คะน้า ริญญารัตน์ ดาราสาว ถูก “ไฮโซเก๊” ลวงรัก ปั้นโปรไฟล์หรู ถ่ายรูปคู่คนดัง ปมสงสัยรถนำขบวน สห.ผิดวินัยรับงานนอก ขบวนการแอบใช้รถราชการ
วันนี้ (7 เม.ย.68) “กัน จอมพลัง” พร้อมด้วย น.ส.ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ หรือ คะน้า นักแสดง นางแบบ ออกมาเปิดเผยประเด็นที่ดาราสาวถูก หนุ่มโปรไฟล์ดี อ้างเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี สนิทกับคนใหญ่โต หลอกคบหา และตบทรัพย์ คะน้า ริญญารัตน์ เล่าว่า รู้จักชายหนุ่มคนดังกล่าวเมื่อปลายปี 2567 ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่

ตอนนั้นเลิกลากับแฟนเก่า มีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้จริงจัง ต่อมาไม่ได้คุยกันแล้ว เพราะกลับไปคบกับแฟนเก่า จนช่วงเดือน ก.พ.68 ได้เลิกกับแฟนเก่าอีกครั้ง ทำให้ได้กลับมาคุยกันแบบจริงจัง หนุ่มโปรไฟล์ดีรายนี้ อ้างว่า เป็นที่ปรึกษานายก รู้จักกับคนใหญ่คนโตมากมาย มีการถ่ายภาพใส่ชุดราชการขาว เวลามาหาก็มักจะมีรถนำขบวนประกบหน้าหลัง คนที่ขับรถนำขบวนก็แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศ
ต่อมาแฟนเก่าคะน้าอ้างว่า เส้นทางการเงินมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา ชายหนุ่มโปรไฟล์ดีรายนี้ อ้างว่าจะช่วยเหลือ จนชายหนุ่มรายนี้บอกว่า นายกให้การช่วยเหลือแล้ว แต่ควรมีค่าแชมเปญให้กับนายกฯ ตนจึงได้มีการโอนเงินไปให้จำนวน 98,000 บาท ระหว่างที่คบกัน ชายหนุ่มมักมาขอของขวัญ ตนเห็นว่าคบหากันไม่ได้ว่าอะไร มีการซื้อของแบรนด์เนมให้เล็กน้อย ขณะเดียวกันชายหนุ่มโปรไฟล์รายนี้ไม่เคยซื้ออะไรให้เลย
...

ปมรถนำขบวนอาจโยงรับงานนอก
คะน้า ริญญารัตน์ เล่าว่าหลายครั้งที่ฝ่ายชายมารับจะมีรถนำขบวน เมื่อเปิดภาพวงจรปิด พบรถมอเตอร์ไซค์ขับนำขบวน โดยมีปลอกแขนเขียนว่า สห. ที่ย่อมาจากสารวัตรทหาร แต่งกายเต็มยศ จนทำให้สังคมเกิดความสงสัย “ทนายเกิดผล แก้วเกิด” ทนายความชื่อดังมองว่า กรณีที่มีรถนำขบวน ที่ประดับเครื่องหมาย สห. ถ้าได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง หรือต้นสังกัดอนุญาตให้มา ก็สามารถทำได้
แต่กรณีนี้อาจเป็นการรับงานนอกกันเอง ซึ่งถ้าพลขับยังรับราชการ ก็จะมีความผิดจากต้นสังกัด แล้วถ้านำรถหลวงมารับงานนอกส่วนตัว ถือว่ามีความผิดร้ายแรง

ส่วนการทำผิดตามกฎหมาย ฝ่ายชายมีฐานความผิดฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการหลอกลวงผู้อื่น โดยการปกปิดความจริง หรือนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ นอกจากนั้นจะมีความผิดฐานแต่งเครื่องแบบข้าราชการและประดับเครื่องหมายโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตอนนี้ในสังคมมีเยอะ ที่แต่งตัวดี โปรไฟล์เด่น แต่มีพฤติกรรมหลอกลวง ดังนั้น เราไม่สามารถดูแค่โปรไฟล์หรือการแต่งกายได้ โดยเฉพาะสมัยนี้มีแอปที่แต่งภาพได้ หรือบางคนก็ไปถ่ายกับคนที่มีชื่อเสียง แล้วอัพเป็นโปรไฟล์ ซึ่งมิจฉาชีพส่วนใหญ่มักมีการแอบอ้างลักษณะนี้