แชมป์เอฟเอรั้งโอบา?

จบไปแล้วสำหรับนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ทันเวลายิง 2 ประตูรวดแซงเอาชนะ “สิงห์บลู” เชลซี คู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน ไปได้ 2-1 คว้าแชมป์เอฟเอคัพมาครองได้เป็นสมัยที่ 14

ฮีโร่ของ “เดอะ กันเนอร์ส” ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมยอง กองหน้ากัปตันทีมคนเก่งที่เหมาคนเดียว 2 เม็ดยิงพาอาร์เซนอลพลิกเข้าวินไปได้

เรียกได้ว่า โอบาเมยองเป็นทุกอย่างของ “ไอ้ปืนใหญ่” ก็คงไม่ผิด

จึงไม่แปลกใจที่ทำไมบอร์ดบริหารอาร์เซนอลและสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ต่างเห็นพ้องไปในทางเดียวกันว่าไม่อยากเสียตัวของดาวยิงทีมชาติกาบองออกจากทีมไป

ตอนนี้สัญญาของโอบาเมยองเหลือในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม จนถึงจบฤดูกาล 2021-2022 หรืออีกเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ทำให้ “ปืนใหญ่” ต่างพยายามเร่งจับโอบาต่อสัญญาให้ได้ไวที่สุด

แม้ว่าโอบาจะอายุหลัก 3 แล้ว แต่ฟอร์มการยิงประตูและความเร็วไม่มีตกแม้แต่นิดเดียว ไม่เช่นนั้น 2 ยักษ์ใหญ่จากแดนกระทิงดุอย่าง “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา และ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ต่างไม่ตกเป็นข่าวว่าต้องการได้ตัวไปยืนแดนหน้าหรอก

ตอนนี้เห็นโอบาเมยองแล้วคิดถึงเธียร์รี อองรี ตำนานกองหน้าอีกคนของอาร์เซนอล นอกจากจะใส่เบอร์ 14 เหมือนกัน สไตล์การเล่นก็คล้ายๆกันด้วย แถมยังเป็นกัปตันทีมเหมือนกันอีกต่างหาก

จึงไม่แปลกใจที่บอร์ดบริหารอาร์เซนอล เร่งปิดดีลสัญญาใหม่กับโอบาเมยองให้เร็วที่สุด

เพราะกลัวบรรดายักษ์ใหญ่ในยุโรปมาดูด โอบาไปร่วมทีม

แต่อดีตกองหน้าดอร์ทมุนด์ก็ยังนิ่งกับเรื่องต่อสัญญาฉบับใหม่

ได้แต่พูดว่ายังไม่ถึงเวลาคิดเรื่องนี้

คำพูดแค่นี้ก็เล่นเอาบรรดาสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” สะท้านเช่นเดียวกัน หวั่นใจเสียโอบาเมยองไปให้ทีมอื่น

โดยบอร์ดบริหารอาร์เซนอลก็กลัวเช่นกัน แต่มากกว่ากลัวตรงที่เสียไปแบบฟรีๆ โดยไม่ได้ค่าตัวซักปอนด์

โอบาเมยองอยู่กับอาร์เซนอลปีนี้เป็นฤดูกาลที่ 3 ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์ในสีเสื้อของ อาร์เซนอลเลย เคยได้ใกล้สุดคือรองแชมป์ยูฟ่า ยูโรปาลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

โดย 3 ฤดูกาลที่ผ่านมาโอบาคงมองอนาคตของ “เดอะ กันเนอร์ส” ออกว่าจะไปได้ไกลแค่ไหนเป็นเวทีต่างๆ ทั้งในลีกและในยุโรป

จึงยังไม่คิดเร่งรีบที่จะจรดปากกาเซ็นสัญญาฉบับใหม่ ยิ่งนานเข้าก็จะยิ่งทำให้บอร์ดบริหารจะอยู่ไม่สุขกัน

เพราะ “เดอะ กันเนอร์ส” ชุดนี้ มิเกล อาร์เตตา กุนซือชาวกระทิงดุ สร้างขึ้นมาโดยมี โอบาเมยองเป็นจุดศูนย์กลาง ถ้าหากโอบาย้ายไปก็จะส่งผลกับทีมโดยตรง

อย่างน้อยการได้แชมป์เอฟเอคัพมาครอง ก็เป็นหนึ่งเครื่องการันตีว่า “ปืนใหญ่” ยังมีอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า และจะเป็นสิ่งโน้มน้าวใจให้อดีตหัวหอกดอร์ทมุนด์อยู่กับทีมต่อไป

แต่การได้แค่ไปเล่นยูฟ่า ยูโรปาลีก คงไม่เพียงพอต่อความต้องการของโอบาเมยอง

แม้ว่าการได้แชมป์จะดีต่อใจ แต่การเล่นฟุตบอลในระดับสูง (แชมเปียนส์ลีก) ก็สำคัญเช่นกัน

อายุขึ้นหลัก 3 คือช่วงสุดท้ายของอาชีพค้าแข้ง จะหยุดอยู่กับที่หรือจะเดินหน้าหาความสำเร็จส่งท้าย

เชื่อว่าอีกไม่นานมีคำตอบแน่!!

มะระหวาน