ไทยรัฐออนไลน์
กุนซือทีมชาติเดนมาร์ก ยก คริสเตียน อีริคเซน เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ทุกคนในทีมฮึดสู้จนสามารถเข้ารอบ 16 ทีม ยูโร 2020 ด้านเจ้าตัวร่วมยินดีด้วย
วันที่ 22 มิ.ย. 64 ควันหลงฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มบี ซึ่ง เดนมาร์ก อดีตแชมป์ 1 สมัยในปี 1992 ซึ่งแพ้มาใน 2 เกมแรก ระเบิดฟอร์มเอาชนะ รัสเซีย ที่ชนะมา 1 นัดไปได้อย่างสวยงาม 4-1
ทำให้ เดนมาร์ก มี 3 คะแนนเท่ากับ ฟินแลนด์ และ รัสเซีย ที่ต่างก็ชนะกันเองเป็นงูกินหางทั้ง 3 ทีม (ฟินแลนด์ ชนะ เดนมาร์ก 1-0 / รัสเซีย ชนะ ฟินแลนด์ 1-0) แต่ผลต่างประตูได้-เสีย เดนมาร์ก ดีที่สุด จึงจบอันดับ 2 ของกลุ่มบี เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติต่อจาก เบลเยียม ที่มี 9 คะแนนเต็ม ส่วน ฟินแลนด์ รอลุ้นเข้ารอบในฐานะอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีมจาก 6 กลุ่ม ขณะที่ รัสเซีย ตกรอบ
หลังจบเกม แคสเปอร์ ยูลมันด์ กุนซือทีมชาติเดนมาร์กออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการเสีย คริสเตียน อีริคเซน ตลอดทัวร์นาเมนต์จากอาการหัวใจวายจนวูบหมดสติคาสนามในเกมแรกกับ ฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน คือแรงกระตุ้นให้ทุกคนสู้อย่างเต็มที่เพื่อจอมทัพตัวเก่งจาก อินเตอร์ มิลาน
ยูลมันด์ กล่าวว่า "ทั้งชีวิตนี้ผมไม่เคยสวมใส่อัญมณีมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมสวมใส่อัญมณี (พูดพร้อมกับชี้ไปที่แหวนบนนิ้วมือ) และ คริสเตียน ก็อยู่กับผมที่นี่ด้วย ผมมีเขาอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ผมคิดถึงเขามากและอย่างที่ผมเคยพูดมาเสมอว่าเขาคือหัวใจของทีมเรา และวันนี้เราก็สู้กันเต็มที่เพื่อเขา เขาคือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา"
ด้าน ยุสซุฟ โพลเซน กองหน้าผู้ทำประตู 2-0 ในเกมนี้ก็กล่าวว่า "มันเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่เกิดขึ้นในบ้านต่อหน้าชาวเดนมาร์กจำนวนมาก คงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว และด้วยทุกสิ่งที่เราผ่านมันมาได้มันยิ่งทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจมากขึ้นไปอีก ผมคิดว่า อีริคเซน น่าจะมีความสุขเช่นเดียวกับเราในตอนนี้ เขาอาจจะได้มามาดูเราลงสนามในเร็วๆ นี้ก็ได้ แน่นอนว่าเขาสมควรได้ร่วมเฉลิมฉลองกับเราด้วย"
ขณะที่ คริสเตียน อีริคเซน ที่ติดตามชมการถ่ายทอดสดทางหน้าจอโทรทัศน์ระหว่างฟื้นฟูอาการ ก็โพสต์แสดงความยินดีผ่านทางสตอรี่ในอินสตาแกรมส่วนตัวด้วย