หนุ่มสักหน้ายักษ์ วอนขอโอกาสทำงาน หลังตระเวนสมัครงานมาหลายบริษัท แต่ไม่รับทำงาน อ้างรอยสักบนหน้า ไม่สามารถทำงานได้ จนต้องขอข้าววัดประทังชีวิต เชื่อท้าวเวสสุวรรณ ช่วยเปลี่ยนชีวิตหลังสัก จากเกเรหันมาช่วยงานสังคม และงานวัดเป็นประจำ
คลิปชายสักใบหน้ารูปยักษ์ ขอโอกาสทำงานผ่านติ๊กต่อก ถูกเผยแพร่ผ่านช่อง ฅนหลังเลนส์ ฅนสมุทรปราการ มีผู้เข้าชมกว่า 6 หมื่นคน ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง วัดสำโรงใต้ (ปุณหังสนาวาส) จ.สมุทรปราการ ถึงกรณีดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากพระลูกวัดว่า ชายดังกล่าวชื่อ ป๋อง ไซโล มาช่วยงานวัดเป็นประจำ โดยอาศัยในบ้านพักซอยละแวกใกล้เคียงวัด
เมื่อทีมข่าวสอบถามไปยัง ป๋อง ไซโล อายุ 44 ปี ได้รับการยืนยันว่า คลิปดังกล่าวเป็นตนจริง ที่ผ่านมาพยายามไปสมัครงานหลายแห่ง แต่ทุกที่ปฏิเสธ แม้มีวุฒิการศึกษาชั้น ม.3 แต่ทุกบริษัทต่างบอกว่า ด้วยใบหน้าที่สักมาเป็นรูปยักษ์ จึงไม่รับเข้าทำงาน ทำให้ตนต้องไปขอข้าววัดทุกเช้า เพื่อมาให้ลูกและภรรยากิน จึงอยากขอโอกาสจากสังคม ในการทำงาน
...
”ที่ผ่านมาเคยขายไก่ย่างโรยงา และขับมอเตอร์ไซค์วิน เมื่อเกิดโควิด ทำให้รายได้ลดลง จนต้องหยุด เพื่อไปหางานประจำที่มั่นคงกว่าทำ แต่ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน อ้างว่าใบหน้าที่สักเป็นรูปยักษ์น่ากลัว ไม่เหมาะกับการทำงาน ทั้งที่บางงานไม่ต้องใช้หน้าตาทำงาน”
สำหรับเหตุผลที่ตัดสินใจสักหน้ายักษ์ เมื่อ 1 ปีที่แล้ว เพราะนับถือท้าวเวสสุวรรณ เลยคุยกับภรรยาว่า ขอสักหน้ายักษ์ ซึ่งภรรยาอนุญาติ เมื่อสักมาแล้วชีวิตก็เปลี่ยนไป จากคนที่เคยเกเร หันมาดูแลครอบครัว ช่วยงานสังคมส่วนรวมมากขึ้น แม้เพื่อนจะชวนไปดื่มเหล้า ก็ไม่อยากไปเหมือนก่อน เพราะรอยสักบนใบหน้าเหมือนสิ่งที่เตือนใจ ไม่ให้หันไปประพฤติไม่ดี
”ถึงจะท้อในการหางานทำ แต่ยังไม่อยากลบรอยสักบนใบหน้า เพราะมีค่าใช้จ่ายแพงในการลบ ประกอบกับทุกวันนี้ มีค่าใช้จ่าย ในการส่งลูกสาวเรียนค่อนข้างมาก ขณะที่ภรรยาก็ตกงานทั้งคู่ จึงต้องไปขอข้าววัดมาให้ลูกและภรรยากินทุกวัน โดยทุกเช้าจะไปช่วยจัดสำรับให้พระ ก่อนแบ่งอาหารที่ได้จากการบิณฑบาตกลับมาบ้าน”
หลังสักหน้ายักษ์ ชีวิตก็เปลี่ยนไป จากคนที่ไม่เคยเข้าวัด ก็ไปช่วยงานหลวงพ่อมากขึ้น บางครั้งเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตจมน้ำ ก็ไปช่วยงมหาศพ และไปช่วยทำศพผู้เสียชีวิตในละแวกบ้านเกือบทุกงาน โดยไม่ได้รับเงิน จากญาติผู้ตาย จนพระในวัดแปลกใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
”ผมเคยท้อในการหางาน จนเดินขึ้นไปบนสะพานภูมิพล ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกอยากเดินไปเรื่อยๆ แต่ก็เกิดความคิดว่า ไม่อยากจะฆ่าตัวตาย เพราะยังมีลูกเมียที่ต้องดูแล เลยอยากขอโอกาส จากบริษัทต่างๆ ให้ผมได้ทำงาน แม้เป็นเพียงพนักงาน รปภ. แต่พร้อมจะทำงานทุกอย่างเต็มที่ เพราะลูกสาวก็ต้องใช้เงินในการเรียนหนังสือเพิ่มขึ้น”
...
ด้านพระลูกวัด สำโรงใต้ (ปุณหังสนาวาส) จ.สมุทรปราการ ให้ข้อมูลว่า โยมป๋อง เป็นคนในพื้นที่ เคยมาบวชที่วัด หลังจากไปสักใบหน้าเป็นรูปยักษ์แล้ว อุปนิสัยเปลี่ยนไป จากเคยเกเร ก็มีความรับผิดชอบมากขึ้น พอวัดมีงานบุญก็จะอาสามาช่วยโดยไม่รับเงิน
คนที่มาวัดพอเห็นก็ไม่ได้กลัว เพราะคนในชุมชนเห็นแกมาโดยตลอด แถมยังชื่นชมว่า อุปนิสัยเปลี่ยนไป ช่วยงานส่วนรวมมากขึ้น จึงอยากให้คนสังคมเปิดโอกาส อย่ามองเพียงหน้าตา ให้มองการกระทำเป็นหลัก เพราะคนหน้าตาดี แต่งตัวดี แต่ประพฤติตนเองในทางผิดก็มาก จึงอยากให้มองการประพฤติในด้านดีของแกเป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะเยาวชนที่กำลังหลงผิด.
ขอขอบคุณภาพจากเพจ วัดสำโรงใต้ จังหวัดสมุทรปราการ