เรียกว่าเป็นเหตุ อุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญต่อเนื่อง สำหรับ คดี “แอม ไซยาไนด์” วางยาฆาตกรรม และคดีฆาตกรรม "น้องอ้อม" เซลส์สาวขายรถยนต์ วัย 35 ปี ที่หายตัวไปจากร้านกาแฟ ในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ก่อนจะถูกพบตัวกลายเป็นศพถูกข่มขืนและฆาตกรรม
ไม่นานนัก ตำรวจก็ตามรวบ ฆาตกรสุดเหี้ยมได้ เป็นชายวัย 41 ชื่อ ณัฐพล ผันผดุงทรัพย์ แถมมีประวัติโชกโชน เคยก่อเหตุใช้มีดจี้สาว 18 ไปทำอนาจารมาแล้ว เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เบื้องต้น ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หน่วงเหนี่ยวกักขัง พาไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย และเคลื่อนย้ายซ่อนเร้นอำพรางศพ
แต่ละข้อหาถือว่าร้ายแรงและหนักหน่วง ซึ่งประเด็นนี้ สังคมจึงอยากให้ได้รับโทษสูงสุด คือ การประหาร!
แต่...การประหาร ก็คือ ขั้นตอนทางกฎหมาย คำถามคือ คนชั่วช้าบางคน เลวโดยกมลสันดาน เมื่อเข้าคุกไปแล้ว เขาจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะคดี ฆ่า..ข่มขืน จริงหรือไม่ ที่เหล่านักโทษ “เกลียด” คนชั่วช้าลักษณะนี้ มีเหตุผลอะไร และทำไมถึงพ้นคุกรวดเร็วนัก เรื่องนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีคำตอบ...
...
จากการพูดคุยกับแหล่งข่าวในกรมราชทัณฑ์ ที่เคยทำงานคลุกคลีกับเหล่านักโทษพันธุ์โหดนี้ ได้อธิบายว่า
ขั้นตอนของเรือนจำ เมื่อนักโทษคดีเหล่านี้เข้ามาแล้ว จะต้องมีการอบรมหลักสูตร ประมาณ 3 เดือน โดยมีการเรียนวิชาต่างๆ เช่นการอดกลั้น หักห้ามใจ เรียนรู้เกี่ยวกับศาสนา ซึ่ง คนพวกนี้ก็มักจะ “แสนรู้” พอเข้ามาก็ปรับตัวรับทันที และไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทาง เรียกว่าตั้งใจเรียน
“นักโทษคดีทางเพศ เขาจะสอนวิธีการควบคุมอารมณ์ ปลดปล่อยอารมณ์ สิ่งที่ควรทำ สิ่งที่ไม่ควรทำ พวกนี้ทุกคน ตั้งใจเรียนมาก สอบได้คะแนนดีด้วย เรียกว่าอยู่ในคุก ทำตัวดีทุกอย่าง แต่เมื่อไรก็ตามที่พ้นโทษออกมาแล้ว ก็เหมือนเป็นการ “ปล่อยเสือเข้าป่า” พวกนี้ก็มักจะทำผิดอีก”
สิ่งที่ทำได้ในทางสังคม คือ ต้องควบคุมคนจำพวกนี้ให้นานที่สุด ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ก.ยุติธรรม ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย เรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ โดยเฉพาะคดีอาชญากรรม สะเทือนขวัญ จะไม่ได้รับการอภัยโทษ หรือ ได้รับการเลื่อนชั้นนักโทษ ช้ากว่าคดีอื่นๆ ตอนเข้ามาจะเป็นนักโทษชั้นเลว หรือ เลวมาก เรียกว่า กว่าจะได้พิจารณาการอภัยโทษ ต้องติดคุกอย่างน้อย 7 ปีบริบูรณ์
“พูดง่ายๆ คือ หากมีการอภัยโทษ ในช่วง 7 ปีแรก จะหมดสิทธิ์ได้รับ แต่หลังจาก 7 ปีไปแล้ว อาจจะมีโอกาสได้ แต่โอกาสจะน้อยมาก เพราะมีการเปลี่ยนแปลงกฎที่ว่า เป็นนักโทษชั้นกลาง จะไม่ได้รับการพิจารณา ต้องเป็นนักโทษชั้นดีอย่างเดียว สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะเขามีแนวคิดคือ การขังคนพวกนี้ให้นานที่สุด เพื่อแก้ปัญหาให้คนพวกนี้ออกไปทำร้ายคนอื่น”
แหล่งข่าวจากกรมราชทัณฑ์เผยอีกว่า สมัยก่อนคนพวกนี้มันหลุดเร็ว เพราะมันทำตัวดี ไม่ยอมทำผิดเลย จึงทำให้พ้นโทษไว แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว...
ถามว่าเจ้าหน้าที่เขาอบรมสั่งสอนมันดีไหม...คำตอบคือทำอย่างดี แต่ด้วยจิตสำนึกของคนเหล่านี้ มันยากที่จะแก้ไข เพราะว่าก่อนจะเข้ามาก็อยู่ในสังคมมานาน 10-20 ปี แต่จะแก้ไขใน 3 เดือน มันเป็นไปได้ยาก
เบื้องหลัง สาเหตุ “นักโทษ” เกลียดเดนมนุษย์ก่อคดีฆ่า ข่มขืน
สำหรับ สาเหตุที่กลุ่มนักโทษทั่วไป หรือ นักโทษที่มีโทษสูง เช่น คดียาเสพติด จะเกลียดเดนมนุษย์ที่ก่อคดีฆ่าเด็ก ทำร้ายเด็ก ฆ่าข่มขืนผู้หญิง มาก เพราะว่า นักโทษเหล่านั้นเขามองว่าเป็นส่วนหนึ่งทำให้เขาเดือดร้อน ไม่ได้รับการพิจารณาการลดโทษไปด้วย
...
ด้วยเหตุนี้ พวกคดีฆ่าข่มขืน มันจะไม่ยอมบอกใครทั้งนั้น คนที่รู้ ก็คือ พัศดี และเจ้าหน้าที่เรือนจำ หากมีข่าวสาร ทางเรือนจำก็จะไม่เผยแพร่ เจ้าหน้าที่เขาก็ไม่อยากจะบอก เพราะกลัวว่า เมื่อนักโทษคดีฆ่าข่มขืน เข้ามาเมื่อไร จะโดนรุมประชาทัณฑ์ หรือแม้แต่การโดนรุมข่มขืน เหมือนเป็นการ ข่มขืนเพื่อสั่งสอน
“พวก...ไม่ได้รับการ “อภัยฯ” ก็เพราะพวก... สังคมไม่ยอมรับก็เพราะพวก...”
เมื่อถามว่า ในอดีตคนเหล่านี้ถูกกระทืบจนตาย แหล่งข่าวจากกรมราชทัณฑ์ยอมรับว่า มีการรุมทำร้าย แต่ก็ไม่ถึงขั้นตาย แต่กว่าจะห้ามได้ก็โดนจนอ่วม
สำหรับ คดีที่นักโทษในเรือนจำ ไม่ยอมรับและแสดงความรังเกียจมากที่สุด คือ คดีฆ่าพ่อแม่ รองลงมือ คดีข่มขืนแล้วฆ่า โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิง
“คนที่ก่อคดีความทางเพศมา พอมาอยู่ข้างในจะทำตัวดีมาก ไม่กล้าที่จะไปลวนลามหรือข่มขืนใคร กลับกัน จะเป็นฝ่ายที่โดนกระทำมากกว่า สมมติว่า คดีล่าสุด ที่ไปทำร้ายสาวแว่น หากคนในคุกรู้ว่ามันเป็นใคร มันก็จะโดนแน่ๆ คนที่ทำเวรทำกรรมเหล่านี้ บางคนเข้ามาในเรือนจำ กลายเป็นผิดเพศไปเลย เพราะโดนคนในเรือนจำกระทำ บางคนกลายเป็นกะเทย เกย์ ไป เนื่องจากถูกโดนข่มขืนในคุกบ่อยๆ เหมือนเป็นเวรกรรมสนอง”
แต่...ก็มีเรื่องแปลกอยู่คือ เมื่อมันอยู่ในคุก กลายเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ แต่เมื่อมันออกมาได้ มันก็ไปข่มขืนคนอื่นอีก เพราะคนพวกนี้ “จิตใต้สำนึก” ไม่ได้ถูกแก้ไขโดยถาวร
...
สำหรับมุมมองของคนที่เคยทำงานเรือนจำ คลุกคลีกับนักโทษทุกประเภท มีความเห็นว่า สิ่งที่ควรทำ สำหรับนักโทษคดีฆ่าข่มขืน คือ การขังพวกมันให้นานที่สุด เพื่อไม่ให้มันออกไปทำร้ายสังคม
ประเด็นสำคัญอีกเรื่อง บางคน...จะแกล้งเป็นคนบ้า เรียกว่าคนบ้ามา 10 คน แกล้งบ้า 9 คน ที่เหลือนั้น “เลวโดยสันดาน” ทั้งนั้น... เพราะเวลาพิจารณาโทษจริงๆ ทางศาลท่านจะดูออก ว่าคนพวกนี้ไม่ได้บ้า! ในขณะเดียวกัน บางครั้งสังคมภายนอกไม่เข้าใจ คิดว่าบ้าจริงๆ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องเล่าส่วนหนึ่งจากเจ้าหน้าที่ ที่เคยทำงานในเรือนจำ ที่คลุกคลีกับนักโทษอัตราโทษสูง แล้วท่านผู้อ่านล่ะ คิดเห็นอย่างไร...
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านบทความที่น่าสนใจ
...