การตามล่ามือแฮกเกอร์ 9near Hacktivist ที่ประกาศขายข้อมูลคนไทย 55 ล้านคน สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนทั้งประเทศ ล่าสุดมีการแถลงข่าวพบผู้กระทำผิดเป็นทหารจ่าสิบโท มีการสันนิษฐานว่า ข้อมูลหลุดมาจากหน่วยงานราชการ

  • แฮกเกอร์ชื่อว่า 9near ประกาศขายข้อมูลบนเว็บไซต์แห่งหนึ่ง มีการอ้างว่า มีข้อมูลและรายชื่อคนไทย 55 ล้านคน ที่มาจากคลังข้อมูลหน่วยงานรัฐ หลังแฮกเกอร์รายนี้ ประกาศเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2566 ทำให้ประชาชนเริ่มตื่นตระหนก จนกระทรวงดิจิทัล ต้องสอบถามไปยังบริษัทเจ้าของโดเมน เพื่อตามหาคนร้าย

  • ปลายเดือน มี.ค. 2566 การเปิดฉากครั้งใหม่ได้เริ่มขึ้น 9near มีการส่งข้อความหาบุคคลที่มีชื่อเสียง อ้างว่า มีข้อมูลดังกล่าวจริง แต่หน่วยงานรัฐไม่เล่นด้วย เลยเริ่มขีดเส้นตายวันที่ 5 เม.ย. 2566 ถ้าไม่ยอมจ่ายเงิน จะเอาข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่ ไปเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ และเปลี่ยนจากการขายข้อมูลให้หน่วยงานรัฐ มาเป็นประเด็นให้ออกมายอมรับว่า ข้อมูลหลุดมาจากแหล่งใด
  • กระทรวงดิจิทัลฯ ออกมายืนยันว่า ไม่เชื่อว่าแฮกเกอร์มีข้อมูลจริง เพราะไม่มีหน่วยงานไหนมีข้อมูลขนาดนั้น ช่วงเย็นวันที่ 31 มี.ค. 2566 ได้ปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวเฉพาะในไทย

  • อินฟลูเอนเซอร์เทคโนโลยีรายหนึ่ง โพสต์ว่า ยุติภารกิจปล่อย 55 ล้านข้อมูลคนไทย เนื่องจากคนมาขอซื้อข้อมูล อยากเอาไปทำอะไรร้ายแรง ไม่ตรงกับอุดมการณ์ ต่อจากนั้นแฮกเกอร์รายดังกล่าวอ้างว่า ข้อมูลที่ได้มา ไม่ได้จากการซื้อต่อมา แต่มาจากการแฮกด้วยตนเอง

  • 7 เม.ย. 2566 พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เปิดเผยข้อมูลว่า ผู้กระทำความผิดเป็นทหารยศจ่าสิบโท คาดว่าแฮกเกอร์เป็นคนมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์
  • พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์การทำงานของแฮกเกอร์แน่ชัด โดยครั้งแรกแฮกเกอร์อ้างว่า ทำการขายข้อมูล ต่อมาได้ทำการเผยแพร่ข้อมูลของผู้มีชื่อเสียง และทำในลักษณะข่มขู่ มีการให้ข้อมูลลักษณะดิสเครดิตพรรคการเมืองและหน่วยงานรัฐ

  • นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ปัจจุบันมีกฎหมายปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ถ้ามีคนร้ายขโมยข้อมูล และนำข้อมูลไปใช้อย่างผิดกฎหมายจะมีโทษ และผู้ที่นำข้อมูลจากคนร้ายไปเผยแพร่หรือใช้ต่อ จะมีโทษด้วย จึงฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลตนเองกับผู้ที่ไม่รู้จัก

  • โทษกรณี 9near จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษสูงสุดจําคุก 5 ปี และการนําข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้อย่างผิดกฎหมาย เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อาจถูกจําคุก 1 ปี หรือปรับ 1 ล้านบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ.

...