สิ้นสุดการรอ

สิ้นสุดการรอคอยเสียที สำหรับ “ลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2020” ที่ตอนแรกคนไทยทุกคนยังรอลุ้นแบบใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ว่าครั้งนี้จะได้ดูหรือเปล่า เพราะจนถึงวันแข่งขันแล้วแต่ก็ยังไร้วี่แววว่าหวยจะออกอย่างไร

ก่อนหน้าเพียงวันเดียวก็มีกระแสข่าวแพลม ออกมาว่าช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ “เอ็นบีที” จะรับหน้าเสื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรครั้งนี้

รวมถึงนายใหญ่ค่ายหัวหมาก “ก้องศักด ยอดมณี” ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ออกข่าวว่ากำลังเร่งเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายมาถ่ายทางช่องทีสปอร์ต

จากนั้นคำถามก็ถูกตั้งขึ้นมาอย่างมากมายว่าจะเป็นไปได้อย่างไร ส่วนหนึ่งเพราะเงื่อนของกรอบเวลาที่กระชั้นชิดเกินไป แถมเม็ดเงินก้อนโตที่จะต้องจ่ายใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ

หากเป็นรัฐบาลแสดงความใจใหญ่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง รับรองโดนสวดยับเป็นกระบุง

แน่นอนหากนำเงินมาใช้ในช่วงนี้ที่สถานการณ์โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก และทุกคนกำลังต้องการวัคซีนเพื่อมาป้องกันบรรเทามากกว่าการดูบอล

สุดท้ายคำถามทุกอย่างที่เป็นข้อสงสัยก็ถูกเฉลยออกมาจากปากของ “เดอะแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ฟุตบอลยูโร 2020 กำลังจะประเดิมสนามนัดแรกว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วในเรื่องซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด โดยใช้เวลาในการเจรจาเพื่อหาบทสรุปแค่ 2 วันเศษๆ

หลังจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปรยถามว่าปีนี้มีถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรหรือเปล่า!!!!

ส่วนพระเอกขี่ม้าขาวที่มาสร้างความสุขให้คนไทยครั้งนี้ “โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด หรือที่รู้จักกันในนามผู้ผลิตและจำหน่าย “รองเท้าแอโรซอฟต์” ที่ควักกระเป๋าทุ่มงบประมาก้อนโตคนเดียวกว่า 100 ล้านบาทในการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้

ซึ่งมีที่ปรึกษาอย่าง “ส.ส.โฟม” พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมต.อุตสาหกรรม รวมถึงสมศักดิ์ เทพสุทิน รมต.ยุติธรรม และ “เดอะแฮงค์” เป็นกุนซือใหญ่ ในการรวบรวมงบก้อนโตครั้งนี้

โดยนายโกมลเองที่เป็นฮีโร่ในครั้งนี้ บอกแบบมีความสุขว่าตอนแรกที่คุยกันคิดว่าจะช่วยสนับสนุน 10 ล้านบาท แต่ด้วยเวลากระชั้นชิด จึงจำเป็นต้องทุ่มเงินเพื่อซื้อลิขสิทธิ์เพียงผู้เดียว ถือซะว่าเป็นการส่งมอบความสุขให้คนไทยทุกคนในช่วงเวลานี้ที่คนจำนวนมากไม่สามารถออกจากบ้านได้เพราะโควิดระบาดก็แล้วกัน

เอาเป็นว่าฟุตบอลยูโร 2020 ครั้งนี้แฟนบอลจะได้ดูกันอย่างเต็มที่ครบทั้ง 52 นัดไม่ขาดไม่เกินทางช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ “เอ็นบีที” กดหมายเลข 2

ถือเป็นการส่งความสุขที่เหมาะเจาะและตรงห้วงเวลาจริงๆ

แล้วแบบนี้จะไม่ให้เรียกว่าพระเอกตัวจริงได้อย่างไร.

โจโจ้