แกะรอยสวรรค์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ “ปอยเปต” กัมพูชา หลอกคนไทยสูญเงินมหาศาล เปิดผังตึก 18 ชั้น หลังคนไทยตกตึกเสียชีวิตปริศนา เผยชั้น 1-2 เป็นงานสายเทา เช่น กาสิโน พนันออนไลน์ ชั้น 3 เป็นออฟฟิศบรรดาบอส ทางการไทยประสานกวาดล้าง เริ่มย้ายฐานไปแหล่งใหม่
กัมพูชา ฝั่งอรัญประเทศ ติดกับปอยเปต เมืองแห่งกาสิโน แต่ปัจจุบันกลายเป็นศูนย์รวมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกสูบเงินคนไทย ไม่ใช่แค่ตึก 25 ชั้นเท่านั้นที่เป็นรังใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่มีนับร้อยอาคารในเมืองแห่งนี้ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด กลายเป็นเหมือนนรกคนไทยจำนวนมาก ทั้งที่ถูกหลอกสูบเงิน รวมถึงหลอกไปทำงาน
ชายวัย 32 ปีที่ถูกหลอกไปทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองปอยเปต ตั้งแต่เดือน พ.ย. ปี 2567 เล่าว่า ไม่อยากทำ จึงถูกทำร้ายด้วยการรัดคอ เพิ่งจะหนีออกมาได้ และขอความช่วยเหลือจากคนไทยในอรัญประเทศให้ช่วยพาข้ามแดนกลับไทย

ทีม SEE TRUE ลงพื้นที่ไปสำรวจเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยคนท้องถิ่นให้ข้อมูลว่าในเมืองนี้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ตามอาคารต่างๆ เป็นร้อยอาคาร พนักงานส่วนมากนอนที่นี่ กินที่นี่ เขาให้กิน 3 มื้อ ไม่ต้องทำอะไร นอนแล้วก็ตื่นมาทำงาน มีกับข้าวให้กิน 3 มื้อ ตอนเช้า ตอนเที่ยง ตอนดึกอีกรอบหนึ่ง ทำงาน 12 ชั่วโมง แบ่งเป็นกะละ 12 ชั่วโมง แต่มี 2 กะ 24 ชั่วโมง
...
อาคารที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีจุดสังเกต เช่น ปิดประตูหน้าต่างเหมือนไม่มีคนอยู่ มีรั้วมิดชิด บางอาคารมีคนเฝ้าอยู่ด้านหน้า
หนึ่งในจุดสังเกตที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มักมีเครื่องปั่นไฟอยู่ด้านหน้า เพราะต้องใช้กระแสไฟฟ้ามาก ที่เมืองปอยเปตมักเกิดเหตุการณ์ไฟตกหรือไฟดับบ่อย
อย่างเช่นในซอย 3 ซอยที่อยู่ใกล้ตลาดกลางคืน ย่านเศรษฐกิจของปอยเปต เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น ก็เต็มไปด้วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบทั้งซอย และเป้าหมายสำคัญของ SEE TRUE คืออาคาร 25 ชั้น หรือตึก 25 ชั้น ที่ถูกระบุจากทางการไทยว่าเป็นศูนย์กลางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกำลังตกเป็นเป้าหมายการกวาดล้างจากทางการไทย

แกะรอยอาณาจักรใหม่ฝั่งกัมพูชา
หลังเหตุการณ์คนไทยตกตึก 18 ชั้น ที่กัมพูชา ยิ่งทำให้การเข้าไปเจาะข้อมูลในตึก 18 ชั้น และตึก 25 ชั้น ยากยิ่งกว่าเดิม เพราะ รปภ. ของกาสิโน ห้ามคนไม่มีบัตรเข้าไปภายในตัวอาคาร ขณะที่ทีมงานซึ่งรออยู่ในฝั่งอรัญประเทศ ได้ข้อมูลจากคนไทยที่เคยทำงานตึก 18 ชั้น ว่า ชั้น 1 และชั้น 2 เป็นงานสายเทา เช่น กาสิโนและพนันออนไลน์ ชั้น 3 เป็นออฟฟิศของบรรดาบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนชั้น 4 ชั้น 5 ชั้น 14 เป็นเว็บเกม และมีชั้นลับคือ ชั้น 15 ที่ไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่ามีอะไร มี รปภ. เฝ้าตลอดเวลา ไม่ให้ใครเข้าไปได้
ส่วนตึก 25 ชั้นที่อยู่ติดกัน จะไม่มีชั้นเลข 14 และ 23 เพราะคนจีนถือเคล็ด ไม่ใช่เลขมงคล จึงไม่ให้มีชั้นเหล่านี้ ส่วนชั้น 25 เป็นเลขชั้น 27 แทน เท่าที่แหล่งข้อมูลจำได้ ชั้นล่างของตึก 25 ชั้น เป็นกาสิโน แต่เป็นตึกปิด ให้เฉพาะลูกค้า คนที่มีบัตรเข้าออกผ่านเข้าไปได้ด้วยการสแกนหน้า
ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่รู้ว่าตึก 25 ชั้น และตึก 18 ชั้น เป็นที่ตั้งและศูนย์กลางของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มานานแล้ว อย่างเช่น แม่ค้าร้านอาหารที่ทีม SEE TRUE เข้าไปนั่งสังเกตการณ์ บอกว่า เคยไปสมัครงานที่ตึกทั้ง 2 หลัง แต่เขาไม่รับ เพราะพูดไทยไม่ได้ จะรับเฉพาะคนไทยและคนกัมพูชาที่พูดไทยได้เท่านั้น เพราะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกคนไทย

แม่ค้าคนนี้บอกด้วยว่า ช่วงกลางคืนจะมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลายแก๊งทยอยขนของออกจากตึกทั้ง 2 หลัง หลังมีกระแสข่าวรัฐบาลไทยประสานกัมพูชาให้ปราบปราม ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ SEE TRUE ได้มา จึงตามแกะรอยไปยังที่ตั้งใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทีม SEE TRUE ขับรถไปตามพิกัดใหม่ในจุดหนึ่ง ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายหนีออกจากตึก 25 ชั้น ไปอยู่ที่นั่น ซึ่งห่างจากตึก 25 ชั้นราว 8 กิโลเมตร
...
ในที่สุด ก็ถึงเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่ ที่กำลังพัฒนาโดยทุนจีน ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ และพื้นที่เหมือนโรงงานขนาดย่อมในซานโก้ เชื่อว่าอีกไม่นาน อาคารพาณิชย์ที่กำลังก่อสร้างและประกาศขาย จะเป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เหมือนในใจกลางเมืองปอยเปต และหากคนไทยถูกหลอกมาทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่นี่ ก็น่าที่จะช่วยได้ยากยิ่งขึ้น เพราะอยู่ห่างจากเส้นพรมแดนเกือบ 9 กิโลเมตร
ตลอดสัปดาห์ที่ SEE TRUE ข้ามแดนไปยังปอยเปต เป็นศูนย์กลางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้พบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ชาวบ้านต่างรู้ว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่ก็รู้ แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังทำงานได้เสรีขนาดนี้ เพราะความหละหลวม หรือผลประโยชน์มหาศาลจากมิจฉาชีพเหล่านี้ ที่ทำให้เหยื่อทั้งที่ถูกหลอกจนสูญเสียเงิน และโดนหลอกไปทำงาน ต่างก็ถูกมองข้ามไป
ติดตามได้ในภารกิจ SEE TRUE ให้คุณเห็นความจริง ติดตามต่อเนื่องในวันที่ 27-29 ม.ค. 68 ทางรายการไทยรัฐนิวส์โชว์ เวลา 21.00 น.