
โต้ชัยวัฒน์ ในภาพ 'ไม่ใช่ทหารมอญ' ข้อมูลมั่ว อคติบังตา
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (25 มีนาคม 2568) ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีต ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติฯ ผู้ถูกศาลอาญาคดีทุจริตตัดสินจำคุก 3 ปี ฐานผิด ม.157 คดี ‘บิลลี่ พอลละจี’ ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า กล้องดักถ่ายสัตว์ของอุทยานฯ ได้จับภาพ ‘ทหารรัฐมอญ’ ถืออาวุธสงครามจำนวน 4 คน เดินอยู่บริเวณต้นน้ำเพชรบุรี
ไม่เพียงเท่านั้น ชัยวัฒน์ยังโพสต์ข้อมูลหลายประการ โดยอ้างว่า
- บุคคลในภาพ 2 คน (จาก 4 คน) ใส่ชุดทหารสีเขียว (ไม่พราง) อาร์มใหญ่ทรงโล่ ใส่คอมแบท และเนื่องจากพื้นที่ชายแดนดังกล่าวอยู่ติดเขตรัฐมอญ มีกองกำลังมอญเคลื่อนไหวอยู่
- บุคคลในภาพ สะพายอาวุธปืน คาดว่าเป็น ปืนคาร์บิน เอ็ม 1 จำนวน 1 กระบอก ปืน m1917 enfield จำนวน 1 กระบอก และปืน Sporter Enfield No4 Mk1 อีก 2 กระบอก จึงเชื่อได้ว่า เป็นชุดของกองกำลังรัฐมอญ เข้ามาเคลื่อนไหวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ประเทศไทย
- ชัยวัฒน์อ้างข้อมูลว่า ชาวบ้านบางกลอย ให้การว่า พบคนนอกพูดภาษากะเหรี่ยง-กระหร่างได้ แต่คุยกันเอง คนบางกลอยไม่เข้าใจภาษา และวัตถุพยานมี ขมิ้น และโสร่ง
นายตางประกาวมอญ ที่ปรึกษาชุดประสานงานกองทัพพรรคมอญใหม่ (NMSP/MNLA) ได้ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับกองพลทหารราบที่ 9 และคนในพื้นที่ ได้ข้อมูลตรงกันว่า ‘บุคคลในภาพ’ ที่ชัยวัฒน์กล่าวอ้าง ‘ไม่ใช่ทหารมอญ’
อีกทั้งจากการประสานข้อมูล นายตางประกาวมอญ ระบุว่า ด้าน ‘กองทัพมอญ’ เองก็ได้รับรู้เรื่องนี้แล้ว และยืนยันว่า ไม่ใช่ทหารมอญแต่อย่างใด ซึ่งก็ไม่ทราบเจตนาของชัยวัฒน์ว่า การออกมาให้ข้อมูลเชื่อมโยงกับทหารมอญเช่นนี้ มีจุดประสงค์อะไร?
นายตางประกาวมอญ ระบุว่า โพสต์ของชัยวัฒน์ และข้อมูลที่นักข่าวสำนักต่างๆ นำไปเผยแพร่ต่อนั้น ผิดพลาดหลายประการ โดยเขามีความเห็นโต้แย้งดังนี้
ข้อที่ 1
‘กองกำลังมอญ’ มีพื้นที่ประจำการอยู่บริเวณเจดีย์สามองค์ สังขละบุรี ทวาย ส่วนพื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพชรบุรี เป็นพื้นที่ของกองทัพพม่าและกองกำลังกะเหรี่ยง
การที่ชัยวัฒน์อ้างว่าบุคคลในภาพคือ ‘ทหารมอญ’ จึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ข้อที่ 2
อาร์มใหญ่ทรงโล่ (อาร์มเครื่องหมายทหาร) ที่ชัยวัฒน์กล่าวอ้าง ไม่ใช่โลโก้ทางการทหารของกองทัพมอญ แต่เป็นเครื่องหมายทหารกองทัพพม่า ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับทหารมอญแต่อย่างใด
ข้อ 3
ในส่วนที่ชัยวัฒน์อ้างว่าบุคคลในภาพนุ่งโสร่งนั้น
นายตางประกาวมอญ ชี้แจงว่า ทหารมอญจะไม่พกโสร่งเข้าป่า นั่นเพราะโสร่งของทหารมอญเป็นสีแดง หากพกเข้าป่าก็พรางตัวไม่ได้
“ทหารพม่าส่วนใหญ่ก็นุ่งโสร่ง และพกโสร่งเพื่ออำพรางด้วย เช่นเวลาทหารพม่าไปเจอกองกำลังอื่นๆ ในป่า บางทีเขาก็เอาปืนกับชุดทหารซุกไว้แล้วเปลี่ยนมานุ่งโสร่งทำทีมาหาของป่า
"คุณชัยวัฒน์เองก็ไม่ได้บอกเหตุผลว่าลักษณะของทหารมอญคืออะไร? บอกแค่ว่ามีโสร่ง ซึ่งทหารมอญเขาไม่พกโสร่งเข้าป่าอยู่แล้ว เพราะโสร่งมอญเป็นสีแดง หากพกเข้าป่าก็พรางตัวไม่ได้ ในภาพเราเห็นเป็นโสร่งทึบๆ ซึ่งเป็นลักษณะของโสร่งพม่ามากกว่า ซึ่งภาพก็มองไม่ค่อยถนัดนัก"
ข้อ 4
ปืนที่ชัยวัฒน์กล่าวอ้างมาว่าบุคคลในภาพถือ อาทิ ปืนคาร์บิน, ปืน m1917 enfield, ปืน Sporter Enfield No4 Mk1 นั้น
นายตางประกาวมอญ ระบุว่า ปืนเหล่านี้เป็นปืนเก่ายุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เลิกผลิตไปแล้ว กลุ่มทหารที่มักใช้ปืนเหล่านี้จึงมักเป็นหน่วยแทรกซึมหาข่าว (ไม่ใช่หน่วยที่ต้องปะทะ) เพราะไม่ต้องเสียดายปืนหากพบเจอสถานการณ์จวนตัว หรือเจอกองกำลังอื่นๆ แล้วต้องทิ้งปืน หรือฝังซ่อนปืนแล้วพรางตัวเป็นชาวบ้าน
อย่างไรก็ดี นายตางประกาวมอญ กล่าวว่า แม้กองทัพมอญจะไม่ใหญ่ แต่อาวุธมันไม่ได้ล้าหลังอะไรขนาดนั้น เขาใช้ M16 ทั้งนั้น
“ผมคิดว่า บุคคลในภาพดังกล่าวอาจเป็นหน่วยลาดตระเวนของกองทัพพม่า หมายถึงหน่วยตระเวนหาข่าวและอาจจะมาหาสัตว์ หาเสบียง เพราะคนกลุ่มนี้มักใช้ปืนเก่าๆ” อย่างไรก็ดี นายตางประกาวมอญ ได้ทิ้งท้ายชวนคิด ถึงการทำงานของสื่อมวลชนหลายสำนัก ที่หยิบยกประเด็นของชัยวัฒน์ไปสื่อสารต่อโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่หาข้อมูลรอบด้าน ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้มีช่องทางหาข้อมูลมากมาย
นอกจากนี้ เขายังตั้งคำถามถึงชัยวัฒน์ ที่ใช้คำว่า ‘กะหร่าง’ ซึ่งส่ออคติต่อกลุ่มชาติพันธุ์ชัดเจน รวมถึงการโยงข้อมูลโดยไร้หลักฐานที่มีน้ำหนักไปยังทหารมอญ เขามีเจตนาอย่างไรกันแน่?
"ความอคติต่อกลุ่มชาติพันธุ์ของคุณ คุณหลับหูหลับตาอคติ โยนไปว่าเป็นทหารมอญบ้าง ทหารกะเหรี่ยงบ้าง จนมันบดบังไปว่า หากบุคคลในภาพเป็นทหารกองทัพพม่าที่มาจ่อคอหอยเราแล้วจริงๆ ล่ะ เรื่องนี่สิน่ากลัว แล้วคุณยังไม่สนใจ ยังเล่นการเมืองโยงมั่วแบบนี้อีกหรือ?"
กระทรวงทรัพย์ฯ เร่งตรวจ ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทหารมอญ
เพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รายงานข้อมูลว่า เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการไปยัง กรมอุทยานฯ ประสานงานกับฝ่ายทหารเพื่อร่วมตรวจสอบกรณีดังกล่าว
โดยจากการนำภาพมาวิเคราะห์ พบว่า บุคคลดังกล่าวพกพาอาวุธหลายประเภท ได้แก่
โดยคนที่ 1 ใช้ปืนคาร์บิน เอ็ม 1 ซึ่งเป็นปืนที่ใช้กระสุน .30-03 คนที่ 2 ใช้ปืน M1917 Enfield อีก 2 คนใช้ปืน Sporter Enfield No4 Mk1 ซึ่งเป็นปืนสำหรับซุ่มยิง ใช้กระสุนขนาด 5.56 มม.
ทั้งนี้ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ในการเข้ามาของกลุ่มบุคคลดังกล่าว เนื่องจากภาพที่ปรากฏในกล้องบอกเวลาว่าเกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2568 ซึ่งขณะนี้น่าจะเดินทางกลับออกไปแล้ว หากเป็นทหารจากประเทศเพื่อนบ้านจริง ถือเป็นการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยตรง โดยพื้นที่ที่พบบุคคลติดอาวุธนั้นห่างจากชายแดนไทย-เมียนมาประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งหากใช้การเดินเท้าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 4 คืน
สรุปได้ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นใคร และมีวัตถุประสงค์อะไรในการเข้าสู่พื้นที่
ซัดชัยวัฒน์ ข้อมูลไร้น้ำหนัก
นอกจากนี้ วุฒิ บุญเลิศ นักวิชาการอิสระด้านกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ได้โพสต์ข้อความ ระบุเหตุผลว่า ข้อมูลที่ชัยวัฒน์พยายามโยงใยไปยังทหารมอญดังกล่าว ‘ไม่มีน้ำหนัก’ ดังนี้
- พื้นที่ตรงข้ามของจุดที่จับภาพชาย 4 คนนั้น ไม่ใช่พื้นที่ของรัฐมอญ เพราะกองกำลังมอญเคลื่อนไหวทางเหนือของเมืองทวาย เมืองเย ตรงข้ามเจดีย์สามองค์ตันบูเซยัตขึ้นไป
- พื้นที่ตรงข้าม ไม่ใช่พื้นที่สู้รบหรือมีการปะทะกันระหว่างฝ่ายต่อต้านกับฝ่ายทหารพม่า จึงไม่มีเหตุที่จะมีการเคลื่อนไหวการขนส่งเสบียงของกองกำลังใดๆ
- สถานการณ์สู้รบฝ่ายต่อต้านสามารถกุมสภาพพื้นที่และเคลื่อนในที่ราบและเขตชนบท ไม่มีเหตุต้องใช้เส้นทางเดินป่า ฝ่ายต่อต้านบางกลุ่มจะใช้เส้นทางน้ำเมื่อมีความจำเป็นคือแม่น้ำตะนาวศรี ซึ่งสะดวก รวดเร็ว ไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นเขาเดินป่าตามแนวชายแดน
- ลักษณะอาวุธ ถ้าเป็นกองกำลังทางทหาร ต้องเป็นอาวุธสงคราม เช่น เอ็ม 16 ที่ฝ่ายต่อต้านเช่นกะเหรี่ยงใช้กัน
- ชุดที่เห็นไม่ได้บ่งบอกได้ว่าเป็นชุดนักรบ เช่น เป้สนาม ลักษณะเครื่องแบบ หมวก เครื่องหมาย การเคลื่อนไหวของกองกำลังต่อต้านกองทัพพม่า จะอยู่บริเวณเมืองตะนาวศรี ด่านสิงขร ระนอง ปกเปี้ยน
วุฒิ บุญเลิศ ยังระบุว่า ถ้าจะกล่าวอ้างว่า บุคคลในภาพเป็นทหารกะเหรี่ยงนั้น ก็ไม่มีน้ำหนักเช่นกัน เพราะทหารพม่าได้ถอนกำลังออกจากฐานบนแนวสันแดน บริเวณที่เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอกตก นั่นจึงไม่มีเหตุผลหรือน้ำหนักที่จะเชื่อได้ว่าเป็นกองกำลังใดกองกำลังหนึ่ง
ที่มา:
1. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
2. โพสต์ของ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร 1
3. โพสต์ของ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร 2