นรกแก๊งคอลฯ เมืองเมียวดี เหยื่อเผยทำงานวันละ 20 ชม. ไม่ทำตามใช้ไฟช็อต ขังลืม 2 วัน “บอสจีน” อำนาจเหนือทหารกลุ่ม DKBA เปิดอาณาจักรใหม่ “ไท่ฉาง 2” โหดกว่าเดิมหลายเท่า
ทีมข่าว SEE TRUE ได้ติดตามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงคนไทย นอกจากพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ที่เคยนำเสนอไปแล้ว ฝั่งจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า ถือเป็นอีกแหล่งใหญ่ ที่จีนเทาขยายเมืองสร้างเครือข่าย ด้วยการช่วยเหลือของกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่
"อารยัน" ชายหนุ่มบังคลาเทศวัย 24 หลบหนีออกมา จากค่ายนรกริมแม่น้ำเมย ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ในเมืองช่องแคบ หรือ "ไท่ฉาง" จังหวัดเมียวดี ฝั่งพม่า
วันนี้เขากลับมาประเทศไทยอีกครั้ง เพราะอยากช่วยเพื่อนชาวบังคลาเทศ และคนชาติอื่นๆ อีกหลายหมื่นคน ที่ยังถูกบังคับทำงานสแกมเมอร์ หลอกลวงออนไลน์ ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวให้ผู้คนเข้าใจ ว่าพวกเขาถูกหลอกมาขายหรือค้ามนุษย์ได้อย่างไร
"อารยัน" เล่าว่า พวกเขามีปืน เมื่อไม่ทำตามคำสั่งจะทำโทษ พวกเขาทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืน เพื่ออาหาร ฉันจำเป็นที่จะต้องทำงาน “ถ้าไม่ทำงานให้เขา เขาก็ช็อตไฟฟ้าเป็นอาหาร” มีการมัดมือไว้ข้างหลัง ให้เข้าไปในห้องมืด ให้อยู่ในนั้น 24-48 ชั่วโมง ไม่ให้กินข้าว
...
มองกลับมาที่สถานการณ์แก้ปัญหาของไทย หลังกดดันด้วยการตัดไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง ในที่สุด กองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย หรือ DKBA ยอมส่งมอบเหยื่อค้ามนุษย์ 260 คน จาก 11 ชาติ ให้ทางการไทย นับเป็นการส่งเหยื่อค้ามนุษย์จำนวนมาก จากเมืองไท่ฉาง ซึ่งเป็นพื้นที่ภายใต้การควบคุมของทหาร DKBA ข้ามแม่น้ำเมย มายังบ้านช่องแคบ ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
ในอีกมุมหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่า ทีมข่าวจะเจอผู้ชายในคลิปอันโหดร้ายทารุณนี้ เขาชื่อ โอมาร อายุเพียง 24 ปี เล่าเหตุการณ์วันที่ถูกทำทารุณว่า วันนั้น มีคนส่งข้อความเตือนไปยังคนที่กำลังถูกหลอกไม่ให้โอนเงิน เพราะมันคือการหลอกลวง ทำให้พวกบอสจีนเข้ามาตามหาคนส่งข้อความ เขาจึงถูกนำตัวไปทำร้ายอย่างทารุณ
จากนั้น เขาก็เรียกการ์ดเข้ามาและเริ่มทุบตีฉันด้วยปืนที่หัวของฉัน และใส่กุญแจมือฉัน ทุบตี เขาพาไปที่ห้องมืดและเริ่มทุบตี และพาไปห้องๆ หนึ่ง เพื่อทำการช็อตไฟฟ้า บอสฉันยืนอยู่ด้านนอก คนของ DKBA ทำการช็อตไฟฟ้าฉัน ทุบตีฉันทุกที่ ใส่กุญแจมือ ผูกมือฉันไว้ ทุบตีทั้งหน้า ฟัน แขน จนเลือดออกเยอะมาก ๆ ออกจมูก ปาก เหมือนว่าฉันจะสลบไป จนกระทั่งมีการ์ดอีกคนเข้ามาขอให้หยุด
ต่อมาพวกเขาออกไป และนำหมอหนึ่งคนมาเช็คร่างกายฉัน เขาให้ยา หลังจากนั้น ก็ให้ฉันอยู่ในคุก วันที่ 2-3 ก็เหมือนเดิม คือ ทำโทษ ช็อตไฟฟ้า เหมือนเดิมซ้ำ ๆ
“คนจีน และ DKBA เลวมาก ทำร้ายเพราะคนจีนสั่ง ถ้าสั่งให้ฆ่าใครทหารก็ทำตาม ทหารเคยฆ่าคนจีน 2 คน เพื่อนของเรามาแล้ว ทหาร D.K.B.A. เป็นคนฆ่า พวกเขาไม่มีแม้แต่ความเสียใจ คนในแคมป์ตรงนั้นรับรู้เรื่องนี้หมด เพราะพวกเราอยู่ตรงนั้นมา 4 เดือน ถ้าคนจีนบอกให้ทำโทษคน แบบไม่มีเหตุผล เขาก็ทำ แม้ทำเรื่องที่ไม่ถูกต้องก็ทำ พวกคนจีนมีเงินมากมาย เขาไม่สนใจว่าเราเป็นคน เป็นหญิง เป็นชาย หรือแม้ว่าเราจะป่วย ทุกวันต้องมีเงินเข้ามาตลอด คริปโต หากไม่มีเงินเข้ามาก็จะถูกทำโทษ ทุกวันเราได้นอนแค่ 4 ชม. 20 ชม.”
จากการตรวจสอบพบว่า ทหารตามที่โอมาร หนุ่มปากีสถานบอกว่าทำร้ายทารุณเขา คือทหาร DKBA เพราะว่าเมืองช่องแคบ อยู่ภายใต้การควบคุมของทหาร DKBA ซึ่งได้ชื่อว่ามีการทำทารุณโหดร้ายต่อเหยื่อที่ถูกบังคับทำงานหลอกลวงออนไลน์มากที่สุด ความโหดร้ายแซงหน้าเมืองเคเคพาร์ค ที่ควบคุมโดยกองกำลัง BGF ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยขึ้นชื่อในความโหดเหี้ยม โดยนายทหารที่ดูแลควบคุมเมืองนี้ คือ พล.จ.ไซจ่อละ ผู้บัญชาการกองพลน้อยที่ 1 ซึ่งถือเป็นผู้นำอันดับ 3 ของ DKBA และจุดนี้ คือจุดที่ทีมข่าวเคยถูกทหารกะเหรี่ยง DKBA "ยิงขู่-ชูนิ้วกลาง" ใส่เป็นการคุกคามมาแล้ว
...
ไทยแหล่งส่งต่อเหยื่อทั่วโลก
ขั้นตอนการหลอกลวง "อารยัน" ชายหนุ่มบังคลาเทศ ที่หนีรอดมาได้เล่าว่า ถูกหลอกตอนที่ทำงานอยู่ดูไบ เขาเข้ากลุ่มหางาน Job's in Thailand (Mae sot) ในแอปเทเลแกรม ซึ่งมีนายหน้าชาวจีนเสนองานการตลาดให้ โดยให้เงินเดือน 1,200 เหรียญสหรัฐ หรือราว 4 หมื่นบาท เขาและเพื่อนชาวบังคลาเทศรวม 5 คน จึงตัดสินใจเดินทางมาประเทศไทย
เมื่อเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ มีรถมารับ และเดินทางด้วยระยะเวลายาวนาน กระทั่งถึงเส้นทางคดเคี้ยวตัดภูเขาจากเมืองตาก มุ่งหน้าไปแม่สอด
...
จากการสอบถามเหยื่อชาวต่างชาติคนอื่นๆ จากทวีปแอฟริกา และเอเชียใต้ ที่ถูกหลอกมาขายต่อยังเมืองช่องแคบ บอกคล้ายๆ กันว่า เดินทางด้วยเครื่องบินลงสนามบินสุวรรณภูมิ มีรถยนต์ไปรับ และขับผ่านด่านเจ้าหน้าที่ 3 ด่าน ก่อนถึงแม่สอด โดยเจ้าหน้าที่แค่จดชื่อและเลขพาสปอร์ต ผ่านจุดเหล่านี้ไปได้ การถูกพาลักลอบข้ามแม่น้ำเมยไปยังฝั่งเมียนมา ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
พวกเขาถูกนายหน้าหลอกไปขายต่อให้แก๊งอาชญากรชาวจีนคนละ 3,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 100,000 กว่าบาท หลังจากนั้น ราคาจะพุ่งสูงขึ้นเป็น 8,000 เหรียญสหรัฐต่อคน หรือราว 269,000 บาท มีการขายต่อกันเป็นทอดๆ ยิ่งกว่าสินค้า
มนุษย์ถูกทำให้เป็นสินค้ามีชีวิต โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เฉพาะที่เมืองช่องแคบเมืองเดียว มีเหยื่อถูกหลอกมาขายมากถึง 1 หมื่นกว่าคน
แต่ว่าเมืองช่องแคบ หรือไท่ฉาง ไม่ได้มีแค่จุดเดียว แก๊งอาชญากรจีน ยังขยายไปตั้งเมืองใหม่ในพื้นที่ภายใต้อิทธิพลของ พล.จ.ไซ จ่อ ละ อีกแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเดิมราว 10 กิโลเมตร เรียกว่า เมืองไท่ฉาง 2 ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาริมแม่น้ำเมย เดินทางจากฝั่งไทยยากลำบาก
...
เหยื่อค้ามนุษย์นับพันคนที่ทำงานอยู่ในเมืองช่องแคบ หรือไท่ฉาง 1 ถูกย้ายตัวมายังเมืองใหม่แห่งนี้ รวมถึงอารยัน และเพื่อนอีกนับ 10 ชนชาติ ที่แทบไม่มีใครรู้ชะตาชีวิต ถูกควบคุมโดยบรรดาบอสชาวจีนที่อำมหิต และกองทหารกะเหรี่ยง DKBA ที่นี่ทั้งโหดร้าย ทารุณ และอันตรายสุดๆ
“ไท่ฉาง 2” คือเมืองสแกมเมอร์แห่งใหม่
“ ไท่ฉาง 2” คือเมืองสแกมเมอร์แห่งใหม่ ในรัฐกะเหรี่ยง จังหวัดเมียวดี ที่ขยายตัวมาจาก “ไท่ฉาง 1” หรือ “บ้านช่องแคบ” จุดที่ทีมข่าวเคยถูกยิงขู่มาก่อนหน้านี้ ว่ากันว่าที่นี่ทารุณโหดร้ายไม่แพ้ที่อื่น
ทันทีที่เรามาสุดทางฝั่งไทย ภาพที่ปรากฏตรงหน้า คือเมืองแห่งนี้ตั้งตระหง่านกลางป่า ภาพที่เห็นคืออาคารที่มีการก่อสร้างค้างไว้ ซึ่งมีรายงานว่าหลังไทยตัดไฟ ที่นี่ก็หยุดการก่อสร้างในหลายจุด แต่ก็ยังพอได้ยินเสียงเครื่องปั่นไฟ
ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยแคมป์คนงานที่ตั้งเรียงราย ที่นี่คือเมืองใหญ่เพราะเราสังเกตเห็นมีระบบการบำบัดน้ำ ทิ้งน้ำลงแม่น้ำเมย
เมือง “ไท่ฉาง 2” แม้วันนี้จะถูกตัดไฟ แต่ทางการข่าวทราบมาว่าข้างในก็ยังมีการตระเตรียมเครื่องปั่นไฟไว้ใช้สำรอง รวมทั้งตุนน้ำมันเชื้อเพลิงไว้อีกจำนวนมาก เพราะที่นี่ นอกจากจะเป็นแหล่งกักขังเหยื่อที่ถูกหลอกมาทำคอลเซ็นเตอร์แล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งกบดานของ “บอสจีน” ทุนหนาอีกหลายกลุ่ม
ทั้งเมืองช่องแคบ หรือไท่ฉาง 1 และไท่ฉาง 2 ล้วนอยู่ภายใต้อิทธิพลของ พลจัตวา ไซ จ่อ ละ ผู้นำอันดับ 3 ของทหาร DKBA มีรายงานในทางลับ ว่า เขาเป็นผู้นำ DKBA ที่มีผลประโยชน์กับกลุ่มอาชญากรจีน ที่ก่อกรรมทำเข็ญกับเหยื่อค้ามนุษย์ ซึ่งอาชญากรเหล่านี้ มีวิธีหาเหยื่อหลากหลายวิธี ไม่เว้นแม้แต่การถ่ายคลิปเหยื่อที่มีอยู่ เพื่อไปหลอกเหยื่อรายต่อไป
ติดตามได้ในภารกิจ SEE TRUE ให้คุณเห็นความจริง ติดตามต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24 - 26 ก.พ. 68 ทางรายการไทยรัฐนิวส์โชว์ หลังเวลา 21.00 น.