูกทีมของเจอร์เกน คลอปป์ ฉลองแชมป์จนการถ่ายทอดสดตัดลงแล้วก็ยังนอนไม่หลับ ทั้งๆที่เวลาก็ล่วงเลยไปถึงตีสามแล้ว เนื่องจากยัง ตื่นเต้นกับความมันส์ในระดับ 5 ดาวของคู่นี้อยู่เลย

ตลอดทั้ง 120 นาที ลากยาวจนไปถึงการยิงจุดโทษนั้นมีเรื่องราวต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลูกโหม่งของโจเอล มาติป ที่ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่สุดท้ายกรรมการก็เป่าริบประตูคืน

เนื่องจากมองว่า เวอร์จิล ฟาน ไดก์ ไปมีส่วนในการเล่นด้วยการพยายามดึงไม่ให้เซซาร์ อัซปิลิกวยตา กัปตันทีมสิงห์บลู ตามไปสกัดบอลได้

เช่นเดียวกับเชลซี ที่ยิงเข้าประตูถึง 3 ครั้งแต่ก็ล้ำหน้าทั้งหมด นอกจากนั้น ยังมีจังหวะที่ เมสัน เมาท์ ยิงชนเสาอีกด้วย ต้องเรียกได้ว่าเกมนี้ โธมัส ทูเคิล และลูกทีมไม่ได้พกดวงลงสนามไปด้วย

ขณะเดียวกันอีกหนึ่งไฮไลต์ของเกมนี้ก็คือผู้รักษาประตูของทั้งสองทีม ไม่ว่าจะเป็นควีวิน เคลเลเฮอร์ ของลิเวอร์พูล หรือเอดูอาร์ เมนดี ผู้รักษาประตูทีมชาติเซเนกัล ที่เกมนี้ทั้งสองคนเซฟกันอุตลุดเลยทีเดียว

อย่างน้อยๆก็เซฟจังหวะสำคัญได้คนละถึง 3-4 ครั้งเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมนดี ที่เซฟจังหวะพายุบุกของ “หงส์แดง” กันจนมือระวิง ส่วนเคลเลเฮอร์ สิงห์บลู นานๆมาที แต่ก็แต่ละจังหวะนั้นหวาดเสียวเลยทีเดียว

พูดถึงเคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูชาวไอร์แลนด์ เหนือนั้น ก่อนหน้าจะลงสนามในเกมนี้ มีหลายคน สงสัยว่าคลอปป์ นายใหญ่เลือดเบียร์ จะส่งใครเฝ้าเสาในรอบชิงชนะเลิศดีระหว่างเจ้าตัว หรือ อลิสสัน เบคเกอร์ มือ 1 ชาวแซมบ้า

เพราะหลายคนก็เป็นพะวงว่าด้วยประสบการณ์ อันน้อยนิดของเคลเลเฮอร์ ในรอบชิงชนะเลิศนั้น จะทำให้ “หงส์แดง” เสียเปรียบ หลายคนมองว่า ผู้รักษาประตูวัย 23 ปี ยังเด็กเกินไปโดนกดดันมากๆ เข้าในเกมที่พลาดไม่ได้แบบนี้อาจจะทำให้เป็นจุดอ่อน

แต่สุดท้าย คลอปป์ก็ได้ออกมายืนยันว่ายังไงเค้าก็เลือกใช้งานเคลเลเฮอร์ เป็นมือ 1 ในเกมนี้ พร้อมชี้แจงว่าเพราะรายการนี้เขาใช้งาน ควีวินมาตลอด เปลี่ยนอลิสสันลงเล่นเพียงแค่
นัดเดียวเท่านั้น

นอกจากนั้นกุนซือชาวเยอรมันวัย 54 ปียังยืนยันหนักแน่นว่ารายการนี้คือรายการของเขา (ควีวิน) เขาจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงแน่นอน

ผมเชื่อว่าคำพูดนี้มันทำให้เคลเลเฮอร์ ฮึกเหิมและมั่นใจในการลงเล่นในเกมนี้แน่นอน

และจากฟอร์มการเล่นของเคลเลเฮอร์ ในเกมนี้สำหรับตัวผมบอกได้เลยว่าไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวเรียกได้ว่า 10 เต็ม 10 ไปเลยทีเดียว

ไม่น่าเชื่อการเล่นในเกมนี้ ควีวินไม่ได้แสดงให้ เห็นว่าเป็นการลงเล่นรอบชิงชนะเลิศครั้งแรกของเจ้าตัว เพราะเล่นได้เยือกเย็นเหลือเกิน เยือกเย็นกว่าผู้รักษา ประตูในเกมรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่พ่ายให้กับเรอัล มาดริด ในปี 2018 เสียอีก

ที่จริงเกมนี้คลอปป์เลือกอลิสสันลงก็ไม่ผิด แต่นายใหญ่เลือดเบียร์ก็ยังมั่นใจในตัวของควีวิน เต็มเปี่ยม

จนเคลเลเฮอร์เซฟพาทีมคว้าแชมป์

คาราบาว คัพ มาครองเพื่อตอบแทนความมั่นใจ ที่กุนซือมอบให้ไปซะเลย!!

มะระหวาน