ทำความรู้จัก “อี วอน-จู” (Lee Won-joo) เจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุงกรุ๊ป คุณหนู VVIP ผู้โลว์โปรไฟล์ หนึ่งในเซเลบผู้ร่วมรับประทานอาหารร้านเจ๊ไฝ กับ ลิซ่า Blackpink...

การรับประทานอาหารที่ร้านเจ๊ไฝ สตรีทฟู้ดชื่อดังของประเทศไทย ได้กลายเป็นที่ “เลื่องลือไปทั่วทั้งโลก” ทันที หลังผู้ที่ร่วมปรากฏตัวในดินเนอร์ดังกล่าว นอกจากจะมี “ลิซ่า Blackpink” แล้ว ชาวโลกยังได้เห็นหน้า เจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุง “อี วอน-จู” (Lee Won-joo) วัย 19 ปี บุตรสาวคนสวยของ “อี แจ-ยอง” (Lee Jae-yong) ประธานกรรมการบริหาร ของ “Samsung Electronics” กลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ ผู้ถือครองความมั่งคั่ง 9,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (335,284 ล้านบาท) ไปร่วมโต๊ะรับประทานอาหารมื้อพิเศษดังกล่าว  

เจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุง (ชุดสีดำขวาสุด) ปรากฏตัวที่ร้านเจ๊ไฝ
เจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุง (ชุดสีดำขวาสุด) ปรากฏตัวที่ร้านเจ๊ไฝ

...

“เจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุงผู้นี้” มีความน่าสนใจขนาดไหน? เหตุใดจึงกลายเป็น “เซเลบ” ที่ถูกพูดถึงบนโลกโซเชียลมีเดียหลังมื้ออาหารสำคัญนี้ “เรา” ไปร่วมกันทำความรู้จัก “สาวน้อยแห่งตระกูลแชโบลผู้มั่งคั่ง” ผู้นี้ร่วมกัน

การสมรสเชื่อมสัมพันธ์ธุรกิจหมื่นล้านระหว่าง 2 ตระกูลแชโบล :

“อี วอน-จู” เป็นลูกสาวคนเล็กของประธานอี แจ-ยอง และ “อิม เซ รยอง” (Lim Se-ryeong) อดีตภรรยา ซึ่งเป็นทายาทของ “แดซัง กรุ๊ป” (Daesang Group) ตระกูลแชโบลเจ้าของธุรกิจอาหารชื่อดัง ที่ปัจจุบันถือครองมั่งคั่ง 157 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (5,483 ล้านบาท) จากการประเมินของสื่อในประเทศเกาหลีใต้ ด้วยเหตุนี้ “อี วอน-จู” จึงถือเป็นคนที่กำเนิดใน “ชนชั้นช้อนทอง” (Gold Spoon) ของเกาหลีใต้อย่างแท้จริง  

ทั้งนี้พิธีสมรสระหว่าง “อี แจ-ยอง” และ “อิม เซ รยอง” ถือเป็นงานใหญ่ระดับประเทศของเกาหลีใต้เมื่อปี 1998 โดยทั้งคู่ได้ร่วมชีวิตกันภายใต้ความเห็นชอบของทั้งสองครอบครัวตระกูลแชโบลที่เคยเป็นคู่แข่งทางการค้าในอดีต 

โดย “อี บยอง ชอล” (Lee Byung-Chll) ผู้ก่อตั้งซัมซุง ซึ่งเป็นปู่ของประธานรุ่นที่ 3 ในปัจจุบัน ได้กล่าว “วรรคทอง” ถึงการสมรสระหว่างสองตระกูลใหญ่ในครั้งนั้นว่า “มีเพียง 3 สิ่งเท่านั้นที่อยู่เหนือการควบคุมของผม นั่นคือ 1. เด็กๆ 2. กอลฟ์ และ 3. มิวอน (Miwon)” (ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสชาติอาหาร ซึ่งเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของแดซัง กรุ๊ป) 

การสมรสเชื่อมสัมพันธ์ธุรกิจระหว่าง ซัมซุง กรุ๊ป และ แดซัง กรุ๊ป
การสมรสเชื่อมสัมพันธ์ธุรกิจระหว่าง ซัมซุง กรุ๊ป และ แดซัง กรุ๊ป

อย่างไรก็ดี “การสมรสทางธุรกิจมูลค่านับหมื่นล้าน” ดังกล่าว ทำให้ทั้งคู่อยู่กินฉันสามีภรรยาได้เพียง 11 ปี เท่านั้น โดยหลังจากมีลูกด้วยกันสองคน คือ ลูกชายคนโต “อี จี-โฮ” (Lee Ji-ho) ปัจจุบันอายุ 23 ปี (เกิดปี 2000) และ “อี วอน-จู” ปัจจุบันอายุ 19 ปี (เกิดปี 2004) ทั้งคู่ก็ได้ตัดสินใจบรรลุข้อตกลงหย่าร้างที่ศาลครอบครัวกรุงโซลในปี 2009   

ทั้งนี้ “อี แจ-ยอง” ได้ขอรับสิทธิการเลี้ยงดูบุตรทั้งสองคน และยินดีจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูให้กับอดีตภรรยาเป็นเงินก้อนมหาศาลถึง 500,000 ล้านวอน (13,430 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นตัวเลขค่าเลี้ยงดูที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์คดีหย่าร้างของเกาหลีใต้ 

...

อย่างไรก็ดี “การหย่าร้างบันลือโลก” ที่จนถึงขณะนี้ไม่มีการเปิดเผยถึงเหตุผลในการหย่าร้างที่แน่ชัด ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างจากสังคมในประเด็นเกี่ยวกับ “ภาพลักษณ์ทายาท” ที่เตรียมเข้าสืบทอดกิจการซัมซุง ในฐานะลูกชายคนเดียวของ “อี กอน ฮี” (Lee Kun-hee) บุรุษเหล็กที่สร้างให้ซัมซุงกลายเป็นแบรนด์ระดับโลกทันที 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : 

เนื่องจาก ข้อแรกสังคมเกาหลีใต้ในเวลานั้นมองว่าผู้ชายที่ไม่สามารถรักษาครอบครัวเอาไว้ได้ย่อมไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำองค์กรธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ เช่น “ซัมซุง” ข้อที่สอง “การหย่าร้าง” ทำให้ธุรกิจของตระกูลต้องเสียเงินจำนวนมากไปให้กับอดีตภรรยา และข้อที่สาม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่หนักหนามากๆ สำหรับครอบครัวก็คือประเด็นเรื่องความหย่าร้างที่เกิดขึ้นเป็นผลให้อาการป่วยของ “อี กอน ฮี” เสาหลักของครอบครัว ณ เวลานั้น ทรุดหนักลง จนกระทั่งไม่สามารถเข้าร่วมพิธีรำลึกถึงผู้ก่อตั้งซัมซุงได้ 

ทั้งๆ ที่....ใน “ข้อเท็จจริง” การหย่าร้างดังกล่าว ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ ต่อการสืบทอดอำนาจธุรกิจในเครือซัมซุงของ “อี แจ-ยอง” เลยแม้แต่เพียงเล็กน้อย เนื่องจาก “โครงสร้างการถือหุ้นไขว้” (Cross Holding) อันซับซ้อนในเครือซัมซุงนั้น “แข็งแกร่ง” เกินกว่าที่จะถูก “รบกวน” จาก “ภายนอก” อันเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนส่วนหนึ่งเกรงว่า “การหย่าร้าง” อาจนำมาซึ่งการแบ่งสินสมรสซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทในเครือซัมซุงที่ อี แจ-ยอง ถือครองอยู่ 

...

สำหรับชีวิตหลังการหย่าร้างของฝ่ายหญิง นั้น สื่อมวลชนของเกาหลีใต้ รายงานว่า ปัจจุบัน “อิม เซ รยอง” กำลังคบหาดูใจกับ “อี จอง-แจ” (Lee Jung-jae) นักแสดงชื่อดังที่ล่าสุดกลับมาแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวอีกครั้งกับ “Squid Game” โดยทั้งคู่ครองรักกันมายาวนานมากกว่า 8 ปีแล้ว

“อิม เซ รยอง” (ซ้าย) แม่ของเจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุง กับ “อี จอง-แจ” (Lee Jung-jae) คู่ชีวิตคนใหม่
“อิม เซ รยอง” (ซ้าย) แม่ของเจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุง กับ “อี จอง-แจ” (Lee Jung-jae) คู่ชีวิตคนใหม่

เจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุง กับ เกราะป้องกันอันเข้มแข็งของซัมซุงกรุ๊ป : 

“อี จี-โฮ” และ “อี วอน-จู” ถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดและพยายามปิดบังตัวตนของลูกๆ ต่อสาธารณชนจากผู้เป็นพ่อ ซึ่งเคยยอมสละเวลาที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยจากธุรกิจอันรัดตัว พาลูกชายไปดูการแข่งขันบาสเกตบอล รวมถึงยังเคยพาลูกสาวคนเล็กไปดูการแสดงโชว์ของ “คิม ยอนอา” (Kim Yuna) นางฟ้านักสเกตน้ำแข็งของเกาหลีใต้ด้วยตัวเองโดยปราศจากการติดตามของสื่อต่างๆ  

...

“อี วอน-จู” (ซ้าย) และพี่ชาย “อี จี-โฮ”
“อี วอน-จู” (ซ้าย) และพี่ชาย “อี จี-โฮ”

ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองคนจึงแทบไม่เคยปรากฏตัวต่อสาธารณชนในวงกว้าง และมีเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่ ท่านประธานซัมซุงรุ่นที่ 3 จะยอมให้ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุง” เนื่องจากมีใบหน้าที่สวยใสและเกิดในตระกูลแชโบลอันเพียบพร้อมจะได้ปรากฏตัวตามสื่อในประเทศเกาหลีใต้ 

โดยครั้งแรกที่ “อี วอน-จู” ปรากฏตัวออกสื่ออย่างเป็นทางการ คือ การเดินทางไปพร้อมกับพี่ชายและคุณพ่อเพื่อร่วมพิธีศพของ “คุณปู่อี กอน ฮี” ในปี 2020   

การปรากฏตัวกับสื่อครั้งแรกของเจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุง
การปรากฏตัวกับสื่อครั้งแรกของเจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุง

อย่างไรก็ดี เจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุง ได้กลายเป็นจุดโฟกัสของบรรดาสื่อในเกาหลีใต้ ไปในทันที หลังได้เดินทางไปร่วมพิธีแต่งงานลูกสาวคนโตของ “ชอง อึยซอน” (Chung Euisun) ประธานฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป (Hyundai Mortor Group) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ของเกาหลีใต้ เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2022 

ซึ่งในครั้งนั้น “อี วอน-จู” สามารถ “ขโมยซีน” บรรดาเหล่า VVIP ลูกคุณหนูตระกูลแชโบลทั่วประเทศเกาหลีใต้ ที่มารวมตัวกันในพิธีสมรสดังกล่าวได้อย่าง “เบ็ดเสร็จ” ด้วยลุค “น้อยแต่มาก” จากชุดมินิเดรสแขนกุดแบรนด์ Versace มูลค่า 2,195 ดอลลาร์สหรัฐ (76,620 บาท) ที่ไม่มีขายในประเทศเกาหลีใต้ และรองเท้า Gianvito Rossi แบรนด์หรูจากอิตาลี!

อี วอน-จู ในชุดขโมยซีนเหล่า VVIP
อี วอน-จู ในชุดขโมยซีนเหล่า VVIP

ความรักของเจ้าหญิงน้อยแห่งซัมซุง : 

อ้างอิงจากรายงานของสื่อมวลชนในเกาหลีใต้ระบุว่า หลัง “อี วอน-จู” เรียนจบที่โรงเรียนนานาชาติยงซาน (Yongsan International School) ในกรุงโซลแล้ว ได้เดินทางไปเรียนต่อที่โรงเรียนประจำ Choate Rosemary Hall ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งรวมของบรรดาลูกอภิมหาเศรษฐีจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งปัจจุบัน (ปี 2023) มีค่าธรรมเนียมและค่าเล่าเรียนที่สูงลิบลิ่วถึงประมาณ 68,380 ดอลลาร์สหรัฐ (2.3ล้านบาท) ต่อปี จากนั้นจึงได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด 

และล่าสุดสื่อในเกาหลีใต้รายงานว่า เธอกำลังฝึกงานอยู่ที่ “บริษัท Qualcomm” ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับซัมซุง โดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “Madison Lee” เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยตัว อย่างไรก็ดี รายงานข่าวดังกล่าวไม่ได้รับการ “ยืนยัน” หรือ “ปฏิเสธ” จาก Qualcomm แต่อย่างใด    

อย่างไรก็ดี แม้จะพยายามปิดบังตัวตนของลูกๆ ต่อสาธารณชนมากเพียงใดก็ตาม แต่เนื่องจากปัจจุบันโลกมีโซเชียลมีเดีย ฉะนั้น โอกาสที่ข้อมูลบางอย่างที่ต้องการปกปิดจะปรากฏต่อสาธารณชนนั้นจึงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะหากเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่สนใจใคร่รู้ อย่างเช่นเรื่องความรักของเจ้าหญิงน้อย

โดยในช่วงต้นปี 2023 ที่ผ่านมาโลกโซเชียลมีเดียของเกาหลีใต้ ได้มีการแชร์ภาพชุดหวานสุดละมุนระหว่าง “อี วอน-จู” กับ หนุ่มเชื้อสายเอเชีย ที่เชื่อว่าน่าจะเป็น “แฟนหนุ่มของเธอ” อย่างแพร่หลาย แต่ก็อีกเช่นเดิม...จนถึงปัจจุบันยังคงไม่มีรายงานการ “ยืนยัน” หรือ “ปฏิเสธ” กระแสข่าวในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการจากเครือซัมซุงอีกเช่นกัน  

อ่านบทความที่น่าสนใจ :