ส่วยบุหรี่ไฟฟ้า เปิดเอกสารลับ "กองทัพมด" ลอบขนของจีนทะลักชายแดน "จิรายุ" แฉขบวนการแอบตั้งโกดังพักริมชายแดน ด่านทางใต้ - ตะวันออก เข้ามามากสุด เผยกำไร 70% สูญไปกับราชการนอกรีต
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกฯ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า จากการได้รับเอกสารลับเกี่ยวกับฐานข้อมูลการค้าบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีการลักลอบนำเข้า แอบกระจายขายในพื้นที่ชุมชน ไม่ไกลจากสถานศึกษา โดยบุหรี่ไฟฟ้าเป็นการลักลอบนำเข้ามาทั้งหมด จากข้อมูลพบว่ามีการสำแดงมาจากจีน แต่แจ้งว่าใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศอื่น จึงต้องมีการตรวจสอบว่ามีการผ่านด่านบริเวณพรมแดน หรือผ่านด่านศุลกากรบริเวณใด

หลังได้เอกสารลับมา 1 เดือน ส่งชุดเฉพาะกิจหาข่าว พบว่ามีเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องในด่านพรมแดนหลายจุดปล่อยผ่านเข้ามา แล้วมีคนรับไปขายต่อ โดยมีโกดังพักของขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ส่วนในกรุงเทพฯ มีการตรวจทั้ง 50 เขต พบว่าในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว มีมากกว่า 20 จุด โดยแต่ละร้านเปิดขายกันแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย

...
“เบื้องต้นลงพื้นที่สำรวจเขตคลองสามวา คันนายาว พบมีร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า 15 จุด ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลคันนายาว เลยโทรไปหาผู้กำกับ แต่ได้รับการยืนยันว่าในพื้นที่ไม่มี แต่พอรุ่งขึ้นลงพื้นที่ไปตรวจสอบ กลับพบว่าข่าวรั่ว ทำให้หลายร้านที่แอบขายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ปิดร้านหนี จึงเปลี่ยนแผนเข้าไปสำรวจในถนนคู้บอน และนวลจันทร์ จนจับกุมได้ 3 ร้าน รวมแล้วมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท มีอุปกรณ์คล้ายอาร์ตทอย เช่น โดเรมอน ตุ๊กตา กล่องนม จำนวนมาก ที่สำคัญเป็นร้านริมถนนอำพรางหน้าร้านคล้ายร้านขายโทรศัพท์ หรือเอาม่านมาปิดด้านหน้าร้าน บางร้านห่างโรงเรียนแค่ 50 เมตร”

ร้านที่ได้ลงพื้นที่ ด้านหน้ามีป้ายบอกว่า "ชุดนักเรียนห้ามเข้า” นั่นหมายความว่าเด็กเข้าไปซื้อได้ แต่ห้ามใส่ชุดนักเรียนเข้าไป จากนั้นได้นำข้อมูลชุดนี้รายงานไปยังเลขานายกฯ จึงมีการประชุมหาทางแก้ไขเร่งด่วน เพราะการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครอง ถือว่าผิดกฎหมาย ถ้ามีไว้จำหน่ายมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับด้วย
จากรายงานพบว่า 1 ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แม้มีขนาดเล็กเช่น ตามตลาดนัด หรือริมถนน ต้องจ่ายส่วยเดือนละ 1,000 – 5,000 บาท ให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ไม่รวมร้านขนาดใหญ่ที่เป็นยี่ปั๊ว ต้องจ่ายเดือนละ 100,000 บาท เพราะบุหรี่ไฟฟ้าในตลาดมีราคาสูงตั้งแต่ 500 – 20,000 บาท
ในเอกสารลับระบุถึงการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่มาทางด่านทางภาคใต้ ขณะที่ลักลอบเข้ามาทางเรือมากสุดโซนภาคตะวันออก ขณะที่บางแห่งมีการแจ้งว่า เป็นสินค้าผ่านแดน เพื่อส่งไปยังประเทศที่ 3 แต่มีการลักลอบเปิดตู้นำออกมามากสุดในพื้นที่ริมชายแดนภาคตะวันออก เขตติดต่อประเทศลาว

บุหรี่ไฟฟ้า มีการลักลอบนำเข้า ทั้งแอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ หรือมากับตู้คอนเทนเนอร์ ทีละ 10 – 50 ตัน ที่ผ่านมาพบว่า เป็นสินค้าจากจีน ที่ทำการขนส่งไปยังประเทศอื่น โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน แต่ต้องดูว่าการสำแดง เมื่อเข้ามาริมชายแดนแล้วออกไปยังประเทศที่สาม หรือเข้ามาในไทย
ตอนนี้มีการระบุว่า ขบวนการลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไทย มีจุดพักของตามริมชายแดน ทั้งฝั่งตะวันตก ตะวันออก และภาคเหนือ แล้วขนย้ายออกมาเป็นแบบกองทัพมด ซึ่งสินค้า 1 ลัง บรรจุบุหรี่ไฟฟ้าได้เป็นพันชิ้น เมื่อผ่านแดนเข้ามาแล้วมีคลังสินค้าฝั่งไทยพักของไว้อีกทอด โดยมีการทำเป็นขบวนการขนาดใหญ่ แอบตั้งคลังสินค้าครอบคลุมพื้นที่แต่ละภาค
"ขณะนี้น้ำยาที่เป็นหัวเชื้อบุหรี่ไฟฟ้า มีการผสมสารเพิ่มเติม จากการลงพื้นที่พบว่ามีการผสมยาเสพติดที่เรียกว่า พอตซอมบี้ พอตโดเรมอน มีส่วนผสมของยาเค ยาบ้า โดยผสมจากหลังร้าน แล้วทำการบรรจุใหม่เพื่อสร้างมูลค่า เหมือนข่าวที่เด็กสูบเข้าไปจนปอดหายหรือตายได้"
...

สำหรับต้นทุนบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่จุดเริ่มต้นลักลอบผ่านแดนเข้ามา มีต้นทุนตามเกรดของบุหรี่ อย่างที่ราคาถูกสูบ สูบครั้งเดียวแล้วทิ้ง ราคาประมาณร้อยบาท แต่บุหรี่ไฟฟ้าที่มีราคาสูงจะอยู่ที่สองหมื่นบาท โดยสินค้ามีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 30% กำไรอยู่ที่ 70% แต่กำไรส่วนใหญ่ต้องจ่ายให้ค่าส่วยอีกหลายทอด
“พบว่าเด็กที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ใช้เงินต่อเดือนซื้อประมาณ 500 – 1,000 บาท จึงอยากเตือนเยาวชนและคนที่กำลังใช้อยู่ เพราะมีผลวิจัยพบว่า บุหรี่ไฟฟ้า มีสารนิโคติน มากกว่าการสูบบุหรี่ปกติถึง 500 มวน หลังจากนี้ทางรัฐบาล จะเริ่มทำการกวาดล้างให้เห็นผลภายใน 3 เดือน”