หน้าแรกแกลเลอรี่

ไม่ยุติธรรม

มะระหวาน

7 ก.ค. 2564 05:01 น.

ศึกยูโร 2020 ได้เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศกันแล้ว โดย 4 ทีมพระกาฬ ที่ฝ่าทีมต่างๆ ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้ก็รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพร่วมทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ, อิตาลี, สเปน และเดนมาร์ก

ก่อนหน้านี้ในการคัดเลือกเจ้าภาพ (หลังจากเลื่อนมาในปี 2020) ที่จะทำหน้าที่ในยูโร 2020 รอบสุดท้ายในยุคโควิด-19 ระบาดนั้น ทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า ได้กำหนดว่าประเทศหรือเมืองนั้นๆจะต้องให้แฟนบอลเข้าชมเกมในสนามได้อย่างน้อย 25 เปอร์เซ็นต์

โดยเฉพาะที่สนามปุสกัส อารีนา, บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ที่เปิดให้แฟนบอลเข้าไปชมเกือบเต็มความจุจำนวน 56,000 คน เลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นสนามที่มีแฟนบอลเข้าชมมากสุดในยูโร 2020 ในตอนนี้

มาถึงในรอบรองชนะเลิศนี้ทางรัฐบาลผู้ดีก็ได้อนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมเกมที่สนามเวมบลีย์ ได้ถึง 60,000 คน เพิ่มขึ้นจากเดิมก่อนหน้าในรอบแรกได้ 20,000 คน

เชื่อว่าไม่ว่าจะเพิ่มความจุมากเท่าไร โดย เฉพาะในเกมที่ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ก็ไม่น่าพอ ให้สาวก “ทรีไลออนส์” ตามเข้าไปเชียร์ เพราะฟอร์ม การเล่นแบบนี้ใครๆก็อยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์

แต่หันกลับมามองกองเชียร์ทีมอื่นๆก็ต้องประสบปัญหาอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลทีมชาติอิตาลี ที่ไม่สามารถเข้าไปชมเกมที่สนามเวมบลีย์ได้ เพราะอิตาลีเป็นประเทศที่อยู่ในลิสต์สีแดง ถ้าหากจะต้องเข้ามาประเทศอังกฤษจะต้อง กักตัวเป็นเวลา 10 วัน ซึ่งทำให้สาวกทัพ “อัซซูรี” ไม่สามารถเดินทางเข้าไปเชียร์ทีมรักในรอบรองชนะเลิศที่พบกับสเปนได้

แต่แฟนบอล “กระทิงดุ” ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะเข้าออกในอังกฤษได้แบบไม่ต้องกักตัว ทำให้เกมรอบรองชนะเลิศของคู่นี้ทัพ “ลา โรฆา” ได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์แน่นอน

เช่นเดียวกับเดนมาร์กที่ประสบปัญหาเดียวกับ อิตาลีเป๊ะๆ เพราะ “โคนม” อยู่ในลิสต์สีแดงของ รัฐบาลอังกฤษเช่นกัน มาเมื่อไรก็ต้องกักตัว 10 วัน

ทำให้เกมที่ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ฟัดกับ “โคนม” เดนมาร์ก นั้นแทบจะไม่มีแฟนบอลเดนมาร์กเข้าชม หรือถ้ามีก็คงมีเพียงแค่ไม่กี่หยิบมือเท่านั้น เพราะชาวเดนส์ที่อยู่ในอังกฤษก็ไม่ได้เยอะมากเท่าไร

อย่างไรก็ตาม มานั่งนึกดูถ้าอิตาลีผ่านเข้าสู่ รอบชิงชนะเลิศพบกับเดนมาร์ก ซึ่งจะทำการแข่งขัน ที่เวมบลีย์ สเตเดียม มันก็จะดูเหงาๆทันที 

จากก่อนหน้านี้สมาคมฟุตบอลอังกฤษก็ได้ ยื่นข้อเสนอเพื่อให้ใช้เวมบลีย์ได้เต็มความจุในรอบชิงชนะเลิศ หากอังกฤษผ่านเข้ารอบ ถ้าอิตาลีกับเดนมาร์กเป็นคู่ชิงจริงๆ จากสนามที่มีความจุ 90,000 คน แต่มีแฟนบอลเข้าชมเพียงแค่ 5-10 เปอร์เซ็นต์ของสนาม มันก็คงจะขัดกับแผนการของยูฟ่าที่อยากให้แฟนบอลเข้าสนามเยอะๆ

มาถึงตอนนี้คงเป็นหน้าที่ของ “ยูฟ่า” ที่อาจจะ ต้องคุยกับรัฐบาลอังกฤษว่ามีหนทางใดบ้างที่ให้แฟนบอลของทั้งอิตาลี (ถ้าเข้ารอบชิง) และเดนมาร์ก (เตะรอบรองชนะเลิศ) ให้เข้ามาชมเกมได้หรือไม่

มันเป็นเกมที่สำคัญมากๆ นักกีฬาก็ต่าง อยากให้กองเชียร์ของตนเองเข้ามาส่งเสียงเชียร์กันอยู่ขอบสนาม โดยกำลังใจจากนักกีฬาคนที่ 12 นั้นมันสำคัญ จริงๆ มันทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้กลับกลายเป็นจริงได้

ในเกมฟุตบอลเกิดปาฏิหาริย์มากมายจากเสียงเชียร์ของแฟนบอล แต่ในตอนนี้แฟนบอลก็ไม่สามารถตามเข้ามาเชียร์ทีมรักได้ กลายเป็นอีกทีมหนึ่งมีกองเชียร์ แต่อีกทีมกลับไม่มี มันไม่ยุติธรรมจริงๆ.

มะระหวาน