เดชแตนอาละวาด

ได้คู่ชิงชนะเลิศแล้ว สำหรับศึกเอฟเอคัพ อังกฤษ ซึ่งเป็นรายการชิงถ้วยน็อกเอาต์ที่เก่าแก่ ที่สุดในโลก ฤดูกาล 2018-19 หลังจาก “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด พลิกเอาชนะ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้อย่างเหลือเชื่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-2 ทำให้วัตฟอร์ดทะยานเข้าไปชิงชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเวมบลีย์ ในวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคมนี้

เคราร์ด เดวโลเฟว อดีตนักเตะบาร์เซโลนา กลายเป็นตัวแสบของเหล่าแฟนบอล “หมาป่า” เมื่อเขาจัดการเหมาซัดคนเดียวสองลูกปลิดชีพวูล์ฟส์ พาทัพ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด ทะยานเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

ฆาบี กราเซีย กุนซือวัตฟอร์ด ออกมายกย่องเดวโลเฟว ว่าใช้ “ความโกรธ” ที่โดนดร็อปเป็นตัวสำรอง ทำให้ระบายความแค้นเหมาซัดคนเดียว 2 ลูกในเกมนี้

เกมตัดเชือกเอฟเอคัพระหว่างวัตฟอร์ดปะทะวูล์ฟส์นัดนี้ ต้องบอกว่าดราม่าสุดๆ เพราะ “หมาป่า” วูล์ฟส์ ทำท่าจะเข้าชิงแบบแบเบอร์ หลังได้ประตูนำห่างวัตฟอร์ดไปก่อนถึง 2-0

ประตูนำ 1-0 ของวูล์ฟส์ มาจากการโหม่งของแมตต์ โดเฮอร์ตี ในนาที 36 หลังจากนั้นราอูล ฮิเมเนซ หัวหอกทีมชาติเม็กซิโก ก็บวกประตูที่ 2 ให้ทีมหมาป่า ด้วยการพักอกแล้วกระโดดวอลเลย์เข้าประตูอย่างสุดสวย ในนาที 62

เหลือเวลาอีกเพียง 11 นาทีเท่านั้น วูล์ฟส์ก็จะได้เข้าชิงเอฟเอคัพหนแรกในรอบ 59 ปี นับตั้งแต่ปี 1960 แต่แล้วกองเชียร์ทีมหมาป่าก็ต้องฝันสลาย เมื่อโดนฤทธิ์เดชของ “แตนอาละวาด” เอาคืน 2 ประตูรวดในช่วงท้ายเกม

เคราร์ด เดวโลเฟว อดีตเด็กปั้นของบาร์เซโลนา ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง จุดประกายยิงประตูตีไข่แตกในนาที 79 ด้วยลูกยิงปั่นโค้งด้วยขวาส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น ชนิดที่จอห์น รัดดี้ นายทวารวูล์ฟส์ ได้แต่ป้องกันด้วยสายตา

เท่านั้นไม่พอช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 เลอันเดร เดนดองเคอร์ ผู้เล่นวูล์ฟส์ ดันไปเข้าบอลช้าเสียบ ทรอย ดีนีย์ กัปตันทีมวัตฟอร์ด ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินขอใช้ “วีเออาร์” ก่อนตัดสินให้วัตฟอร์ดได้จุดโทษ และเป็นดีนีย์สังหารเข้าไปไม่พลาด ให้สกอร์ 90 นาทีเสมอกัน 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

เกมช่วงต่อเวลาพิเศษเดวโลเฟวกลายเป็นตัวแสบของกองเชียร์วูล์ฟส์ เมื่อเขาหลุดเข้าไปยิงเสียบเสาไกลส่ง “เดอะ ฮอร์เนตส์” แซงนำ 3-2 ในนาที 104 และสุดท้ายก็กลายเป็นประตูชัยให้วัตฟอร์ดแซงชนะวูล์ฟส์แบบสุดดราม่า 3-2 ลิ่วเข้าไปชิงดำเอฟเอคัพฤดูกาลนี้กับแมนฯซิตี้ ต่อไป

วัตฟอร์ดผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ เป็นครั้งที่ 2 เท่านั้นในประวัติศาสตร์สโมสร

และนี่คือการเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพครั้งแรกในรอบ 35 ปีของทัพ “แตนอาละวาด” หลังจากที่พวกเขาเคยทำได้หนสุดท้าย เมื่อปี 1984 โดยครั้งนั้น วัตฟอร์ดแพ้ให้กับเอฟเวอร์ตัน 0-2 ได้แค่รองแชมป์

ย้อนกลับไปในยุค 80 วัตฟอร์ดอยู่ในช่วง “ยุคทอง” ภายใต้การคุมทัพของกอร์ดอน เทย์เลอร์ กุนซือหัวผักกาด และมีเซอร์เอลตัน จอห์น นักร้องเพลงป๊อปชื่อดัง เป็นประธานสโมสร ส่วนนักเตะดังของ “แตนอาละวาด” ในยุคนั้น ก็คือ จอห์น บาร์นส์ และลูเธอร์ บลิสเซตต์

ปัจจุบันวัตฟอร์ดมีตระกูลปอซโซจากอิตาลี เป็นเจ้าของทีม ซึ่งนอกจากวัตฟอร์ดแล้ว ตระกูลปอซโซยังเป็นเจ้าของทีมอูดิเนเซ สโมสรดังในศึกกัลโชซีรีเอ อิตาลีด้วย

ต้องยอมรับว่าผลงานของวัตฟอร์ดถือว่าไม่ธรรมดาเลย

ดังนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังคั่วสี่แชมป์ในฤดูกาลนี้ จึงห้ามประมาทพลพรรค “แตนอาละวาด” อย่างเด็ดขาด

ไม่เช่นนั้น “เรือใบสีฟ้า” มีสิทธิ์น้ำตาตก ชวดฟาดสี่แชมป์!

หมวดแซม