เจาะข้อสังเกต คดีฆาตกรรม 6 ชาวเวียดนาม ด้วยการวางยาพิษ ไซยาไนด์ เหตุใดต้องพลีชีพ เลือกโรงแรมดัง ลงมือทั้งที่กำลังเช็กเอาต์ กลับบ้าน... 

เรียกว่าได้ “ข้อสรุป” เบื้องต้นแล้ว สำหรับคดีฆาตกรรม ชาวเวียดนาม 6 ศพ โดย 2 ใน 6 นั้นมีสัญชาติอเมริกัน โดยมีมูลเหตุจูงใจเรื่องหนี้สินมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท 

โดยมีการ “วางยาพิษ” ด้วย ไซยาไนด์ ในน้ำที่ดื่มร่วมกัน... 

หลายคนสงสัย ว่าเหตุใดมาก่อเหตุในเมืองไทย ซึ่งทางตำรวจก็ไขคำตอบในประเด็นนี้ว่า เพราะมีบางคน “วีซ่า” ไม่ผ่าน จากที่ “นัดแนะ” จะรวมตัวที่ญี่ปุ่น จึงเปลี่ยนเส้นทางมาที่ไทยแทน 

อย่างไรก็ดี คดีนี้เป็นเพียงการสรุปข้อมูลเบื้องต้น เชื่อว่า ยังมีอีกหลายปมข้อสงสัย กับความสมเหตุสมผล ที่ทางเจ้าหน้าที่ แถลงว่า พวกเขาฆ่ากันเอง จากปมปัญหา “หนี้สิน” ซึ่งเกี่ยวพันกัน 4 คน แบ่งเป็นนักลงทุนด้านอสังหา 2 คน ที่ถูกเชื้อเชิญไปลงทุนสร้างโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่น และก่อนเกิดเหตุ ได้มีเจ้าหน้าที่โรงแรม ได้นำ น้ำร้อนมาให้ หญิงเวียดนามสัญชาติอเมริกัน ซึ่งอยู่ภายในห้องลำพัง ก่อนจะเกิดเหตุสลด 

...

ข้อสังเกต ฆาตกรรมหมู่ 6 ศพ ชาวเวียดนาม 

“เรา” มีโอกาสได้พูดคุยกับ พล.ต.ท.พิศาล มุขแจ้ง อดีตหัวหน้าอาจารย์วิชาอาชญาวิทยา โรงเรียนนายร้อยสามพราน วิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้น และความสมเหตุสมผลในคดีนี้ 

มูลเหตุการประกอบอาชญากรรม พลีชีพ-ฆ่าล้างหนี้ : 

ผู้ก่อเหตุจงใจ หรือเจตนาฆ่าผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงตัวเองนั้น อาจจะต้องการให้ “หนี้สิน” ทุกอย่างจบลงที่ตัวเขา ไม่ต้องการหนี้ตกไปถึง ทายาท 

การใช้สารพิษ ซายาไนด์ในเครื่องดื่ม : 

คนเวียดนามรู้จัก “ไซยาไนด์” เหมือนกับคนไทย และรู้จักมานานแล้ว และรู้จักเป็นอย่างดี

ใช้คำว่าเป็นอย่างดี? พล.ต.ท.พิศาล อธิบายว่า กรณีคนไทยนั้น เคยมีคดี “แอมไซยาไนด์” ดังนั้น ไทยจะรู้ดีว่า หากมีการวางยาฆาตกรรม จะมีการใช้ “ไซยาไนด์” และไซยาไนด์ ยังมีขายในอินเทอร์เน็ตอยู่ 

คาดว่า ผู้ก่อเหตุจะเคยเรียนรู้วิธีนี้ จากเคสที่เกิดขึ้นในเวียดนาม โดยมี “ฆาตกรรมต่อเนื่อง 13 ศพ” ในช่วงหลายปีก่อน ซึ่งพฤติกรรมไม่แตกต่างจาก “แอม ไซยาไนด์” เลย มีมูลเหตุจูงใจ และพฤติกรรมคล้ายกัน ด้วยการเข้าตีสนิทเหยื่อ และลอบวางยาพิษในเครื่องดื่ม หรืออาหาร แล้วชิงทรัพย์ 

“การใช้ยาพิษไซยาไนด์ คือ การเรียนรู้พฤติกรรมอาชญากร แผนประทุษกรรมของคนร้าย ที่เร็ว และได้ผล” 

ลักษณะนิสัย คนเวียดนาม : 

คนเวียดนามจะมีความเป็นอัตลักษณ์อย่างหนึ่ง คือ จำนวนมากจะมีหัวจิตหัวใจที่เด็ดเดี่ยว และที่ผ่านมา เคยมีรายงานของ FBI เกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในชุมชนเวียดนาม ที่สหรัฐฯ พบว่า สถิติก่ออาชญากรรมสูงกว่า ชุมชนประเทศอื่นๆ

ส่วนหนึ่งเพราะเขา ผ่านสงครามมาเยอะ ได้ผ่านประสบการณ์การต่อสู้ และยากลำบาก เห็นการสังหารหมู่ เคยเห็นหรือถูกกระทำมา...

ทำไมต้องฆ่าทั้งหมด : 

มูลเหตุจูงใจครั้งนี้ มาจาก 2 นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ให้เงินกับ ผู้หญิงสัญชาติอเมริกัน โดยจากรายงาน ระบุว่า จะนำเงินดังกล่าวไปลงทุนกับสามี ในการทำธุรกิจโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่น 

นักอาชญาวิทยา ไม่มั่นใจจะตอบคำถามนี้ เนื่องจาก ไม่แน่ใจเรื่องความสัมพันธ์ ว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับธุรกิจทั้งหมดหรือไม่ หรือมีเหตุจำเป็นต้องฆ่า หรือไม่ 

ตำรวจสรุปคดีเร็วไปหรือไม่ : 

พล.ต.ท.พิศาล ชี้ว่า นี่เป็นเพียงการแถลงข่าวเบื้องต้นเท่านั้น แต่หลังจากนี้ คงต้องมีการพิสูจน์ที่ชัดเจนมากกว่านี้ เช่น.. 

...

- ในกระเพาะอาหาร นอกจาก ไซยาไนด์ นั้น มีสารพิษตัวอื่นร่วมด้วยหรือไม่ 

- มีเหตุหรือปัจจัยอื่น ที่ทำให้ตายอีกหรือไม่ 

- แต่ละคนมีความสัมพันธ์อย่างไรกันแน่ ต้องชัดมากกว่านี้ เกี่ยวข้องกันอย่างไร 

- หามูลเหตุจูงใจอื่นอีก นอกจากเรื่องหนี้สิน 

- ทำไมต้องโรงแรมใหญ่ กลางใจเมืองไทย (ใกล้ สตช.) 

นี่คือเรื่องแปลกมากอย่างหนึ่งในความรู้สึก พล.ต.ท.พิศาล เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโรงแรมนี้ หรูหราขนาดนี้ เพราะถ้าเป็นคนเวียดนามทั่วไป หรือนักท่องเที่ยวทั่วไป จะไม่เลือกพักโรงแรมนี้ 

คนที่พักโรงแรมหรูระดับนี้ได้ ต้องเป็น คนที่ร่ำรวยมากๆ เศรษฐีชาวอเมริกัน คนที่ทำธุรกิจใหญ่โต หรือ.... คนที่มีเงินเหลือเยอะมากๆ เช่น กลุ่มแก๊งอาชญากรรม 

“แม้เรื่องนี้ทางตำรวจจะบอกว่า ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรม แต่เป็นไปได้ ก็อยากให้ลองสืบเสาะดูว่าเกี่ยวหรือไม่..”

หรือหากจะให้สันนิษฐาน ก็เพราะ ว่าโรงแรมแห่งนี้ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว ใกล้แหล่งสักการะบูชา องค์เทพ วัด ต่างๆ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็เป็นไปได้... หรือแม้แต่คนที่เปิดห้องสูทนี้ คือ ชายสัญชาติอเมริกัน และการ “เลือก” เปิดโรงแรมนี้เพื่อต้องการความน่าเชื่อถือ 

...

ข้อสังเกตต่างๆ ที่ต้องหาคำตอบ และความสมเหตุสมผล : 

สำหรับเรื่อง ที่อดีตอาจารย์อาชญาวิทยา ตั้งข้อสังเกต ประกอบไปด้วย 

1. การเข้าออกประเทศของ หญิงรายหนึ่ง ที่มีการเข้า-ออก ประเทศไทย ถึง 17 ครั้งนั้น การเข้าออกแต่ละครั้งเป็นอย่างไร หากเธอมีธุรกิจในประเทศไทย การเข้าออกในประเทศ ก็คงไม่แปลก แต่ถ้าไม่มี ถือว่าเป็นเรื่องผิดสังเกต 

2. ทำไมถึงเลือกลงมือก่อเหตุในช่วงที่กำลังจะ “เช็กเอาต์” มีการรวมกระเป๋ากันแล้ว... นี่ก็คือเรื่องที่น่าฉุกคิด ว่าเรื่องน่าจะเคลียร์กันได้แล้ว แต่เหตุใดถึงเลือกลงมืออีก ซึ่งจากข้อมูล คือ ทุกคนเคยมารวมกันที่ห้องนี้แล้วรอบหนึ่ง เหตุใดไม่ฆ่ากันตอนนั้น แต่กลับเลือกฆ่าตอนกำลังจะแยกย้าย? 

อ่านบทความน่าสนใจ 

...