บี บางปะกง
“มีนาวาระแห่งชาติไทย” ของพลพรรคช้างศึกทีมชาติไทยทั้งชุดใหญ่ และชุดยู-23 เริ่มแล้วล่ะครับ!! กับการอุ่นแข้งตามปฏิทิน “ฟีฟ่าเดย์” เพื่อเก็บคะแนนสะสมอันดับโลกในฟีฟ่าแรงกิ้งอย่างเป็นทางการ
โดยในส่วนของช้างศึกพลังหนุ่ม รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ เดินทางไปทำศึก “ดูไบ คัพ 2022” อยู่ที่ยูเออี
ส่วนทีมชาติชุดใหญ่ ที่มีกุนซือมาโน โพลกิง เป็นแม่ทัพ จะปักหลักลับเกือกอยู่ในบ้าน ในวันที่ 24 มี.ค. กับทีมชาติเนปาล ที่ชลบุรี และ 27 มี.ค.กับทีมชาติซูรินาม ที่บีจี สเตเดียม ซึ่ง AIS PLAY และไทยรัฐทีวี ช่อง 32 จะถ่ายทอดสดให้ชม ในเวลา 19.00 น. ทั้งสองนัด
สำหรับ “เนปาล” ที่ปัจจุบันอยู่อันดับที่ 167 ในฟีฟ่า แรงกิ้ง เชื่อว่าแฟนบอลคงคุ้นเคยมาบ้าง เพราะสมัยก่อนมาเก็บตัวฝึกซ้อมในบ้านเราอยู่บ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะเตะอุ่นเครื่องกับทีมระดับสโมสรเป็นหลัก
เรื่องของฝีเท้าก็ตามสภาพ ไม่ได้หนีจากอันดับโลกที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่
ที่น่าสนใจก็คือ “ซูรินาม” หรือ “ซูรินาเม” (Suriname) ทีมจากโซนคอนคาเคฟ ที่แม้อันดับโลกจะอยู่ที่ 140 แต่ถ้าว่ากันถึงคุณภาพนักเตะแล้ว ต้องบอกว่าดีกรีแต่ละคนไม่ธรรมดา
วันก่อน “บิ๊กเสือ” สัมฤทธิ์ ธนะกาญจนสุทธิ์ ประธานสโมสรอ็อกซ์ฟอร์ด ในลีกวันของอังกฤษ โทร.มาหาผมพร้อมเล่าให้ฟังว่าแกเป็นคนติดต่อประสานงานให้ทีมชาติซูรินาม บินมาอุ่นเครื่องที่เมืองไทยเอง
โดยได้รับคำแนะนำจาก “แพทริก ไคลเวิร์ต” อดีตนักเตะซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติฮอลแลนด์ ที่เข้าไปช่วยงานให้สมาคมฟุตบอลซูรินามที่กำลังสร้างทีมชาติของพวกเขาสู่ระดับอินเตอร์อย่างจริงจัง
เพราะจริงๆแล้ว ไคลเวิร์ต ก็เหมือนนักเตะระดับโลกของทีมอัศวินสีส้มอีกหลายคน ที่ล้วนแต่มีเชื้อสายมาจากประเทศซูรินามทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น รุด กุลกิท, แฟรงค์ ไรจ์การ์ด, เอ็ดการ์ ดาวิดส์, คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ
หรือแม้กระทั่ง เวอร์จิล ฟาน ไดก์ กับจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม แข้งซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติดัตช์ยุคปัจจุบัน ก็มีรากเหง้าเป็นคนซูรินามเช่นกัน
ดังนั้น “DNA ฟุตบอล” ของคนชาตินี้ จึงถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นอย่างหายห่วง!!
ผู้เล่นส่วนใหญ่ของทีมชาติซูรินามค้าแข้งอยู่ในยุโรปโดยเฉพาะในลีกฮอลแลนด์ กับ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม, สปาร์ตา รอตเทอร์ดัม, เบรดา, โกรเนงเกน, ซโวเล ฯลฯ
นอกจากนั้นยังมีนักเตะในลีกดังอีกหลายประเทศ ทั้งเยอรมนี, สวีเดน, ตุรกี, อิตาลี, กรีซ, สโลวะเกีย, อิสราเอล, บัลแกเรีย, ฝรั่งเศส ร่วมทัพอย่างครบครัน มีเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นที่เล่นอยู่ในซูรินาม
โดยนักเตะที่น่าจับตามองได้แก่ “เกลฟิโล ซาบริโน” กองหน้าวัย 22 ปี ของเบียร์ตา เยรูซาเล็ม ในลีกอิสราเอล ที่รับใช้ทีมชาติ 12 นัดยิงไปถึง 13 ประตู “เชรัลโด เบคเกอร์” แนวรุกวัย 27 ปี ของเบอร์ลิน ในลีกเยอรมัน ที่เคยผ่านการติดทีมชาติเยาวชนฮอลแลนด์มาตั้งแต่รุ่น 16-20 ปี รวมทั้ง “เดียโก ไบเซสวา” กองกลางวัย 33 ปี ของพานาธิไนกอส ในประเทศกรีซ เป็นต้น
ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้การคุมทัพของ “สแตเลย์ เมนโซ” กุนซือวัย 58 ปีชาวดัตช์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายสมัยเป็นนายทวารให้กับอาแจกซ์ฯ พาทีมคว้าแชมป์เอเรดิวิซีลีก, แชมป์คัพ วินเนอร์ คัพ, แชมป์ยูฟ่า คัพ รวมทั้งยังเคยเฝ้าเสาให้ทีมชาติฮอลแลนด์ ในช่วงปี 1989-92 และมีชื่อในทีมชุดฟุตบอลโลก 1990 กับยูโร 1992 มาแล้วด้วย
ซึ่ง “บิ๊กเสือ” การันตีกับผมว่านักเตะเหล่านี้แม้ชื่อเสียงเรียงนามจะไม่เป็นที่คุ้นหูชาวไทยมากนัก
แต่รับประกันซ่อมฟรีเรื่องฝีเท้าของพวกเขาที่เล่นฟุตบอลในสไตล์ยุโรปจ๋า แบบฉบับฮอลแลนด์ จะไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง
ที่สำคัญแรงกิ้งฟีฟ่าทีมชาติไทยเหนือกว่าก็จริง แต่ฟอร์มการเล่นในสนามของทีมชาติซูรินาม
รับรองว่าไม่เป็นรองแข้งช้างศึก...แน่นอน
ไม่เชื่อก็คอยดู!!!
บี บางปะกง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง