รัฐบาลทหารพม่า ถูกกล่าวหา ขัดขวาง-แจกจ่ายความช่วยเหลือแผ่นดินไหวไม่เท่าเทียม

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.7 ที่พม่าเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ข้อมูลล่าสุดวันนี้ (1 เมษายน 2568) พลเอกอาวุโส มิน อ่องหล่าย แถลงยอดผู้เสียชีวิตแผ่นดินไหวทะลุ 2,719 คน เจ็บอย่างน้อย 4,521 คน และสูญหายอย่างน้อย 441 คน

นานาชาติส่งความช่วยเหลือ 

ในขณะนี้หลายประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ ได้ระดมความช่วยเหลือส่งไปยังประเทศพม่าทั้งในรูปแบบเงินช่วยเหลือ สิ่งของบรรเทาทุกข์ เวชภัณฑ์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เช่น

• ประเทศจีน: มอบเงินช่วยเหลือราว 470 ล้านบาท และสิ่งของบรรเทาทุกข์ เช่น เต็นท์ ชุดปฐมพยาบาล ทีมกู้ภัย 200 คน สุนัขกู้ภัย 6 ตัว
• ประเทศไทย: ส่งทหารไทย 55 นาย ช่วยค้นหากู้ภัย รักษาพยาบาล
• ประเทศอินเดีย: ส่งทีมกู้ภัยและทีมแพทย์ 120 คน ตั้ง รพ.สนาม 60 เตียง และมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์
• ประเทศรัสเซีย: ส่งทีมกู้ภัย 120 คน และมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์
• ประเทศสหรัฐฯ: มอบเงินช่วยเหลือ 70 ล้านบาท ผ่านหน่วยงานด้านมนุษยธรรม ส่งทีมกู้ภัยและสิ่งของบรรเทาทุกข์
• ประเทศเวียดนาม: ส่งทีมกู้ภัย แพทย์ นักดับเพลิงมากกว่า 100 คน พร้อมเวชภัณฑ์และสุนัขกู้ภัย และให้เงินช่วยเหลือ 10 ล้านบาท
• ประเทศสิงคโปร์: ส่งทีมกู้ภัย 78 คนพร้อมสุนัข และมอบเงินช่วยเหลือผ่านกาชาด 5 ล้านบาท
• ประเทศอินโดนีเซีย: ส่งทีมกู้ภัย 73 คน และมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์
• สหประชาชาติ (UN): มอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน 850 ล้านบาท ผ่านโครงการอาหารโลกและองค์การอนามัยโลก
• กาชาดสากลและ UNHCR: มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ เช่น เต็นท์ 1 หมื่นหลัง ถุงยังชีพ 2 หมื่นชุด และตั้งศูนย์ช่วยเหลือชั่วคราว

หลากอุปสรรคขวางความช่วยเหลือ 

อย่างไรก็ดี การช่วยเหลือยังเจออุปสรรคอยู่หลายประการ อย่างแรกคือโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เสียหายจากแผ่นดินไหว การขาดแคลนไฟฟ้า อาหารและน้ำสะอาด ถนนและสะพานพังถล่ม สนามบินและรันเวย์บางแห่งเสียหาย ทำให้เครื่องบินลงจอดได้ยาก รถขนสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไม่ถึงในหลายพื้นที่

นอกจากนี้ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลายครั้ง ทำให้ซากอาคารพังถล่มลงมาเพิ่มเติม ยากต่อการกู้ภัยด้วย

รัฐบาลทหาร ถูกกล่าวหา ขวางความช่วยเหลือ 

ขณะที่รัฐบาลทหารพม่าก็ถูกกล่าวหาว่าขัดขวางไม่ให้ความช่วยเหลือจากนานาชาติเข้าถึงชาวพม่าอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มต่อต้าน

แพทย์ 2 รายจากออสเตรเลีย ซึ่งมาช่วยประสานงานและตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินที่ศูนย์กลางแผ่นดินไหวในเมืองมัณฑะเลย์และสะกาย ได้กล่าวหาว่ารัฐบาลทหารขัดขวางการส่งมอบความช่วยเหลือ

"ความช่วยเหลือบางส่วนหรือแทบทั้งหมด ไม่ได้ถูกส่งมอบให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจริง ในบางพื้นที่ของมัณฑะเลย์ ความช่วยเหลือไม่เคยมาถึงเลย โดยมันถูกกองทัพรัฐบาลทหารยึด" ดร.นัง วินกล่าว

นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว ดร.นัง ได้ติดต่อกับเพื่อนร่วมงานในมัณฑะเลย์ พบว่าความช่วยเหลือมีน้อย เพื่อนร่วมงานทางการแพทย์คนหนึ่งในเมืองได้ลงนามในเอกสารเพื่อรับความช่วยเหลือมูลค่า 1,000 ดอลลาร์ แต่ได้รับจริงเพียงประมาณ 100 ดอลลาร์เท่านั้น และอ้างว่าชุดช่วยเหลืออาจถูกยักยอกและจบลงในตลาดมืด

“จากนั้นก็มีตลาดที่เกิดขึ้น และพวกเขาต้องออกไปซื้อของพวกนั้นเอง" เธอกล่าว

ดร.นัง วิน ยังกล่าวด้วยว่า ในพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพ ถูกขัดขวางความช่วยเหลือและไม่ให้ทีมกู้ภัยเข้าไป โดยเฉพาะในเมืองสะกาย ทหารจะบอกว่าต้องมีใบอนุญาตก่อน แต่กว่าจะได้ใบอนุญาตมาก็สายเกินไปแล้ว

ขณะที่ ดร.ทุน ออง ชเว แพทย์และตัวแทนชาวออสเตรเลียของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลพลัดถิ่นของพม่า กล่าวหาว่า กองทัพควบคุมจุดตรวจ ขัดขวางการส่งเวชภัณฑ์ไปยังพื้นที่ที่ถูกควบคุมโดย NUG ทำให้ความช่วยเหลือเข้าพื้นที่ได้ช้า

อย่างไรก็ดี โฆษกของรัฐบาลทหาร ยังไม่ได้ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหานี้ 

แผ่นดินไหวซ้ำเติมวิกฤตมนุษยธรรมในพม่า 

แผ่นดินไหวซ้ำเติมวิกฤตด้านมนุษยธรรมของพม่าให้เลวร้ายมากขึ้น รายงานจากสหประชาชาติระบุว่าหลังการรัฐประหารในปี 2021 และเกิดสงครามกลางเมือง มีชาวพม่าพลัดถิ่นแล้วกว่า 3 ล้านคน และก่อนหน้าจะเกิดแผ่นดินไหว ก็มีชาวพม่ากว่า 20 ล้านคนที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอยู่แล้ว 

ขณะที่สำนักข่าว The Irrawaddy รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากการยึดอำนาจมากกว่า 6,000 คน และมีนักโทษการเมืองเพิ่มขึ้นกว่า 2 หมื่นคน ขณะที่ 27.49% ของประชากรในประเทศเสี่ยงต่อภาวะอดยาก

ขอบคุณ : reuters, theguardian, apnews ,irrawaddy