พาวเวอร์บอมบ์
ผมเพิ่งจะบินกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น หลังจากได้รับเชิญให้ไปร่วมชม เกมเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ รอบ 3 ซึ่งก็อย่างที่ทราบผลกันไปแล้วว่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พ่าย แพ้ให้กับคาชิวา เรย์โซล ไปอย่างขาดลอย 0-3 ทั้งๆที่เกมในครึ่งแรก ทีมจากประเทศไทยทำท่าว่าจะสู้ได้สูสี แต่ก็กลับ
มาโดนยิง 3 เม็ดรวดในครึ่งหลัง
ต้องยอมรับว่า นักเตะญี่ปุ่นถึงเวลาต้องเร่งพวกเขาเร่งกันขึ้นตามใจสั่ง ขณะที่นักเตะของเมืองทองฯเองก็อยากจะเร่งเหมือนกัน แต่เร่ง
เท่าไหร่ก็เร่งไม่ขึ้น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะสภาพอากาศที่หนาวเหน็บในวันนั้น ทำให้นักเตะวิ่งกัน ไม่ออก
“เจ้าตัง” สารัช อยู่เย็น มิดฟิลด์ที่คุมแดนกลางถึงกับบ่นอุบหลังจบเกมว่ากล้ามเนื้อยึดไปหมด
อีกเรื่องที่น่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ “กิเลนผยอง” ปราชัยด้วยสกอร์ที่ขาดลอย เห็นจะเป็นการที่พวกเขาต้องเสีย “เซลิโอ ดอส ซานโตส” เซ็นเตอร์แบ็กตัวเก่งไปตั้งแต่ในครึ่งแรก เนื่องจากบาดเจ็บแผลเดิมที่ข้อเท้า
ก่อนออกเดินทาง เมืองทองฯก็มีปัญหาเรื่องของกองหลังอยู่แล้ว เมื่อ “นาโออะกิ อาโอยามะ” ปราการหลังชาวญี่ปุ่นก็บาดเจ็บไม่มีชื่อร่วมทีม
ไปด้วย มาในเกมยังต้องเสียเซลิโอไปกลางคันอีกคน ทำให้ต้านทีมเจ้าถิ่นไว้ไม่ไหวจริงๆ
การตกรอบฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ในครั้งนี้ คงทำให้เมืองทองฯไม่มีอะไรให้ห่วงหน้า พะวงหลังอีกต่อไป พวกเขาคงจะโฟกัสไปที่ศึก ลูกหนังไทยลีก 2018 ที่กำลังจะเปิดฤดูกาลในสัปดาห์หน้าได้อย่างเต็มตัว
และจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การสูญเสียนักเตะระดับหัวใจสำคัญของทีมไปหลายรายพร้อมๆกัน ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นั้น ทำให้ปีนี้เมืองทองฯคงต้องเหนื่อยหนักแน่นอน ซึ่ง“วิลักษณ์ โหลทอง” ประธานสโมสรฯ ก็ออกมายอมรับตามตรง
แต่ส่วนตัวแล้วต้องขอชื่นชมผู้บริหารของเมืองทองฯด้วยที่ยอมปล่อยนักเตะให้ไปมีอนาคตที่ดีกว่า
ต้องให้เครดิตที่ไม่เห็นแก่ตัวครับ
สำหรับศึกฟุตบอลไทยลีก ประจำฤดูกาล 2018 จะเริ่มประเดิมเปิดฉากกันในวันศุกร์ที่ 9 ก.พ.นี้แล้ว โดย “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะแชมป์เก่า จะเปิดสนามช้าง สเตเดียม พบกับ “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เวลา 19.00 น.
จากนั้นวันเสาร์ที่ 10 ก.พ. แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด พบ สุโขทัย เอฟซี เริ่ม 17.45 น., เชียงราย ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี เริ่ม 18.00 น., ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เริ่ม 19.00 น. และชัยนาท ฮอร์นบิล พบ สุพรรณบุรี เอฟซี เริ่ม 20.00 น.
ส่วนวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ. นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบ บางกอกกล๊าส เอฟซี เริ่ม 18.00 น., ราชนาวี พบ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด เริ่ม 18.00 น., การท่าเรือ เอฟซี พบ พัทยา ยูไนเต็ด เริ่ม 19.00 น. และพีที ประจวบ เอฟซี พบ โปลิศ เทโร เอฟซี เริ่ม 19.00 น.
ซึ่งคู่เอกคงจะหนีไม่พ้นคู่ในวันเสาร์ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะเปิดสนามทรู สเตเดียม (ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) รับการมาเยือนของ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยเกมนี้ จะมีการนำเทคโนโลยีวีดิโอ แอสซิสแทนต์ เรเฟอรี (VAR) หรือระบบวีดิโอช่วยในการตัดสินเข้ามาใช้ด้วย
ก็ได้แต่หวังว่า บิ๊กแมตช์เกมนี้คงไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีดังกล่าวมากนัก
ไม่เช่นนั้นคงมีดราม่าบังเกิดตั้งแต่นัดแรกของปีเป็นแน่!!!
พาวเวอร์บอมบ์