ไทยรัฐออนไลน์
ลูกที่สเปนทำเข้าประตูตัวเองแจกโชคให้โครเอเชียนำ 1-0 เกือบเป็นประตูที่ไกลที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน ยังดีที่เข้ารอบ 16 ทีม ยูโร 2020 ได้
วันที่ 29 มิ.ย. 64 ควันหลงฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" รอบ 16 ทีม คู่ที่ 5 ซึ่ง สเปน รองแชมป์กลุ่มอี อดีตแชมป์สูงสุด 3 สมัยเทียบเท่า เยอรมนี สู้กับ โครเอเชีย อย่างดุเดือดจนเสมอในเวลา 90 นาที 3-3 ก่อนที่ "กระทิงดุ" จะเอาชนะ 5-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เข้ารอบ 8 ทีมไปพบ สวิตเซอร์แลนด์ ที่ดวลจุดโทษชนะ ฝรั่งเศส 5-4 หลังเสมอในเวลาปกติ 3-3
ประเด็นที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง คือ จังหวะได้ประตูขึ้นนำ 1-0 แบบโชคช่วยของ โครเอเชีย ในนาทีที่ 20 ซึ่งเกิดจากการที่ผู้เล่น สเปน 7 คนต่อบอลไปมาในแดนตัวเอง 10 ครั้งจน โครเอเชีย เข้าไปบีบ ก่อนที่ เปดรี กองกลางดาวรุ่งวัย 18 ปี จะส่งคืนผู้รักษาประตูจากระยะเกือบครึ่งสนาม แต่ อูไน ซิมอน กลับกะจังหวะบอลที่กระดอนพื้นเล็กน้อยพลาด ทำให้จับบอลทะลักเข้าประตูตัวเองชนิดที่ไม่มีใครคาดคิด
เบื้องต้นมีการตัดสินให้ อูไน ซิมอน เป็นคนทำเข้าประตูตัวเอง ก่อนเปลี่ยนคำตัดสินให้เป็น เปดรี ที่ทำเข้าประตูตัวเองแทน ซึ่ง บีบีซี สปอร์ต เปิดเผยว่านี่คือการทำประตูจากระยะ 49.4 หลา (45.17 เมตร) ไกลที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบสุดท้าย
ระยะในการทำเข้าประตูตัวเองลูกนี้เป็นรองแค่ลูกยิงของ พาทริค ชิค ดาวยิงทีมชาติสาธารณรัฐเช็กที่ยิงจากระยะ 49.7 หลา (45.44 เมตร) ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก กลุ่มดี ที่ชนะ สกอตแลนด์ 3-1 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง และยังเป็นการทำเข้าประตูตัวเองครั้งที่ 9 ในยูโร 2020 ซึ่งมากกว่าทั้ง 15 ครั้งก่อนหน้านี้รวมกันเสียอีก
อย่างไรก็ตาม เซร์คิโอ บุสเกตส์ กองกลางกัปตันทีม และ เฟร์ราน ตอร์เรส ผู้ทำ 1 ประตูในเกมนี้ได้ออกมาปกป้อง อูไน ซิมอน หลังจากที่แก้ตัวได้สำเร็จด้วยการช่วยเซฟลูกยิงของ โครเอเชีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ขณะที่สกอร์ยังเสมอกัน 3-3 ก่อนที่ สเปน จะเอาชนะไป 5-3 ในที่สุด
บุสเกตส์ กล่าวว่า "อูไน รู้ดีว่าเขายังได้รับความไว้วางใจจากพวกเราอย่างเต็มที่ แม้ประตูนั้นจะเป็นความโชคร้าย แต่เขาก็ปรับสภาพจิตใจกลับมาได้อย่างรวดเร็วและแสดงให้เห็นในเกมนี้ด้วยการเซฟลูกสำคัญหลายครั้ง" ส่วน เฟร์ราน ก็บอกแบบเดียวกันว่า "อูไน คือผู้รักษาประตูชั้นยอด เขาตอบสนองสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างดีเยี่ยม และช่วยเซฟเราไว้ในจังหวะสำคัญ 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะตอนที่ยังเสมอ 3-3"