พรีเมียร์ลีกลุ้นมันส์

จบเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ไป 1–1 แบ่ง กันไปทีมละแต้ม

แต่น่าเสียดายไปนิด สำหรับแมนฯซิตี้ที่น่าจะได้ 3 แต้มมากกว่า แต่เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียม ดันยิงจุดโทษไม่เข้าซะงั้น ทั้งๆที่ปกติจะยิงไม่ค่อยพลาดซักเท่าไร

ถือว่าโชคดีของลิเวอร์พูลไปที่ยังมีแต้มในเกมนี้กลับบ้าน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกก็เปลี่ยนมืออีกครั้ง ตอนหัวค่ำ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ได้ปีนขึ้นไปสูดอากาศบนบัลลังก์ก่อน หลังจากบุกไปเชือด “เดอะ แบ็กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1-0

จากนั้นก็เปลี่ยนมืออีกครั้ง เมื่อเลสเตอร์ ซิตี้ เฉือนชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 ทำให้ “จิ้งจอกสยาม” ทะยานขึ้นไปนำจ่าฝูงแทน

ก็ต้องรอดูต่อไปว่าในสัปดาห์ต่อไปจะมีทีมหน้าใหม่ๆขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงอีกครั้งหรือไม่

แต่จริงๆปีนี้บอกได้เลยว่าพรีเมียร์ลีกต้องลุ้นสนุกแน่ เพราะทีมระดับกลางๆ มีมาเกาะกลุ่ม หัวตาราง

ไม่ว่าจะเป็นเอฟเวอร์ตันที่พุ่งขึ้นมารั้งจ่าฝูง ในช่วงต้นซีซัน, “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ที่ปกติวนเวียนอยู่กลางกึ่งท้ายตาราง พุ่งขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ของตาราง แถมคืนวันศุกร์ยังทะยานขึ้นไปแตะจ่าฝูงมาแล้วเช่นกัน

เช่นเดียวกับ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา ที่แม้ว่าฟอร์มขึ้นๆลงๆ แต่ล่าสุดเพิ่งระเบิดฟอร์มเทพ บุกไปสอย “เดอะ กันเนอร์ส” อาร์เซนอล ยับเยินคาถิ่น 3-0 เกาะอยู่ในอันดับที่ 6 ของตารางในตอนนี้ หรือแม้กระทั่งคริสตัล พาเลซ ของ “ปู่รอย” รอย ฮอดจ์สัน ขยับขึ้นมารั้งอันดับที่ 8 ของตาราง

สวนทางกับบรรดาทีมยักษ์ใหญ่หล่นมาอยู่โซนกลางตาราง ไม่ว่าจะเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อันดับ 10), อาร์เซนอล (อันดับ 11), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อันดับ 14)

บอกได้เลยว่าปีนี้ทีมต่างๆจากพรีเมียร์ลีก ได้ยกระดับขึ้นมาพอสมควร พร้อมจะแพ้หรือชนะกันได้อยู่เสมอ

ไม่จำเป็นที่ทีมใหญ่จะผูกขาดแต่ชัยชนะ แต่บรรดาทีมระดับกลางหรือเล็กก็สามารถทะยานขึ้นมาเกาะแถวของลีกได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นี่เพิ่งผ่านไปเพียงแค่ 7 นัดเท่านั้นยังไม่สามารถที่จะพูดอะไรกันได้มากนักมันยังต้องดูกันยาวๆ

ซึ่งส่วนใหญ่บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ที่มีขุมกำลัง ที่มากกว่าจะได้เปรียบในการยืนระยะยาวๆ

แต่สิ่งนึงที่เห็นในพรีเมียร์ลีกก็คือไม่มีการผูกขาดการคว้าชัยชนะในทีมใหญ่ๆเหมือนกับลีก อื่นๆในยุโรป ที่ส่วนใหญ่บรรดาทีมท็อปทรี หรือท็อปโฟร์ก็จะเดินหน้าเก็บชัยชนะรวด ก่อนการลุ้นแชมป์คือการตัดแต้มกันเองเท่านั้น

โดยที่พรีเมียร์ลีกแห่งนี้บรรดาทีมเล็กก็สร้าง สีสันมาตลอดพร้อมที่จะตัดแต้มทีมใหญ่อยู่ตลอดเวลา

แม้ว่าทีมที่อยู่บ๊วยของตารางฟอร์มกำลังย่ำแย่แบบสุดๆ ก็ยังพลิกเอาชนะทีมจ่าฝูงได้เช่นกัน เหมือนในซีซันที่แล้วที่ลิเวอร์พูล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก พลิกพ่าย “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด ไป 0-3

เรียกได้ว่าพรีเมียร์ลีกกลายเป็นลีกที่หา ความแน่นอนไม่ได้มากที่สุด

ผลการแข่งขันก็พร้อมที่จะพลิกล็อกได้อยู่เสมอ ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ของลีกแห่งนี้เสมอมา

จึงไม่น่าแปลกใจถ้าหากปีนี้แชมป์ หรือทีมที่ได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก จะไม่ใช่ หน้าเดิมๆ.

มะระหวาน