ไทยรัฐออนไลน์
"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด โชว์คลาสระดับเทพในครึ่งแรกก่อนเฉือนเอาชนะ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแบบหวุดหวิด 2-1 ซิวแชมป์ซุปเปอร์คัพเป็นสมัยที่ 4...
การแข่งขันฟุตบอลซุปเปอร์คัพปี 2017 ประจำวันที่ 8 ส.ค. ระหว่าง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก พบกับ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ยูโรปาลีก โดยคู่นี้แข่งที่สนาม ฟิลิป ทู อารีนา ประเทศมาซิโดเนีย
เกมนี้ ราชันชุดขาว ส่ง คาริม เบนเซมา, เกเรธ เบล และ อิสโก เป็นสามผสานเกมรุกส่วน คริสเตียโน โรนัลโด สตาร์เบอร์ 1 ของทีมเป็นตัวสำรอง ขณะที่ผีแดงจัดเต็มนำโดย พอล ป็อกบา, เนมันยา มาติช และ อันเดร เอร์เรรา โดยวาง โรเมลู ลูกากู เป็นกองหน้าตัวเป้า
เปิดฉากเกมขึ้นมาเป็น ราชันชุดขาว บุกอย่างหนักและเกือบได้ประตูขึ้นนำนาทีที่ 15 จากลูกเตะมุม อิสโก เปิดให้กับ คาเซมิโร โขกเน้นๆบอลไปชนคานอย่างจัง
จากนั้นลูกโต้กลับผีแดงมาอย่างไว พอล ป็อกบา ควบมาเองแต่ใจแคบไม่ส่งให้เพื่อนตัดสินใจยิงบอลไปติดบล็อกซะอย่างนั้น
กระทั่งนาทีที่ 24 ราชันชุดขาวที่โหมบุกอยู่นานมาได้ประตูออกนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะตักบอลของ ดานี การ์บาฆาล บอลหลุดไปถึง คาเซมิโร ล้มตัวยิงผ่านตัวเดเคอาเข้าไป
ราชันชุดขาวยังเดินหน้าเอาลูกที่สองนาทีที่ 43 คาริม เบนเซมา ได้ยิงโล่งๆ แต่เดเคอายังช่วยเซฟให้กับผีแดงไว้ได้ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงที่สกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลังไม่ทันไร ราชันชุดขาว เกือบหนีห่าง 2-0 โทนี โครส ได้ซัดเต็มข้อหน้ากรอบเขตโทษแต่ เดเคอา ยังบินปัดออกหลังหวุดหวิด
จากนั้นนาที 52 ราชันชุดขาว มาได้ประตูออกนำ 2-0 จนได้ จากลูกชิ่งของ อิสโก กับ เบล ก่อนที่อิสโกจะหลุดเดี่ยวยิงเล่นทางผ่านมือ เดเคอา เสียบเสาสองเขาไป
อีกสองนาทีต่อมา ผีแดง ฮึดและพลาดโอกาสทองตีไข่แตกเหลือเชื่อ มคิตาร์ยาน เปิดให้กับ ป็อกบา โขกเน้นๆแต่บอลติดเซฟ นาบาส บอลกระเด้งมาถึง ลูกากู ยิงจ่อๆ 5 หลาข้ามคานเหลือเชื่อ
นาทีที่ 61 ราชันน่าจะได้ลูกที่สามสุดๆ คาเซมิโร ที่วันนี้เด่นเหลือเกินแทงให้ เกเรธ เบล กระชากไปยิงด้วยขวาเน้นๆแต่บอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย ยิงด้วยขวาเต็มๆบอลชนคาน
จากนั้นผีแดงโต้กลับมาและมาได้ประตูตีไข่แตก 1-2 เนมันยา มาติช กดด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ บอลติดเซฟ นาบาส ปลิ้นมาเข้าทาง ลูกากู ยิงซ้ำจ่อๆไม่เหลือซากแก้ตัวได้สำเร็จ
ผีแดงบุกหนักจริงๆและน่าจะได้ลูกตีเสมอสุดๆนาทีที่ 81 เฟลไลนี เอาบอลลงก่อนไหลให้ มคิตาร์ยาน ก่อนคิลเลอร์พาสให้กับ แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวแต่ดันยิงไปติดมือของ นาบาส อย่างน่าเสียดาย
เวลาที่เหลือแม้ทดเจ็บถึง 7 นาทีแต่ผีแดงตีเสมอไม่ได้ จบเกมการแข่งขัน เรอัล มาดริด เฉือนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแบบหวุดหวิด 2-1 คว้าแชมป์รายการนี้สองปีซ้อนและเป็นสมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์สโมสร