เข้าสู่ยุคนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 4 บาท เฉลี่ยไข่เบอร์ 0 ที่ขายตามท้องตลาดราคาสูงถึงฟองละ 5 บาท แพงเป็นประวัติการณ์ โดยนายกสมาคมการค้าผู้ค้าไข่ไทย ยอมรับว่า ด้วยราคาอาหารของผู้เลี้ยงไก่ไข่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ราคาขายไข่ไก่หน้าฟาร์มทะยานสูงไม่หยุด เมื่อผู้ค้ารับมาขายต่อ มีค่าขนส่งและแรงงาน ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จึงอยากให้รัฐบาลใหม่เร่งแก้ปัญหาราคาไข่ ก่อนที่ผู้บริโภคจะต้องแบกรับภาระหนักไปมากกว่านี้

หากย้อนกลับไป ราคาไข่ไก่ เริ่มพุ่งสูงขึ้นตั้นแต่ต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และคงที่จนเข้าสู่ต้นเดือน ก.ย. โดยไม่มีวี่แววว่าราคาไข่ไก่จะลดลง ขณะที่รัฐบาลใหม่ของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เตรียมเร่งแก้ปัญหาปากท้องประชาชน แต่ราคาไข่ไก่ที่เป็นสินค้าสำคัญประจำครัวเรือน กลับไม่มีทีท่าว่าราคาจะลดลง

ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง สุธาศิน อมฤก นายกสมาคมการค้าผู้ค้าไข่ไทย เล่าถึงสถานการณ์ว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาไข่ไก่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เพราะมีไข่ไก่ที่ออกมาจำหน่ายในท้องตลาดน้อย ขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคมีสูง ประกอบกับบางช่วงเวลาทางฟาร์มปลดระวางแม่ไก่อายุมาก ทำให้ไข่ไก่ที่ออกสู่ตลาดลดลง

...

จึงอยากให้รัฐบาลใหม่เข้ามาดูเรื่องอาหารของการเลี้ยงไก่ เพราะทุกวันนี้ค่าอาหารพุ่งสูงมาก หากมีการควบคุมให้อยู่ในราคาเหมาะสม จะสามารถมาคุยกับเกษตรกรผู้เลี้ยงให้ลดราคาขายไข่ไก่หน้าฟาร์มได้ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงสุญญากาศ ยังไม่มีการแต่งตั้งนายกฯ เลยไม่มีแนวทางการแก้ปัญหาชัดเจน ประกอบกับการแข่งขันด้านราคาการขายไข่ไก่ในตลาดมีความรุนแรงมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

“ไข่ไก่เป็นสินค้าที่กักตุนไม่ได้ ระยะเวลาของการส่งไข่ไก่จากฟาร์มถึงผู้บริโภคคือ ไข่ไก่ 1 ฟอง อยู่ที่ฟาร์ม 1 คืน มาอยู่ที่ผู้กระจายสินค้า 2 คืน สุดท้ายต้องไปอยู่กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดมากสุด 5 คืน เฉลี่ยไข่ไก่ 1 ฟอง ต้องถึงมือผู้บริโภคก่อน 7 วัน หากช้ากว่านั้นไข่ไก่สดจะหมดอายุ”

ตอนนี้จากราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเบอร์ 3 อยู่ที่ฟองละ 4 บาท ล้งที่รับซื้อไข่ไก่ ซื้อราคาฟองละ 3.90 บาท ตกแผงละ 117 บาท ล้งจะส่งตลาดสดแผงละ 117-120 บาท แล้วแต่ปริมาณที่ลูกค้าสั่ง และขึ้นอยู่กับการแข่งขันของลูกค้าที่นำไปขายต่อ ดังนั้นจะเห็นว่าไข่ไก่เบอร์ 3 บางครั้งล้งก็ต้องขายในราคาเท่าทุนแผงละ 117 บาท หรืออย่างมากก็ได้กำไรแผงละ 3 บาท เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น

ส่วนไข่ไก่เบอร์ 2 ส่งแผงละ 120-126 บาท แล้วแต่ปริมาณการสั่ง และการแข่งขันในตลาด ขณะที่ไข่เบอร์ 1 ส่งอยู่ที่แผงละ 126-132 บาท ด้านไข่ไก่เบอร์ 0 ส่งอยู่ที่แผงละ 135-138 บาท จากราคาส่งที่ขายให้กับร้านในตลาดสด นำไปขายจะมีการบวกกำไรเพิ่มต่ำสุดแผงละ 10 บาท

“เวลาไปซื้อไข่คละใหญ่หน้าฟาร์ม หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เวลาคัดแยกแล้ว ได้ไข่เบอร์ 0 มากสุด 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นเบอร์หายากที่สุด ส่วนไข่ไก่เบอร์ 1 เจอ 25 เปอร์เซ็นต์ ด้านไข่เบอร์ 2 เจอประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ และเจอไข่เบอร์ 3 เฉลี่ยประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ สุดท้ายเจอไข่เบอร์ 4 ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นการคัดแยกไข่เหล่านี้จึงเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับผู้ค้าไข่ไก่ โดยเฉพาะไข่เบอร์ 0 ที่มีขนาดใหญ่สุด จะหายากมากที่สุด ทำให้ราคาขายในตลาดสดจะบวกราคาเพิ่มอีกทอด”

หากคิดเฉลี่ยของพ่อค้าล้งที่ขายไข่ไก่ 1,000 แผง เมื่อ 5 ปีก่อนจะได้กำไรถึง 5,000-6,000 บาท แต่ตอนนี้เหลือกำไรแค่ 4,000 บาท แม้ราคาไข่ไก่จะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีต้นทุนสูงขึ้นจากราคาน้ำมันในการขนส่ง ค่าไฟฟ้า และค่าจ้างแรงงาน ที่ต้องปรับขึ้นทุกปี แต่ราคาขายส่งให้กับพ่อค้าในตลาดไม่สามารถขอเพิ่มให้มีกำไรมากขึ้นได้

...

“ไข่ไก่ยุคนายกฯ เศรษฐา มีราคาสูงขึ้น ถือว่าแพงเป็นประวัติการณ์ เพราะที่ผ่านมาไข่ไก่ทุกเบอร์ไม่เคยแพงขนาดนี้ โดยเฉพาะไข่เบอร์ 0 ที่มีขนาดใหญ่สุด ในตลาดสดขายอยู่ที่ฟองละ 5.10-5.20 บาท”

สิ่งที่รัฐบาลใหม่ควรทำอย่างเร่งด่วน ในการทำให้ราคาไข่ไก่ลดลง ต้องมีมาตรการลดราคาอาหารไก่ และเข้าไปคุยกับเกษตรกรต่อจากนั้น เพื่อลดราคาขายไข่ไก่ลง ส่วนผู้บริโภคควรทยอยซื้อไข่ไก่ ไม่ควรซื้อไปกักตุนมาก หรือมองหาโปรตีนชนิดอื่นมาทดแทนไข่ไก่ชั่วคราวไปก่อนระยะนี้ จากราคาไข่ไก่ที่พุ่งสูงถึงฟองละ 5 บาท ไม่น่าปรับขึ้นไปถึงฟองละ 6 บาทต่อจากนี้.