"ผกก.หนุ่ย" บอดี้การ์ดตระกูลชินวัตร หายไปนาน โผล่อารักขา "นายกฯเศรษฐา"

ชื่อของ "พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย" หรือ "ผกก.หนุ่ย" นายตำรวจหน้าตาดี เคยติดตามอารักขา ดูแลความปลอดภัย "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเคยเป็นทีมอารักขา "ทักษิณ ชินวัตร" ในช่วงปลายรัฐบาลทักษิณ ก่อนถูกยึดอำนาจรัฐประหาร กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังหายไปนานภายหลังยิ่งลักษณ์ ลี้ภัยทางการเมืองไปอยู่ต่างประเทศเช่นเดียวกับทักษิณ ทำให้ชีวิต ผกก.หนุ่ย ต้องเจอกับมรสุมในหน้าที่การงาน แต่ก็ฝ่าฟันมาจนได้ เปรียบเหมือนแมวเก้าชีวิต

"ผกก.หนุ่ย" เป็นที่ไว้ใจของคนตระกูลชินวัตร  เพราะทันทีที่ทักษิณ กลับมาเหยียบแผ่นดินไทย ได้เห็น "ผกก.หนุ่ย" แต่งชุดตำรวจเต็มยศยืนอยู่เคียงข้างทักษิณ และได้สร้างเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมาก ขณะที่เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 กำลังลงจากรถภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าหารือเป็นการส่วนตัวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้มีชายใส่สูทสีกรมท่า ลงมาจากด้านหน้ารถ คอยตามประกบดูแลเศรษฐา พบว่าชายหน้าคุ้นๆ นั่นคือ ผกก.หนุ่ย ได้ยกมือไหว้ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างนอบน้อม และมีการทักทายจากพล.อ.ประยุทธ์ ว่า "สบายดีนะ" ก่อนแตะไปที่ท้อง ผกก.หนุ่ย อย่างเป็นกันเอง

พรรคเพื่อไทย ยังคงใช้ทีมอารักขาชุดเดิม ในการดูแลความปลอดภัยให้กับเศรษฐา เป็นการหวนกลับมาอีกครั้งของ ผกก.หนุ่ย ในวัย 53 ปี และคงทำหน้าที่ไม่แตกต่างจากที่เคยปฏิบัติกับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใดจะต้องตามประกบไม่ห่างในทุกภารกิจเหมือนคนรู้ใจ และคอยรับ-ส่งขึ้นรถให้เป็นที่เรียบร้อยอย่างที่เคยเห็นกันมา จนเกิดภาพชินตา เมื่อครั้งอารักขา อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ แถมยังดูแลภาพลักษณ์ และประสานงานกับสื่อมวลชน

กว่าที่ ผกก.หนุ่ย ได้รับการไว้วางใจจากคนในตระกูลชินวัตร ต้องอาศัยเวลาในการพิสูจน์ และอาจเป็นโชคชะตาที่ถูกขีดเขียนเอาไว้ ภายหลังจบนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 49 เริ่มบรรจุครั้งแรกในกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน  จนได้รู้จักกับ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ซึ่งต่อมาได้โยกย้ายมาเป็น รองผบก.ส.3 ดูแลงานรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ในฐานะหัวหน้าทีมอารักขาทักษิณ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และได้ดึง ผกก.หนุ่ย เข้ามาอยู่ในทีมด้วย

กระทั่งรัฐประหารปี 2549 ได้เป็นหัวหน้าชุดคุ้มกันคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ต่อมาพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ในขณะนั้น ได้เซ็นคำสั่งย้ายไปเป็น สว.สป.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา ในปี 2550 จากนั้นพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร.ในขณะนั้น มีคำสั่งขอตัวมาช่วยราชการในสำนักงาน รองผบ.ตร. และเมื่อพรรคพลังประชาชน ชนะการเลือกตั้ง ทำให้ ผกก.หนุ่ย ได้กลับมาดูแลเขตบ้านจันทร์ส่องหล้า ของตระกูลชินวัตร

จนมาปี 2554 พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง เป็นโอกาสที่ ผกก.หนุ่ย มาทำหน้าที่อารักขายิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และในเวลาต่อมาแม้ยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรไปแล้ว แต่ ผกก.หนุ่ย ยังคงทำหน้าที่ดูแลต่อไป จากความคุ้นเคยกับคนในตระกูลชินวัตรมาอย่างยาวนาน และมาถึงวันที่ยิ่งลักษณ์ ต้องระหกระเหินไปอยู่ต่างประเทศเหมือนกับทักษิณ ได้เกิดมรสุมต่อหน้าที่การงานของ ผกก.หนุ่ย ในปี 2562 ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และถูกพักราชการ เพราะได้ติดตามยิ่งลักษณ์ ไปเชียร์ฟุตบอลโลก 2018 ยังประเทศรัสเซีย

แต่ก็รอดมาได้ จากการยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ได้กลับเข้ารับราชการตามเดิมในปี 2564 และเป็นข่าวฮือฮาได้เลื่อนตำแหน่งตามกฎอาวุโส 33 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นเป็นรองผู้บังคับการกลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล จนมาถึงยุคเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี เขาได้กลับมาอีกครั้งในการทำหน้าที่อารักขาดูแลความปลอดภัย.