ไทยรัฐออนไลน์
วิเคราะห์ก่อนเกมและสถิติที่น่าสนใจ ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่ระหว่างขุนพลไวกิ้ง "สวีเดน" พบกับ "ยูเครน" ในคืนวันอังคารที่ 29 มิถุนายนนี้
สวีเดน VS ยูเครน
วันที่ : 29 มิถุนายน 2564
เวลา : 02.00 น. (เช้ามืดวันพุธที่ 30 มิถุนายน)
สนาม : แฮมป์เดน ปาร์ก, เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
ถ่ายทอดสด : ช่อง NBT 2HD (หมายเลข 2)
-------------------------------------
เกมรุก
ขุนพลจากแดนไวกิ้ง ถือว่าทำผลงานได้ดีเกินคาดในรอบแบ่งกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม อี แบบไร้พ่าย แถมยังมีผลงานที่ดีและคงเส้นคงวากว่าทีมเต็งของกลุ่มอย่าง "กระทิงดุ" สเปน อีกด้วย
สำหรับเกมนี้คาดว่า แยนน์ อันเดอร์สัน กุนซือใหญ่ น่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากรอบที่แล้วมากนัก โดยเฉพาะ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าตัวจี๊ดจากเรอัล โซเซียดาด ซึ่งถึงแม้จะยังเบิกสกอร์แรกในทัวร์นาเมนต์นี้ไม่ได้ แต่ก็ยังคงมีประโยชน์อย่างล้นหลามในแผงเกมรุก
ขณะที่ มาร์คุส เบิร์ก คาดว่าน่าจะได้กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยมี เอมิล ฟอร์สเบิร์ก กับ เซบาสเตียน ลาร์สสัน คอยสนับสนุนเกมรุกจากด้านข้างเช่นเดิม
ด้านทีมชาติยูเครนของ อังเดร เชฟเชนโก ผ่านเข้ารอบมาได้แบบฉิวเฉียด ในฐานะทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด แต่ผลงานในรอบแบ่งกลุ่มกลับไม่ไฉไลเท่าที่ควร เก็บชัยไปได้แค่เกมเดียวเท่านั้น แถมถูกยิงไปถึง 5 ลูก
แต่อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเข้ามาถึงรอบนี้แล้ว ยังไงก็ไม่สามารถประมาทยูเครนได้ และคาดว่าจะยังคงจัดหนักจัดเต็มเช่นเดิม ไม่ว่าเป็นหอกตัวเป้าอย่าง โรมัน ยาเร็มโก พร้อมด้วย อังเดร ยาร์โมเลนโก กับ รุสลัน มาลินอฟสกี คอยยืนเป็น 3 หน่วยล่าสังหารในเกมนี้
(สวีเดน 8 / ยูเครน 7)
-------------------------------------
เกมรับ
สวีเดนชุดนี้ ต้องยอมรับว่ามีแผงแบ็กโฟร์ที่แข็งแกร่งไม่น้อย เนื่องจากบรรดาตัวหลักต่างมาจากสโมสรชั้นนำของยุโรป เสียไปเพียงแค่ 2 ลูกเท่านั้น และในนัดนี้ก็น่าจะยังคงยึดโครงสร้างเดิมจากรอบแบ่งกลุ่มต่อไป
ซึ่งในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเป็น วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ยืนคู่กับ มาร์คุส แดเนียลสัน ส่วนแบ็กทั้งสองข้างคือ มิคาเอล ลุสติก และ ลุดวิก ออกุสตินส์สัน โดยมี คริสตอฟเฟอร์ โอลส์สัน คอยช่วยสกรีนบอลหน้ากรอบเขตโทษอีกแรง
ส่วน ยูเครน ที่ไม่มีอะไรจะเสีย คาดว่าจะจัดแนวรับชุดที่ดีที่สุดลงสนามเช่นกัน และค่อนข้างโชคดีที่ผู้เล่นในแผงแบ็กโฟร์ ไม่มีใครบาดเจ็บหรือโดนแบน รวมถึงน่าจะยังใช้บริการของ โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ, อิลเลีย ซาบานี, มิโคลา มัตวิเยนโก และ วิตาลี มิโคเลนโก ขณะที่ตำแหน่งกลางรับ น่าจะเป็น เซอร์เก ซิดอร์ชุค มิดฟิลด์จอมขยันจากดินาโม เคียฟ เช่นเดิม
(สวีเดน 8/ ยูเครน 6.5)
-------------------------------------
ขวัญกำลังใจ
ไม่ต้องสืบก็น่าจะรู้ว่า ทัพไวกิ้งมีกำลังใจและโมเมนตัมของทีมที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากในรอบแบ่งกลุ่ม เพราะการที่ยังไม่แพ้ใครในศึกยูโร 2020 คือพลังแฝงที่ยอดเยี่ยม ที่จะช่วยส่งให้สวีเดน ก้าวเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ไม่ยากนัก หากไม่มีอะไรพลิกล็อก
ขณะที่ ยูเครน ถือเป็นงานหนักของ อังเดร เชฟเชนโก กุนซือใหญ่ ที่จะต้องปลุกความฮึกเหิมของลูกทีม ให้กลับมาโดยเร็วที่สุด หลังเกิดอาการเสียขวัญเล็กน้อย จากการพ่ายให้กับ ออสเตรีย ในเกมส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม 0-1
แต่อย่างไรก็ตาม การเป็นมวยรองที่ไม่มีอะไรจะเสีย ก็น่าจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีให้กับ ยูเครน มีพลังในการต่อสู้กับขุนพลจากแดนไวกิ้งได้อย่างสนุก
(สวีเดน 80/ ยูเครน 70)
-------------------------------------
เฮด-ทู-เฮด
สวีเดน ชนะ 1 ครั้ง
เสมอ 1 ครั้ง
ยูเครน ชนะ 2 ครั้ง
-------------------------------------
ผลงาน 3 นัดล่าสุด
ทีมชาติสวีเดน
ชนะ โปแลนด์ 3-2
ชนะ สโลวะเกีย 1-0
เสมอ สเปน 0-0
ทีมชาติยูเครน
แพ้ ออสเตรีย 0-1
ชนะ มาซิโดเนียเหนือ 2-1
แพ้ เนเธอร์แลนด์ 2-3
-------------------------------------
สกอร์ที่คาด : สวีเดน ชนะ ยูเครน 3-1