บี บางปะกง
ศึกลูกหนังชิงเจ้ายุโรป “ยูโร 2020” ได้ 8 ทีมสุดท้าย ทะลุผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ เรียบร้อยโรงเรียนยูฟ่าไปแล้วล่ะครับ
เกมฟาดแข้งในรอบนี้จะเชิดฉิ่งกันเลยในค่ำคืน วันศุกร์ที่ 2 ก.ค. เริ่มด้วย “กระทิงดุ” สเปน เจอกับม้ามืด สวิตเซอร์แลนด์ ตามด้วย เบลเยียม เปิดศึกบิ๊กแมตช์กับแข้ง “มะกะโรนี” อิตาลี
ส่วนโปรแกรมในคืน วันเสาร์ที่ 3 ก.ค. สาธารณรัฐเช็ก จะดวลกับ “โคนม” เดนมาร์ก และ ยูเครน จะน็อกกับ อังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชน คนดูบอลบ้านเรา
โดยคู่แรกจะเตะกันในเวลา 5 ทุ่ม ส่วนคู่หลังเล่นเวลาตีสอง ทั้ง 2 วัน ถ่ายทอดสดทาง NBT2HD และทรูวิชั่นส์ ให้ตามลุ้นตามเชียร์กัน ตามสะดวกเหมือนเดิม
ยูโรผ่านมาถึงรอบลึกแล้ว ใครเลยจะเชื่อว่า บรรดายอดทีมเสือ สิงห์ กระทิง แรด จะร่วงตกรอบ เรียบวุธ ไม่ว่าจะเป็น “แชมป์เก่า” โปรตุเกส, ฝรั่งเศส แชมป์โลกที่ถูกยกให้เป็น “เต็งจ๋า” ของทัวร์นาเมนต์, อัศวินสีส้ม ฮอลแลนด์
และที่เก็บข้าวของกลับบ้านเป็นรายล่าสุดก็คือ อินทรีเหล็ก เยอรมนี ที่บุกไปโดน สิงโตคำราม ชำระแค้นที่เวมบลีย์ซะ 2 เม็ด เมื่อคืนวันก่อน
เรียกว่าทีมจาก “กรุ๊ปออฟเดธ” ในรอบแบ่งกลุ่มทั้งตราไก่, ฝอยทอง และแข้งเมืองเบียร์ พากันเด๊ดสะมอเร่แค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างเหลือเชื่อ!!
ถึงตอนนี้เชื่อเหลือเกินว่าสาวก “ทรีไลออนส์” ทีมชาติอังกฤษ ทั่วราชอาณาจักร คงจะมีความสุข มากที่สุดกับผลงานของทีมรัก
โดยเฉพาะเกมที่พวกเขาเพิ่งเขี่ยนักเตะ เยอรมัน คู่รักคู่แค้นตลอดกาล พ้นวงโคจรของศึก ยูโรเที่ยวนี้ไปได้อย่างสะใจที่สุด!!
นับเป็นการ “ปลดล็อก” ความอัดอั้นตันใจของแฟนบอลเมืองผู้ดี ที่อยู่ใต้ร่มเงาความสำเร็จของนักเตะดอยช์ลันท์มากว่าครึ่งศตวรรษ ที่ไม่ว่า จะเจอกันในรายการเมเจอร์อย่างบอลโลก หรือยูโรส่วนใหญ่แล้วมักจบลงด้วยความผิดหวังของแข้งเมืองผู้ดีแทบทั้งนั้น
โดยเฉพาะ ภาพจำในฟุตบอลยูโร 96 เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ถือว่าชัดเจนที่สุด นี่เป็นบอลยูโรในความทรงจำของตัวผมเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นครั้งแรก ที่ตัวเองเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ป้ายแดงของกราวกีฬาไทยรัฐใหม่ๆ
ซึ่งตอนนั้นเราส่ง “พี่ป๊อก” พงษ์ ระวี คอลัมนิสต์ผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นเจ้าตำรับคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” ไปรายงานข่าวที่ลอนดอน และมี “พี่อุ๋ย” ณรงค์วิทย์ ศรีวัฒนา ช่างภาพมือเก๋าที่ได้รับ รางวัลใหญ่จาก “เบียร์ช้าง” ตามไปสมทบภายหลัง
ถ้าจำไม่ผิดทั้งคู่อยู่ในเกมประวัติศาสตร์รอบรองชนะเลิศที่สังเวียนเวมบลีย์ซึ่งเจ้าถิ่น อังกฤษ โม่เกือกกับเยอรมนี 120 นาทีเต็ม แต่ยัง ทำอะไรกันไม่ได้ ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดสุดๆ
ก่อนที่แกเร็ธ เซาธ์เกต จะเป็นผู้โชคร้าย ซัดจุดโทษไปติดเซฟ ทำให้แข้งเมืองผู้ดีชวดเข้าชิงชนิดอกหักกันทั้งประเทศ
สองทศวรรษครึ่งที่ฝันร้ายในวันนั้นตามหลอกหลอนเซาธ์เกตและสาวกสิงโตคำรามมาตลอด จนกระทั่งยูโร 2020 ครั้งนี้ที่อดีตแนวรับแอสตัน วิลลา ก้าวขึ้นมารับบทกุนซือใหญ่ทีมชาติอังกฤษ นำลูกทีมลงกำราบพลพรรคอินทรีเหล็กได้อย่างราบคาบสมใจเสียที
สร้างความสุขสมอารมณ์หมายชนิดกระฉูดแตก...ให้กองเชียร์สิงโต 3 ตัวทั่วทั้งโลก...ได้ฉีกยิ้มกว้างด้วยความภาคภูมิใจอย่างแท้จริง
เห็นความแฮปปี้ดี๊ด๊าของ คอบอลอิงแลนด์ อย่างนี้แล้ว เลยอดอิจฉาเค้าไม่ได้ ว่าเมื่อไหร่หนอ คอบอลไทยแลนด์ อย่างพวกเรา
จะมีวาสนาได้ “คืนความสุข” แบบสุดๆ อย่างนี้...กันบ้าง...นะจ๊ะ!!!
บี บางปะกง