ไทยรัฐออนไลน์
ปราการหลังเนเธอร์แลนด์ยืดอกรับผิดแบบแมนๆ พร้อมเล่าถึงวินาทีที่ทำแฮนด์บอลจนโดนใบแดงไล่ออก เป็นจุดเปลี่ยนก่อนแพ้ เช็ก จบเส้นทางยูโร 2020
วันที่ 28 มิ.ย. 64 ควันหลงฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" คู่ที่ 3 ซึ่ง เนเธอร์แลนด์ แชมป์กลุ่มซี อดีตแชมป์ 1 สมัย แพ้ให้กับ สาธารณรัฐเช็ก อันดับ 3 กลุ่มดี อดีตแชมป์ 1 สมัยเช่นกันไปแบบพลิกความคาดหมาย 0-2 ทำให้ เช็ก เข้ารอบ 8 ทีมไปพบ เดนมาร์ก ส่วน "อัศวินสีส้ม" จบเส้นทางเพียงเท่านี้
เกมนี้มีจุดเปลี่ยนสำคัญในนาทีที่ 52 เมื่อ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ กองหลังเนเธอร์แลนด์ไปทำแฮนด์บอลเพื่อขัดขวางไม่ให้ พาทริค ชิค ดาวยิงเช็กหลุดเข้าไปลุ้นทำประตูในขณะที่ยังเสมอ 0-0 แม้ผู้ตัดสินจะให้ใบเหลืองในจังหวะแรก แต่วีเออาร์ได้พิจารณาใหม่ก่อนเปลี่ยนคำตัดสินเป็นให้ใบแดงไล่แนวรับจากสโมสรยูเวนตุสออกจากสนาม ก่อนที่ "อัศวินสีส้สม" จะโดนยิง 2 ลูกจนตกรอบในที่สุด
หลังจบเกม เดอ ลิกต์ ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจและยอมรับผิดในคราวเดียวกันว่า "เอาง่ายๆ เลย เกมนี้เราแพ้เพราะสิ่งที่ผมทำลงไปเอง แน่นอนว่ามันรู้สึกแย่มาก หากย้อนกลับไปได้ผมไม่น่าปล่อยให้บอลตกพื้นเลย ทั้งที่ผมอยู่ในตำแหน่งที่สามารถจัดการกับมันได้"
"เมื่อบอลลอยมาแล้วผมปล่อยให้มันตกพื้น ผมก็เสียหลักล้มลงไปและโดนผลักด้านหลังเล็กน้อย จนทำให้ผมต้องใช้มือคว้าบอล นั่นคือจุดเปลี่ยนของเกมอย่างแท้จริง และผมรู้สึกว่ามันเป็นความรับผิดชอบของผมเอง ผมได้เห็นเพื่อนๆ พยายามสู้เต็มที่หลังจากนั้นและผมก็ภูมิใจ แต่ผมยังรู้สึกแย่จากจังหวะนั้นอยู่"
ขณะที่ แฟรงค์ เดอ บัวร์ กุนซือเนเธอร์แลนด์ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ปกป้อง เดอ ลิกต์ ว่า "คุณสามารถตำหนิผมได้ทุกเมื่อ เพราะท้ายที่สุดผมมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบกับผลที่ออกมา เมื่อผมส่องกระจกผมคิดว่าทีมชุดนี้สามารถประสบความสำเร็จได้ทุกรายการที่ลงเล่น แต่ตอนนี้อารมณ์เหมือนเราเมาค้างอย่างหนัก และคืนนี้ก็เหมือนกับผมได้กินยาขม เพื่อเรียนรู้ว่าหลังจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป"