แมตช์ผีบอก “โชคดีที่มีถ้วย”

บอลจบอารมณ์ก็ยังไม่จบ ถึงแม้ว่าปีนี้จะมีความสำเร็จติดไม้ติดมือมาบ้าง แต่ผลงานโดยรวมก็ถือว่า ยังไม่ถือว่าสู้ดีมากเท่าไหร่ การจบอันดับ 8 ในตารางการแข่งขัน และเป็นลองอริร่วมเมืองอย่างกุ๊กไก่ อันนี้บอกเลยว่าเจ็บจี๊ดจริงๆ ถึงแม้ว่าตอนท้ายจะแก้แค้นกุ๊กไก่ด้วยการเถลิงบัลลังก์แชมป์ FA CUP สมัยที่ 14 เยอะสุดมากสุด เหนือปิศาจแดงไปได้ และส่งให้กุ๊กไก่ต้องไปเตะบอลยุโรปรอบคัดเลือก รอบ 2 แทนที่จะเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มแบบสบายๆ แต่ผมก็บอกเหมือนเดิมครับว่า ไม่โอเคกับทีมในตอนนี้จริงๆ

กราบสวัสดีทุกๆ ท่านก่อนนะครับ กลับมาเจอผมเหมือนเดิมนะครับ กับเรื่องราวของวงการฟุตบอล ถึงแม้ว่าลีกจะจบลงไปแล้ว แต่เราก็ยังโชคดีที่มีฟุตบอลให้ได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าไม่มีเหงากันเลยทีเดียว แถมฤดูกาลใหม่ก็จะกลับมาอย่างรวดเร็ว จนแอบสงสารนักเตะเหมือนกัน แต่ในเมื่อมันคืออาชีพของพวกเค้า เราในฐานะแฟนบอลก็ได้แต่บอกว่า กลับมาเตะอาทิตย์หน้าเลยได้ป่าว 5555

กลับมาเข้าเรื่องของเรากันต่อดีกว่านะครับ เรื่องของความโชคดี บอกตรงนี้เลยครับว่า ผมยังคงยืนยันและนอนยันว่า โค้ชอย่าง อาร์เตตา กุนซือหนุ่มของอาชีวะปืนใหญ่ของผม ฝีมือยังไม่ถึงขั้นนะครับ ถึงแม้ว่า หลังจากกลับมาจากเบรกโควิด ตัวเค้าเองจะทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจอยู่บ้าง แถมมีโทรฟี่ติดมือมาเป็นรางวัลใหญ่ในฐานะการเป็นกุนซือป้ายแดง แต่ทว่าโดยรวม ผมก็ยังคงมองว่า ปีนี้เค้าแค่โชคดีเท่านั้น

ทำไมผมถึงมองว่าเค้าโชคดีน่ะหรือ เพราะในช่วงที่เค้าเข้ามาคุมทีมนั้น แฟนบอลทั้งหลายกำลังพุ่งเป้าโจมตี สแตน โกรเอ็นเก เจ้าของทีมหน้าเลือดอย่างเมามัน เพราะแฟนๆ ในตอนนั้น ต่างเห็นดีเห็นงามว่า หลังจากปลดเฮียโรกิลงจากตำแหน่ง กุนซือที่ควรมาคุมทีมต่อ น่าจะเป็น อัลเลกรี มากกว่า เพราะฝีมือรวมไปถึงบารมีนั้นล้นเหลือ และเหมาะกับการมาช่วยให้ทีมกลับมาผงาดง้ำค้ำโลกในเวทีพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้งแน่นอน แต่เจ้าของทีม ก็ดันไม่กล้าทุ่ม ดันไปคว้า มือขวาของหัวเหม่งมาเป็นกุนซือ

ซึ่งแฟนบอลไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก พอไม่คาดหวัง ความกดดันก็ไม่มี พอความกดดันไม่มี ช่วงแรกที่เข้ามา ผลงานดีอยู่แค่นัดเดียว คือชนะ ปิศาจแดง ที่เหลือไม่อยากพูดถึง มันเซ็ง พอผลงานทรงๆ ทรุดๆ ก็โชคดีที่มีโควิดมาคั่น ทำให้ต้องหยุดพักไป และพอกลับมาก็โชคดี เพราะว่าทีมหัวแถวดันผลงานดี จนตัวเองตามไม่ทัน และดันมาสร้างปาฏิหาริย์สองนัด ที่สอย เรือใบ ในบอลถ้วย และสอยแชมป์ เลยทำให้แฟนๆ กลับมาเห็นใจ และออกมายกย่องว่า นี่ล่ะคือตัวจุดประกายความหวังให้กับทีมอย่างแท้จริง

จนกระทั่งอุกอาจพาทีมคว้าแชมป์ FA CUP มาได้ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ เลยนะครับว่า ดวงเค้าแค่ดีเฉยๆ เพราะเชลซีเองก็ถือว่ามาในสภาพทีมที่ไม่สมบูรณ์เอาเสียเลย แถมผู้เล่นตัวหลักดันมาเจ็บเสียอีก มันเลยทำให้แผนการเล่นของทีมนั้นเสียสมดุล ลองเชลซีสมบูรณ์กว่านี้ซิ บอกได้คำเดียวว่า น่าจะไส้แตกเหมือนที่เคยเจอกันเมื่อปีที่แล้วในนัดชิงบอลถ้วยเล็กยุโรป อาจจะมีคนสงสัยว่า ทำไมผมไม่ให้เครดิตกุนซือเหมือนกับคนอื่นๆ บ้างล่ะ เค้าวิเคราะห์ฟอร์ม วิเคราะห์แผนการเล่น และการแก้วิกฤติที่เกิดขึ้นในทีมออกมาว่า นี่ล่ะคือเพชรเม็ดต่อไปของวงการฟุตบอล ผมบอกตรงนี้เหมือนเดิมครับว่า เค้าคนนี้ยังไม่ใช่ และไม่มีทางใช่สำหรับทีมแน่นอน

เพราะที่ผ่านมายังแค่เผาหลอกครับ ของจริงต้องรอฤดูกาลหน้าครับ เพราะการเข้ามาในแบบครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้ มันพิสูจน์อะไรไม่ได้จริงๆ ลองให้เค้าได้ทีมที่เป็นของเค้าเองดูก่อน ผมอยากรู้ว่า ไอ้การที่เค้าได้เรียนรู้ฝีมือการคุมทีมของเป๊ปมานั้น มันจะทำให้ผมเปลี่ยนใจได้หรือไม่ และถ้าเกิดว่าเค้าทำได้ ผมจะกลับมาชื่นชมและยกย่องเค้าให้เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งผมเคยยกย่อง เวนเกอร์ เคยยกย่อง คลอปป์ เคยเทิดทูน เฟอร์กูสัน

ผมจะรอวันนั้นครับ และหวังว่าคุณคงทำได้ แต่ในความรู้สึกของผม ก็ยังคงบอกได้เหมือนเดิมว่า “เค้าแค่โชคดีเท่านั้นเอง”