มะระหวาน
ผ่านไปกว่า 2 สัปดาห์แล้วกับข่าวสุดช็อกกับการจากไปของดิเอโก มาราโดนา ตำนานนักเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ที่เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวในวัย 60 ปี
เชื่อว่าจนถึงตอนนี้ความเศร้าโศกเสียใจก็ยังอยู่กับครอบครัวมาราโดนาและแฟนบอลชาวอาร์เจนไตน์หรือนักเตะสายเลือดฟ้าขาว เพราะ “เสือเตี้ย” ถือว่าเป็นไอดอลของคนในวงการลูกหนังหลายคน
ไม่ว่าจะเป็นลิโอเนล เมสซี กองหน้ากัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาคนปัจจุบันของบาร์เซโลนา ที่ยอมทำผิดกฎด้วยการถอดเสื้อบาร์ซาออกเพื่อให้เห็นเสื้อของทีมนีเวลส์ โอลด์บอย ทีมเก่าของมาราโดนา หลังจากทำประตูได้ในเกมที่ “เจ้าบุญทุ่ม” ชนะโอซาซูนา 4-0 เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการจากไปของ “เสือเตี้ย”
ลองคิดดูว่าขนาดเมสซีที่เป็นคนเงียบๆ และน้อยมากที่จะทำผิดกฎแบบนี้ยังยอมทำบางอย่างเพื่อคนที่ชาวอาร์เจนไตน์ต่างยกให้เป็น “ก้อด” ในวงการลูกหนัง จนล่าสุดโดน
ลา ลีกา สั่งปรับเงินจำนวน 3,000 ยูโร (ประมาณ 109,907 บาท) จากการกระทำดังกล่าวของกองหน้าวัย 33 ปี
นอกจากในอาร์เจนตินาแล้วก็มีอีกหนึ่งแห่งที่สดุดี “เสือเตี้ย” ให้เป็น “ก้อด” ไม่แพ้ชาวอาร์เจนไตน์นั่นก็คือ “อัซซูรา” นาโปลีทีมดังในศึกกัลโช ซีรีเอ อิตาลี
สาเหตุที่สโมสรนาโปลีและแฟนบอลต่างยกย่อง “เสือเตี้ย” ไม่แพ้แฟนบอลฟ้าขาวนั้นก็เพราะมาราโดนาคือ ชายผู้เสกแชมป์ลีกสูงสุดมาให้กับทัพ “อัซซูรา” ถึง 2 ครั้ง ตอนที่ยังคาแข้งอยู่ในถิ่นซาน เปาโล ระหว่างปี 1984-1991
โดย “เสือเตี้ย” พานาโปลีซิวแชมป์ลีกสูงสุดได้ในฤดูกาล 1986-1987 และ 1989-1990
ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรนาโปลีมาในปี 1926 ก็ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์กัลโช ซีรีเอ เลยซักครั้งจนมาถึงยุคของมาราโดนา ถึงจะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 1986-1987 สิ้นสุดการรอคอยมานานกว่า 61 ปี
เท่านั้นยังไม่พอฤดูกาลเดียวกัน มาราโดนา ยังพาทีมคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย อีกใบด้วย โดยในซีซันนี้มาราโดนาลงเล่นไป 41 นัด ทุกรายการยิงได้ 17 ประตู
ก่อนมาราโดนาจะพานาโปลีผงาดแชมป์ลีกอีกครั้งในปี 1989-1990 ซึ่งในซีซันนี้เจ้าตัวลงเล่นในลีกไป 28 นัด ยิงได้ถึง 16 ประตูด้วยกัน
แม้ว่ามาราโดนาจะอยู่กับนาโปลีเพียงแค่ 7 ปี ลงเล่นไปทั้งหมดทุกรายการ 259 นัดยิงไป 115 ประตู แต่สิ่งที่เขาทำก็เพียงพอต่อการกลายเป็นตำนานของสโมสรแห่งนี้
ซึ่งทางนาโปลีก็ตอบแทนด้วยการรีไทร์เสื้อเบอร์ 10 ของสโมสร เพื่อให้เกียรติกับมาราโดนา
จนล่าสุดสโมสรนาโปลีก็ได้อนุมัติจากสภาเมืองเนเปิลส์ให้เปลี่ยนชื่อสนาม
โดยเปลี่ยนจากสตาดิโอ ซาน เปาโล เป็นชื่อ “สตาดิโอ ดิเอโก อาร์มันโด มาราโดนา”
นาโปลีจะใช้ชื่อสนามเหย้าใหม่นี้ในเกมที่พวกเขาจะปะทะกับเรอัล โซเซียดัด ในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดสุดท้าย วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคมนี้
เรียกได้ว่าการเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ก็เพื่อเป็นเกียรติครั้งใหญ่ให้กับ “เสือเตี้ย” ตำนานที่อยู่ในใจของชาวเนเปิลส์ตลอดกาล.
มะระหวาน