ไทยรัฐออนไลน์
"ฝอยทอง" ทีมชาติโปรตุเกส ไล่ตีเสมอ "ตราไก่" ทีมชาติฝรั่งเศส ไปแบบสุดมัน 2-2 กอดคอเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลยูโร 2020
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดสุดท้าย คู่ที่น่าสนใจที่สนามปุสกัส อารีนา, บูดาเปสต์ (ฮังการี) "ฝอยทอง" ทีมชาติโปรตุเกส พบกับ "ตราไก่" ทีมชาติฝรั่งเศส
เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 16 ฝรั่งเศส เกือบขึ้นนำเมื่อ พอล ป็อกบา จ่ายบอลให้ คีเลียน เอ็มบัปเป หลุดไปยิงแต่ติดเซฟ รุย ปาทริซิโอ นายด่านของโปรตุเกส
จากนั้นนาทีที่ 31 โปรตุเกส ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ดานิโล เปเรรา โดน อูโก โยริส ผู้รักษาประตูของฝรั่งเศสทำฟาวล์ในเขตโทษ และเป็น คริสเตียโน โรนัลโด รับหน้าที่สังหารไม่พลาด พา โปรตุเกส ขึ้นนำ 1-0
เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+2 ฝรั่งเศส ได้จุดโทษบ้าง เมื่อ คีเลียน เอ็มบัปเป โดน เนลสัน เซเมโด ทำฟาวล์ร่วงลงไปในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์และยืนยันเป็นจุดโทษ ก่อนที่ คาริม เบนเซมา จะรับหน้าที่ยิงเข้าไป พา ฝรั่งเศส ตีเสมอ 1-1 แล้วก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 48 ฝรั่งเศส แซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ พอล ป็อกบา เปิดบอลให้ คาริม เบนเซมา หลุดไปยิงตุงตาข่าย ตอนแรกมีการยกธงล้ำหน้า แต่สุดท้ายพอเช็กวีเออาร์แล้วไม่ล้ำ ทำให้ฝรั่งเศสได้ประตูไป
จากนั้นนาทีที่ 49 โปรตุเกสได้ลุ้นตีเสมอ เมื่อ ราฟาเอล เกร์เรโร เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ คริสเตียโน โรนัลโด ขึ้นโหม่งแต่โดนผิดเหลี่ยม บอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
ถึงนาทีที่ 60 โปรตุเกส ได้จุดโทษ เมื่อ ฌูลส์ คุนเด กองหลังของฝรั่งเศสทำแฮนด์บอลในเขตโทษ และเป็น คริสเตียโน โรนัลโด รับหน้าที่สังหารไม่พลาด พา โปรตุเกส ตีเสมอ 2-2
และในนาทีที่ 68 ฝรั่งเศส ได้ลุ้น 2 จังหวะติดๆ เริ่มจาก พอล ป็อกบา ปั่นด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลโค้งจะเข้าประตู รุย ปาทริซิโอ พุ่งปัดมาเข้าทาง อองตวน กรีซมันน์ ยิงซ้ำอีกที รุย ปาทริซิโอ ก็ยังปัดออกไปได้อีกครั้ง
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม โปรตุเกส เสมอ ฝรั่งเศส 2-2 แบ่งกันไปทีมละคะแนน โปรตุเกส มีเพิ่มเป็น 4 คะแนน เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะหนึ่งในทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ส่วน ฝรั่งเศส มีเพิ่มเป็น 5 คะแนน เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
ทีมชาติโปรตุเกส: รุย ปาทริซิโอ (GK), เนลสัน เซเมโด, เปเป, รูเบน ดิอาส, ราฟาเอล เกร์เรโร, ดานิโล เปเรรา, เรนาโต ซานเชส, เจา มูตินโญ, แบร์นาโด ซิลวา, คริสเตียโน โรนัลโด และ ดิโอโก โชตา
ทีมชาติฝรั่งเศส: อูโก โยริส (GK), ลูคัส เอร์นานเดซ, เพรสเนล คิมเพมเบ, ราฟาเอล วาราน, ฌูลส์ กุนเด, เอ็นโกโล ก็องเต, พอล ป็อกบา, โกร็องแต็ง โตลิสโซ, อองตวน กรีซมันน์, คีเลียน เอ็มบัปเป และ คาริม เบนเซมา