เช็กสถิติ-ค่าพลัง "อิตาลี" ข่มมิด "สวิตเซอร์แลนด์" ลุ้นจองตั๋วเข้ารอบ ยูโร 2020

ไทยรัฐออนไลน์

16 มิ.ย. 2564 06:15 น.

วัดค่าพลัง เช็กสถิติก่อนเกมยูโร 2020 กลุ่มเอ นัดที่ 2 อิตาลี ยังข่ม สวิตเซอร์แลนด์ ทุกมิติ ลุ้นจี้สถิติไร้พ่ายและจองตั๋วเข้ารอบ พร้อมทำนายผล

อิตาลี VS สวิตเซอร์แลนด์

รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กลุ่ม A

วันที่ : 16 มิถุนายน 2564 (เวลา 02.00 น. ของวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ตามเวลาประเทศไทย)

สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก, กรุงโรม ประเทศอิตาลี

ถ่ายทอดสด : NBT2HD

เกมรุก

ทีมชาติอิตาลีของ โรแบร์โต มันชินี ยังดุดันต่อเนื่องจากที่ไม่แพ้ใครยาวนานเกือบ 3 ปี รวม 28 นัด โดยคว้าชัยถึง 23 นัด แบ่งเป็นการชนะรวด 10 นัดในรอบคัดเลือก พร้อมยิงไม่เลี้ยง 37 ประตู และ 10 เกมหลังสุดก็ทะลวงคู่แข่งทุกรายที่ขวางหน้าถึง 29 ลูกรวมกัน

ขณะที่ ชิโร อิมโมบิเล ดาวยิงความหวังจาก ลาซิโอ ก็ปลดล็อกประตูแรกในรายการใหญ่เรียกความมั่นใจได้แล้วในคู่เปิดสนามถล่ม ตุรกี 3-0 ส่วนแบ็ก 2 ข้างโดยเฉพาะ เลโอนาร์โด สปินาซโซลา ทางฝั่งซ้ายที่เติมเกมเร้าใจจนคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ นัดแรก ก็พร้อมเป็นหน่วยสนับสนุน บวกกับแดนกลางที่ผสานผู้เล่นเชิงสูงเข้ากับจอมขยัน ทั้ง จอร์จินโญ, นิโคโล บาเรลลา และ มานูเอล โลคาเตลลี ทำให้ "อัซซูรี" ลงตัวสุดๆ

ด้านทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ แม้เกมแรกจะครองบอลบุกเหนือกว่า เวลส์ ชัดเจนถึง 62 เปอร์เซ็นต์ มีโอกาสลุ้นทำประตูถึง 18 ครั้ง แต่ซัดตรงกรอบเพียง 4 ครั้ง จนทำได้แค่เสมอ 1-1 มีเพียง 1 แต้มทั้งที่ควรจะได้ 3 คะแนนเต็ม จึงเป็นการบ้านที่ วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช ต้องแก้ไขเรื่องความเฉียบคมอย่างหนัก หากหวังต่อกรกับ อิตาลี ที่ครบเครื่องกว่า

คะแนน : อิตาลี 9 / สวิตเซอร์แลนด์ 7

-----

เกมรับ

แน่นอนว่าถ้าพูดถึง อิตาลี ก็ต้องนึกถึงเกมรับอันเหนียวแน่นที่เป็นจุดแข็งมาช้านาน รอบคัดเลือกก็เสียไปแค่ 4 ประตู น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 จนคว้าแชมป์กลุ่มเจ อีกทั้ง 9 นัดหลังสุดยังเอาชนะคู่แข่งได้โดยไม่โดนเจาะตาข่ายแม้แต่ลูกเดียว

แต่เมื่อถึงเวลาต้องรับมือเกมบุกของคู่แข่ง จานลุยจิ ดอนนารุมมา ผู้รักษาประตู รวมถึงคู่ปราการหลัง จอร์โจ คิเอลลินี, เลโอนาร์โด โบนุชชี ตลอดจนตัวสำรองข้างสนามก็ยังเหนียวแน่นไว้ใจได้เสมอ

ขณะที่แผงหลัง 3 คนของ สวิตเซอร์แลนด์ ฟาเบียน แชร์, มานูเอล อาคานจี และ นิโก เอลเวดี แม้จะมีความคล่องแคล่วพร้อมรับมือการโจมตีภาคพื้นดิน แต่เกมที่แล้วเมื่อถูก เวลส์ ใช้ลูกโด่งเข้ากดดันอย่างต่อเนื่องก็มีเป๋ให้เห็นจนถูกตีเสมอเช่นกัน ขุนพล "นาฬิกา" จึงยังต้องปรับเรื่องความนิ่ง การยืนตำแหน่ง และการเสียสมาธิ

คะแนน : อิตาลี 9 / สวิตเซอร์แลนด์ 7

-----

ความแข็งแกร่ง

เกมแรก อิตาลี แสดงให้เห็นแล้วว่ามีแนวทางการเล่นที่เน้นความดุดัน อาศัยความขยันและเกมเพรสซิ่งไล่บดบี้จน ตุรกี ที่เสียแค่ 3 ประตูในรอบคัดเลือก เสียกระบวนจนไปไม่เป็นก่อนถูกตีแตกพ่ายยับเยิน บ่งบอกให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่พร้อมทำลายจังหวะคู่แข่งทุกเมื่อ

ด้าน สวิตเซอร์แลนด์ นอกจาก บรีล เอ็มโบโล กองหน้าขาลุยแล้ว คนอื่นๆ เมื่อเจอลูกบู๊ดุดันของ เวลส์ เข้าไปก็ออกอาการยุบให้เห็นบ้าง โดยอาศัยความสามารถส่วนบุคคลที่เหนือกว่าประคองเอาตัวรอดมาได้ แต่การเจอ "อัซซูรี" ที่ช่วยกันไล่บอลเป็นกลุ่ม อาจเป็นงานที่หนักกว่า "มังกรแดง" หลายเท่า

คะแนน : อิตาลี 90 / สวิตเซอร์แลนด์ 72

-----

ฟอร์มการเล่น

อิตาลี อยู่ในช่วงแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ นับตั้งแต่แพ้ โปรตุเกส 0-1 ในศึกยูฟ่า เนชันส์ ลีก เมื่อวันที่ 10 กันยายน ปี 2018 โรแบร์โต มันชินี ก็พา "อัซซูรี" ชนะไปถึง 23 นัด และยังไร้พ่ายยาวนานถึง 28 นัด ใกล้ทำลายสถิติของ วิตตอริโอ ปอซโซ ตำนานกุนซือชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัยซ้อน ปี 1934 และ 1938 ที่เคยทำไว้ 30 นัดเข้าไปทุกขณะ

ฝั่ง สวิตเซอร์แลนด์ แม้เพิ่งเสมอ เวลส์ แต่ถ้าดูย้อนไป 8 นัดหลังสุดก็ยังแพ้ใครไม่เป็น และชนะถึง 6 เกม ยิง 19 เสีย 6 แม้ส่วนใหญ่จะชนะทีมที่ชื่อชั้นเป็นรองกว่า แต่ก็ยังเอาชนะทีมระดับเดียวกันอย่าง ยูเครน (3-0), สหรัฐอเมริกา (2-1) และเสมอทีมที่เหนือกว่าอย่าง สเปน (1-1) ได้

คะแนน : อิตาลี 98 / สวิตเซอร์แลนด์ 84

-----

แท็กติก

นับตั้งแต่ มันชินี เข้ามาทำทีม "อัซซูรี" ก็กลายเป็นทีมที่แพ้ยาก และยังพร้อมชนะคู่แข่งได้ทุกเมื่อ ซึ่งเกิดจากปรัชญา "เกมรุกที่ดี คือเกมรับที่ดี" แต่ก็ไม่มองข้ามความสำคัญของการเล่นอย่างดุดันและเหนียวแน่นตามสไตล์อิตาลีขนานแท้ ทำให้กลายเป็นทีมที่ลงตัวและน่าจับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นมีลุ้นแชมป์เลยทีเดียว

ส่วนขุนพล "นาฬิกา" แม้จะมาดีในรอบคัดเลือกและเกมอุ่นเครื่องก่อนหน้านี้ แต่พอเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์จริง เมื่อเจอความมุ่งมั่นของทีมคู่แข่งก็มีช่องว่างให้โจมตีเช่นกัน ขณะที่การแก้เกมนัดที่แล้วอย่าง เดนิส ซากาเรีย และ มาริโอ กาฟราโนวิช แม้จะช่วยให้จังหวะบุกวูบวาบขึ้น แต่ยังแก้ปัญหาความเฉียบคมในการจบสกอร์ไม่ได้ นอกจากนั้นยังพลาดตรงที่ถอด เซอร์ดาน ชากิรี ตัวอันตรายในแนวรุกเร็วเกินไปขณะที่เกมยังไม่ขาด จึงต้องไปปรับหมากกันใหม่ในระหว่างการซ้อมก่อนลงสนาม

คะแนน : อิตาลี 85 / สวิตเซอร์แลนด์ 78

-----

ขวัญกำลังใจ

การที่ อิตาลี ประเดิมสนามอย่างสวยหรูด้วยการถลุง ตุรกี หมดสภาพ กลายเป็นพลังเสริมให้ลูกทีมของ มันชินี ที่ไม่แพ้ใครมา 28 นัด และยังได้เล่นในบ้านตลอด 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม บวกกับการอนุญาตให้แฟนบอลกลับเข้ามาเชียร์ในสนามสตาดิโอ โอลิมปิโก ได้ไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งทำให้ความมั่นใจพุ่งขึ้นถึงขีดสุด

ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ แม้ก่อนหน้านี้จะชนะรวด 6 เกม แต่เมื่อพลาดท่าเสมอ เวลส์ แบบน่าชนะ ขวัญกำลังใจย่อมสะดุดลงตามผลงานนัดแรก และหากยังแก้ปัญหาแนวรุกยิงทิ้งยิงขว้างไม่ได้ เห็นทีจะเข้าทาง "อัซซูรี" ที่มีทีเด็ดทีขาดมากกว่า

คะแนน : อิตาลี 94 / สวิตเซอร์แลนด์ 82

-----