พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร

เส้นทาง...มือปราบขุนดง

มึงฆ่าเขาได้...มึงก็ถูกฆ่าได้เหมือนกัน!

แรงบันดาลใจในการเป็นตำรวจ

การปล้นฆ่า แผลใจในวัยเด็ก

ในวัยเด็ก

ณ บ้านคุณตา ที่ตั้งอยู่ริมบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ถูกโจรกว่า 50 คน ปล้นบ้าน

อาเรวัช เล่าว่า เวลานั้นยังเป็นเด็ก มีโจรยกพวกมาปล้นบ้านคุณตา ตำรวจในพื้นที่มีแค่ 20 กว่านาย แต่โจรมากันมากกว่า 50 คน 

ตอนนั้นกลัวโจรมาก มันเจอใครมันก็ยิงหมด...ไม่มีใครกล้าอยู่บ้าน พ่อแม่เป็นชาวนาก็กลัว 

วันหนึ่งตำรวจสืบจนรู้ว่าเป็นโจรกลุ่มไหน และจับมาได้ 1 คน

อาเขย จ่าตำรวจดิเรก สุขทวี สอบปากคำผม ปั้นให้เป็นพยาน โดยระบุว่าเป็นเด็กที่โตแล้ว พอจำหน้าโจรได้ ทั้งที่ไม่เห็นเลย แต่ก็ไปไล่ชี้คนนั้นคนนี้ที่กลายเป็นศพ บอกเป็นโจร ซึ่งโจรมันก็รู้ เลยอยากจะปิดปากไอ้เด็กจัง... พยานเพียงคนเดียว 

ตอนนั้นต้องหลบซ่อนถึงขั้นไปนอนในเตา กระทั่งคุณอาให้ฝึกยิงปืนตอนอายุ 12 

นี่คือจุดเริ่มต้นของการเป็นตำรวจ และรักในอาวุธปืน...

การตอบโต้ที่ไม่เท่าเทียม

ในช่วงวัยรุ่นได้ย้ายที่เรียนหลายครั้ง เคยปัญหากับครู โดดเตะครู ตอนที่ยังเรียนอยู่ มีคนอื่นเข้ามารังแก จึงสู้กลับแทงถึงตาย...

บันได 4 ขั้น ก้าวสู่มือปราบ

หลังจากเรียนจบแค่ มส.3 ชีวิตอยู่ในช่วงลำบาก ไร้เงิน ต้องหนีไปทำไร่...จึงเกิดปณิธาน บันได 4 ขั้น เขียนไว้ในถุงกระดาษ

ขั้นที่ 1

จบปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ เพื่อนำความรู้ด้านกฎหมายไปแก้ปัญหาให้ตัวเอง

ขั้นที่ 2

ต้องเป็นตำรวจยศ “ร้อยตำรวจตรี”

ขั้นที่ 3

ต้องจบปริญญาโท (สมัยก่อนมีคนเรียนจบน้อย)

ขั้นที่ 4

ต้องเป็นมือปราบ กำจัดคนชั่วให้ได้

ทลาย "ดงโจร"

ต่อมา ไปทำงานที่ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ถูกตั้งให้เป็นหัวหน้าชุด "ขุนดง" เป็นที่มาของฉายา “มือปราบขุนดง” และพื้นที่อุดมไปด้วยโจร

เส้นทาง “มือปราบขุนดง”

เส้นทางชีวิตตำรวจของ พล.ต.ท.เรวัช ตอนแรกเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ทำสำนวนวิสามัญในกรมตำรวจ ทำให้รู้จักกับนายตำรวจใหญ่ มือปราบดังๆ สมัยนั้นหลายคน

ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

เจอผู้บังคับบัญชาสไตล์เดียวกัน คือ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” ที่ใช้กับอาชญากรโหด “มึงปล้นฆ่าใช่ไหม...ต้องโดนซะบ้าง!”

จัดการโจรเรียกค่าไถ่

มีคดีปล้น ฆ่า จับคนไปเรียกค่าไถ่... ตำรวจจึงต้องทำการล่อให้คนร้ายมาเอาเงิน เมื่อมาถึง กดเปรี้ยงที่ขา...บีบให้บอกว่าหัวหน้าอยู่ไหน ก่อนจะตามไปเอาคืน

ล้างบางทรชน

สมัยนั้นอาชญากรโหดเหี้ยมมาก ฆ่าคนมากมาย บุกไปจับตัวเรียกค่าไถ่ ไม่มีใครเป็นพยาน เป็นที่มาของการตอบโต้ที่รุนแรง

ผลงานที่โดดเด่น 

ตลอดชีวิตข้าราชการตำรวจ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด เปรียบเสมือนฟันเฟืองสำคัญให้กับกรมตำรวจในเวลานั้น ทั้งการปราบแก๊งมาเฟีย ยาเสพติด รวมไปถึงการปิดคดีสำคัญ อาทิ คดี “ศยามล” ด้วยการรวบรวมหลักฐานเก็บ DNA จากน้ำอสุจิ ที่เวลานั้นยังไม่มีใครทำเช่นนั้น จนสามารถพิสูจน์ไล่ล่าตัวแก๊งฆ่าได้ยกแก๊ง


อ่านบทความที่น่าสนใจ

สรุป ‘วิกฤติลิงลพบุรี’ ปัญหาที่ยังไม่คลี่คลาย

สถิติ “แพะ” 3 ปี จ่าย 173 ราย 38 ล้าน อัยการแนะลุงเปี๊ยกขอเยียวยา

บุกพิสูจน์ 'บึงฉวากฯ' เงียบเหงาหรือครึกครื้น อะไรคือจุดที่ต้องปรับปรุง?

รวยอู้ฟู่ สู่หนี้สิบล้าน “แม่นุ้ย” ปลูกผักสลัด ชีวิตพลิกฟื้นด้วยเกษตร

Share

เราใช้คุ้กกี้ 

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookie Policy)

รับทราบ