น้องกัสตั้น เด็กอ้วนโด่งดังในโลกโซเชียล หายไปกว่า 1 ปี สร้างความประหลาดใจ เมื่อเผยแพร่คลิปส่วนตัวด้วยรูปร่างสมส่วน หลังจากลดน้ำหนักไป 13 กก. แม่เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาวิตกกังวล เนื่องจากลูกมีภาวะอ้วน เสี่ยงมีโรคตามมา เลยได้ปรึกษาแพทย์เพื่อควบคุมอาหาร โดยผู้ติดตามคลิปจำนวนมากสอบถามถึงเคล็ดลับลดน้ำหนัก
จินตนา สุขศิริ แม่น้องกัสตั้น อายุ 5 ขวบ เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า น้องมีภาวะอ้วนมาตั้งแต่แรกเกิด ทานอาหารจุกจิก โดยนมผงที่ดื่ม เป็นนมที่มีความหวาน น้องจะดื่มนมผงขนาด 600 กรัม เพียง 2 วัน ก็หมดกล่อง แต่พอจะเข้าโรงเรียนชั้นอนุบาล ต้องพยายามคุมอาหารไม่ให้กินมาก เพราะที่โรงเรียนจะให้กินเป็นเวลา
ตอนน้องอายุ 3 ขวบ มีน้ำหนัก 27 กิโลกรัม ขณะนี้อายุ 5 ขวบ มีน้ำหนักลดลงเหลือ 17 กิโลกรัม ซึ่งถ้ารวมแล้ว ตั้งแต่เริ่มลดความอ้วนจนถึงตอนนี้ น้ำหนักลดลงไปแล้ว 13 กิโลกรัม สำหรับวิธีการลดน้ำหนัก ช่วงแรกได้ไปพบแพทย์ ให้ยาปรับฮอร์โมนในการควบคุมการทานอาหาร ขณะที่แม่ต้องควบคุมการทานอาหารของลูกให้เป็นเวลา
...
กว่าจะลดน้ำหนักน้องได้ขนาดนี้ ใช้เวลาประมาณ 9 เดือน – 1 ปี เทคนิคเริ่มจากคุมอาหาร ช่วงแรกน้องจะกินนมมาก แม่ต้องค่อยๆ ลดนมผง โดยให้ดื่มวันละ 1 – 2 ขวด แต่ไปเพิ่มส่วนที่เป็นข้าว เพื่อให้น้องได้อิ่มท้อง จะได้ไม่ดื่มนมมาก หลังจากนั้นน้ำหนักลดลง แม่ต้องใช้ความอดทนในช่วงแรกค่อนข้างมาก เพราะน้องจะงอแง แต่แม่ต้องทนฝืนไม่ตามใจน้อง
“เด็กอ้วนอาจดูน่ารัก แต่คนเป็นแม่ก็เริ่มวิตกกังวล เพราะน้องกินจุ กลัวว่าจะเจ็บป่วยด้วยโรคอ้วน หากไม่รีบลดน้ำหนัก ถ้าปล่อยไว้จนโต อาจลดยาก ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น เบาหวาน ความดัน ทางครอบครัวโชคดีที่ให้กำลังใจกัน จนสามารถฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ ขณะนี้น้องวิ่งเล่นได้คล่องตัวกว่าเดิม และมีแววจะเป็นนักกีฬา”
ตอนนี้น้องทานอาหารน้อยลง ทานข้าวแค่ทัพพีเดียวในแต่ละมื้อ ต่างจากเดิมกินข้าวมื้อละ 2 – 3 ทัพพี ขณะเดียวกันต้องมีการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย โดยตอนเย็นจะให้น้องวิ่ง หรือเตะบอล สิ่งสำคัญต้องให้น้องทานมื้อเย็นลดลง
แฟนคลับน้องที่ติดตามในโซเชียล ทั้งเพจเฟซบุ๊กชื่อ Gustun Phacharawit และติ๊กต่อกชื่อ sumetaunlamai ทักมาถามถึงเคล็ดลับลดน้ำหนักจำนวนมาก เนื่องจากลูกหลานที่บ้านมีปัญหาเรื่องความอ้วน และกังวลจะมีโรคตามมา จึงอยากให้คุณแม่ท่านอื่นค่อยๆ ลดอาหารของลูกลงก่อน โดยเฉพาะนมหวาน และช็อกโกแลต ควรให้ดื่มน้อยลง แต่ให้นมจืดแทน.