มะระหวาน
ยังคงย่ำแย่ไม่เลิกสำหรับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าในศึกพรีเมียร์ลีก ที่นัด ล่าสุดก็โดน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน บุกมาสอยพังคาถิ่น 0-2 ในเกม “เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้” เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
จากความพ่ายแพ้ในเกมนี้ของลิเวอร์พูลนั้นเป็นการแพ้ในบ้านเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 97 ปีที่ลงเล่นในบ้านของตัวเองและไม่มีแต้มเลยซักแต้มเดียว หลังเคยโชว์ฟอร์มได้ย่ำแย่แบบนี้เอาไว้ตั้งแต่ปี 1923 นู้นเลย
นอกจากนั้น ลิเวอร์พูลยังพ่ายแพ้ให้กับ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมืองเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปีเลยทีเดียว
จะว่าไปก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าทีมอย่าง ลิเวอร์พูลจะพ่ายแพ้คาบ้าน 4 นัดติด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก่อนจะแพ้นัดแรกให้กับเบิร์นลีย์ 0-1 “หงส์แดง” เล่นในรังแอนฟิลด์ ไม่แพ้ใครมา 68 นัดติดต่อกัน
แต่พอแพ้เกมแรกปุ๊บเหมือนกับช็อตฟอร์มในบ้านไปดื้อๆ แพ้ตามมาอีก 2 นัดจนมาถึงเกมโดนคู่ปรับร่วมเมืองลิเวอร์พูลบุกมาสอยเป็นเกมนัดที่ 4
ซึ่งสาวก “เดอะ ค็อป” ก็ก้มหน้ายอมรับสภาพของทีมรักที่กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำแบบสุดๆ ในช่วง 4-5 ปีหลังนี้
ส่วนสาเหตุก็ไม่ต้องสืบมาจากอาการบาดเจ็บที่ตัวหลักๆเจ็บกันทั้งหมด
โดยเฉพาะแนวรับ 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักเจ็บหมดไม่ว่าจะเป็นเวอร์จิล ฟาน ไดก์, โจ โกเมซ และโจเอล มาติป ส่วนตัวขัดตาทัพอย่าง ฟาบินโญก็เจ็บไปอีกราย
จนต้องให้จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมมารับหน้าที่ประคองแนวรับตัวใหม่อย่างโอซาน คาบัค
แต่ก็เหมือนเจอร์เกน คลอปป์ จะดวงซวยแบบสุดๆ เพราะก็ต้องเสีย “เฮนโด้” ไปอีกคนจากเกมนัดล่าสุด
โดยเปลี่ยนตัวออกจากสนามเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบซึ่งคลอปป์ออกมายอมรับเองว่า “หนัก!!”
ต้องมารอดูว่าหลังจากนี้ไป คลอปป์จะจัดทัพในแนวรับอย่างไร
มาพูดถึงเกม “หงส์แดง” พ่าย “ทอฟฟี่” บอกได้เลยว่าลูกทีมของเจอร์เกน คลอปป์ นั้นเล่นได้ไม่เอาอ่าวเลยทีเดียว ผิดกับเอฟเวอร์ตันของคาร์โล อันเชลอตติ ที่ทำได้ยอดเยี่ยมเลย
แต่คนที่โดดเด่นที่สุดก็คงไม่พ้นริชาร์ลิสัน ดาวยิงชาวแซมบ้า ที่เกมนี้ไม่รู้กินอะไรมาเล่นได้ดีจริงๆ
ปกติแล้ว ริชาร์ลิสันกว่าจะตั้งตัวได้ก็ยิงทิ้งยิงขว้างไปหลายลูก
แต่เกมนี้มาทีเดียวโป้งเดียวให้เอฟเวอร์ตัน ขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ไก่โห่ เช่นเดียวกับฮาเมส โรดริเกวซ เพลย์เมกเกอร์ชาวโคลอมเบีย ที่ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน
เรียกได้ว่าทั้งสองกลับมาคืนฟอร์มเก่งได้ในช่วงเวลาที่พอเหมาะพอเจาะกันเลยทีเดียว
ส่วนลิเวอร์พูลนอกจากแนวรับที่มีปัญหาชัดเจนแล้ว แนวรุกก็มีปัญหาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งโมฮัมเหม็ด ซาลาห์,โรแบร์โต ฟีร์มิโน และ ซาดิโอ มาเน ที่นัดกันฟอร์มฝืดพร้อมๆกัน
แต่อีกส่วนหนึ่งก็มาจากความมั่นใจของ “หงส์แดง” ที่ตอนนี้นักเตะดูขาดความมั่นใจไปหมด
พอกองหลังวางใจไม่ได้ก็ทำให้ไม่กล้าเปิดเกมรุกอย่างเต็มตัว เล่นแบบห่วงหน้าพะวงหลังจนทำให้สถานการณ์ออกมาเป็นแบบนี้
หลังจากนี้ไปก็ถือว่าเป็นงานหนักของคลอปป์ ที่จะทำยังไงให้ “หงส์แดง” กลับมาผงาดอีกครั้ง
เพราะถ้าปล่อยเอาไว้อย่างนี้ตำแหน่งท็อปโฟร์ไปลุยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซีซันหน้าก็อย่าได้หวัง!!
มะระหวาน